ภูเก็ต

            ไปภูเก็ตคราวนี้ตกไปข้อหนึ่ง  คือไม่ได้ขับไป เพระมีพรรคพวกอาสาหารถโฟล์คตู้ใหม่เอี่ยมเอามาให้นั่ง มีคนขับเรียบร้อย บริการเยี่ยมผลคือ ผมนั่งสบายหลับไปเกือบตลอดทาง เลยเป็นทัวร์กิน มากกว่า เที่ยวไป กินไป แต่ก็ได้อะไรมาเล่าให้ทราบแยะเหมือนกัน ผมใจร้อนอยากเล่าเรื่องของภูเก็ตเสียก่อน เลยโดดข้ามเมืองที่เป็นทางผ่านไปก่อน  เพราะอยากให้ไปเที่ยวภูเก็ตกันเร็ว ๆ และมกาเหมือนเดิม หลังจากที่ภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับภัยธรรมชาติ จากคลื่นยักษ์สินามิ เมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ ทำให้การท่องเที่ยวซบเซา แต่วันที่ผมไปคราวนี้สังเกตดูคนต่างชาติ โดยเฉพาะฝรั่งมาเที่ยวกันมาก จะมากกว่าคนไทยด้วยซ้ำไป ตั้งใจจะไปเยี่ยมโรงแรม แต่คงเป็นการไปเยี่ยม "คน" คือ เจ้าของกิจการที่อยากให้ไปเห็น ไปให้กำลังใจเพื่อต่อสู้ต่อไป เพราะทั้งโรงแรมและร้านอาหาร บอกว่าไม่เหลือแม้แต่ซากเอาไว้ให้ชมอีกแล้ว คงเหลือแต่ที่ดินที่เคยเป็นที่ตั้งของโรงแรม และร้านอาหาร แต่ปรากฎว่าพอไปเข้าจริง ๆ กลับไม่ได้ไปเยี่ยม ได้แต่คุยนัดหมายกันทางโทรศัพท์ บอกว่าพรุ่งนี้ผมไปแน่ แต่ก่อนวันนัดหมาย ๑ วัน ปรากฎว่ามีแผ่นดินไหวขนาด ๗.๓ ริคเกอร์ แต่ไกลจากเกาะภูเก็ตมากกว่า ๖๐๐ กิโลเมตร ภูเก็ตฝั่งตะวันตกคือ ฝั่งหาดป่าตอง แต่ไม่ใช่ตรงหาดป่าตอง ที่หาดบางเทา มีคลื่นสูงประมาณ ๔ เมตร ซึ่งจะเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่ลงไปเล่นน้ำ ฝรั่งชาวอิตาลีสองผัวเมีย ไปนอนเล่นชายหาดเทา ฝ่ายเมียนอนเล่น ฝรั่งผัวลงไปว่ายน้ำ ไม่สนใจคำประกาศที่เขาบอกว่า แผ่นดินไหว คลื่นจะสูง ผลคือ ฝรั่งผัวหายไปในทะเล ทำให้แผ่นดินไหวคราวนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทะเลไทย เกี่ยวตรงที่ทำให้คลื่นสูงขึ้น หากเชื่อคำประกาศที่มีการเตรียมการดี คงไม่มีใครเป็นอันตราย ฝรั่งเลยตายไป ๑ คน ลืมถามไปว่าประกาศกี่ภาษา ส่วนผมยังไม่ได้ไปทางฝั่งหาดบางเทา เพราะนัดกันวันพรุ่งนี้ถึงจะไป ส่วนวันที่แผ่นดินไหวนั้น ผมไปที่ "เกาะรังใหญ่" ฟาร์มไข่มุก ซึ่งอยู่ทะเลฝั่งตะวันออกของเกาะ ทะเลเรียบเป็นปกติฝนตกปรอย ๆ แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยไม่รู้เรื่องว่า อีกฟากหนึ่งเขาเกิดคลื่นลมแรง จนขึ้นเกิดอันตราย แต่พอวันรุ่งขึ้นซึ่งมีเวลาเที่ยวอีกเต็มวัน เพราะทั้งคณะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูกกันไว้แล้ว เครื่องบินจะออกจากภูเก็ตตอนกลางคืน แต่เขาแจ้งมาว่า เลื่อนเวลาออกไปประมาณ ๕ ชั่วโมง คงจะถึงบ้านสักตีสอง  ตีสาม และตอนเช้าผมมีธุระต้องไปลพบุรีแต่เช้า หลายคนในคณะก็ล้วนแต่มีเรื่องจะทำกันในตอนเช้า สุดท้ายงดไปหาดป่าตองนั่งรถโฟล์คตู้ กลับเหมือนขามากว่าจะมาถึงบ้าน ก็ประมาณสี่ทุ่ม  แทนที่จะได้เที่ยวภูเก็ตอีกวันเต็ม ๆ ต้องนั่งรถกลับรวดเดียวถึงกรุงเทพ ฯ มีคนขับให้นั่งสบายดี แต่ก็หลับสบายดีเหมือนกัน หรือมัวแต่คุยกันแทบจะไม่เห็นอะไร ไม่เหมือนขับเอง ขับไป เที่ยวไป กินไป จึงจะสนุก  ทัวร์ของผมเที่ยวนี้เลยเหลือแต่คำว่ากินไป เสียเป็นส่วนใหญ่
            ไปภูเก็ตคราวนี้ตอนเที่ยวไป ผมไปผ่านชุมพร แล้วมาผ่านพุนพิน พอถึงกิโลเมตร ๑๘๙.๕ ก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายใหม่ ที่เขาเรียกกันว่า ถนนอันดามัน เพราะเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างฝั่งทะเลอันดามันแล้ว ตัดตรงมายังฝั่งอ่าวไทย ที่อำเภอกาญจนดิษฐ จังหวัดสุราษฎร์ธานี  เพื่อไปนครศรีธรรมราช ตรังก่อน ระยะทางจาก อำเภออ่าวลึก มายังกาญจนดิษฐระยะทาง ๑๒๕ กิโลเมตร ถนนแจ่มแจ๋วมาก เพราะเป็นถนนสี่เลนที่ประหลาดด้วย คือ จะวิ่งเลนไป หรือวิ่งเลนมาจะมองไม่เห็นอีกเลนหนึ่ง คือ เลนคู่ขนานนั้นจะอยู่ห่างกัน จนมองไม่เห็นกัน และกั้นด้วยต้นไม้ที่รกทึบ ทำให้วิ่งฉลุยไปเลย ไม่มีคดเคี้ยวไปตามไหล่เขาด้วย จึงวิ่งได้เร็วมาก โดยปกติการไปภูเก็ตนั้น เส้นทางดั้งเดิมคือ ชุมพร ระนอง ตะกั่วป่า โคกกลอย ภูเก็ต  อีกเส้นทางคือ ระนอง ชุมพร หลังสวน พุนพิน เลี้ยวขวาตรงสหกรณ์โคออฟ ไปผ่านเขื่อนรัชชประภาไปออก พังงาตรง อำเภอทับปุด เลี้ยวซ้ายอ้อมเขานางหงส์ ไปบรรจบกับเพชรเกษมหรือสาย ๔ อีกครั้ง จุดที่บรรจบนี้ทางขวาคือ สวนศรีนครินทร์  ซึ่งมีอนุสาวรีย์สมเด็จย่า ของปวงชนชาวไทยอยู่ด้วย ประทับนั่งหันพระพักตร์ไปสู่ถนนสาย ๔ เป็นสวนที่มีธรรมชาติงดงามมาก งามตั้งแต่เลี้ยวขวาวิ่งไปตามถนนที่ลอดใต้ภูเขาเข้าไปเลยทีเดียว และภูเขาลูกนี้เขาบอกว่า นักปีนเขามือหัดใหม่ จะมาหัดปีนเขากันที่สวนนี้ ผมเคยเห็นเด็กสาว ๆ มาหัดปีนกัน
            เมื่อเข้าไปกราบสมเด็จย่าแล้ว ก็ออกจากสวนเลี้ยวซ้ายไปผ่านตะกั่วทุ่ง พอถึงสามแยกที่ตรงไปจะไปโคกกลอย ก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปผ่านโคกกลอยเหมือนเมื่อก่อน  ให้ตรงไปเลยจะไปข้ามสะพานเทพกระษัตรี จากนั้นไปอีก ๔๕ กิโลเมตร จะถึงชุมชนอำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งเดี๋ยวนี้ความเจริญขยายออกมาจนถึง อำเถอถลาง แล้ว และเกิดถนนบายพาส ข้ามไปสู่ฝั่งตะวันตกของเกาะได้สะดวกมาก
            วันกลับจากภูเก็ต พอข้ามสะพานสารสินแล้ว ก็วิ่งมาจนบรรจบกับถนนสาย ๔ ผ่านตะกั่วทุ่ง มาเลี้ยวขวาตรงมุมทางเข้าสวนสมเด็จย่า เพื่อไปออก อำเภอทับปุด เลี้ยวขวาจากสาย ๔ ไปแล้ว ถ้าหิวหรืออยากลองชิมก็มีหมูสะเต๊ะ เจ้าอร่อยที่ชิมกันมานาน อยู่ทางฝั่งขวามือ ตึกแถวชั้นเดียวมี ๔ ห้อง เขาเอาหมูสะเต๊ะที่หมักแล้ว ใส่ไว้ในกระติกน้ำแข็งใบโต ต้องสั่งขนมปังปิ้งด้วย อย่าลืมหากจะแวะต้องร้านหัวมุมห้องเดียว ชื่อยาวดีอร่อยจริง ๆ
            เมื่อบรรจบกับถนนสาย ๔ แล้วก็เลี้ยวขวาวิ่งไปทางกระบี่ จนจวนจะถึงอำเภออ่าวลึก ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๑๓๖.๙๐๐ เรียกว่า สามแยกบากัน จุดนี้ห่างจากตัว อำเภอกระบี่ ๓๓ กิโลเมตร พอถึงสามแยกบากัน ก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอันดามัน เขาไม่มีชื่ออย่างนี้แต่เขาเรียกกัน ชื่อเป็นทางการคือ ทางหลวงแผ่นดินสาย ๔๔ คงจะพึ่งตัดเสร็จไม่นานมานี้เอง ผมยังไม่เคยวิ่งเส้นนี้มาก่อนเลย และพึ่งงดไม่ได้ไปภูเก็ตมาก็ประมาณสองปี ไปครั้งสุดท้ายคือ ตอนไปตระเวนเพื่อเขียนเรื่องอร่อยทั่วไทย ไปกับ ปตท. ที่หนังสือนี้มี ๖ เล่ม ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย มีขายตามปั๊มน้ำมัน ปตท. เป็นหนังสือขายดีไม่ทราบว่า เขาพิมพ์ไปกี่รอบแล้ว จากสามแยกบากัน ก็จะวิ่งฉลุยเร็วมาก จนไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินสาย ๔๑ ที่กิโลเมตร ๑๘๙.๕ แล้วก็เลี้ยวซ้ายไปพุนพิน แวะเข้าสุขา หรือซื้อของฝากที่สหกรณ์โคออฟ ที่เดี๋ยวนี้คนแวะกันแน่นขนัด หรือจะวิ่งเลยมาจนถึงกิโลเมตร ๔๓๑ เข้าศูนย์บริการของทางหลวงแผ่นดิน ก็ได้ซึ่งมีพร้อมทั้งสุขาที่เป็นสากล ปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่ไม่รับบัตรเครดิต อาหาร ของฝากที่ราคาไม่ค่อยจะถูกนัก (แม่ค้าบอกว่า ค่าเช่าที่แพง เลยขายถูก ๆ ไม่ได้ )
            ผมยังไปไม่ถึงภูเก็ตสักที  เพราะกำลังเห่อถนนสายอันดามัน ที่ชาวบ้านตั้งชื่อให้ แต่ถนนน่าวิ่งจริง ๆ ตรงแน่ว วิ่งลิ่วไปเลย
            เข้าเมืองภูเก็ต วันแรกที่ไปถึงเย็นแล้ว ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน พักที่โรงแรม เย็นวันที่ไปถึงก็ไปกินอาหารเย็นที่ร้าน ซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือที่จะข้ามไปยัง เกาะไข่นก เกาะรังใหญ่ได้ เดี๋ยวผมจะพากัลับมากินอาหารอร่อย ตอนนี้ไปเที่ยวฟาร์มไข่มุก กับผมก่อน
            จากสะพานเทพกระษัตรี วิ่งมาผ่าน อำเภอถลาง ผ่านอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร (บางแห่งเขียนว่า เทพกษัตรี แปลว่า ผู้หญิงเช่นกัน)  วิ่งมาประมาณ ๓๖ กิโลเมตร จะถึง โบทลากูน (BOAT LAGOON)  จะต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปก่อน ก่อนเลี้ยวซ้ายมีตึกแถวหลายห้อง หน้าทางเข้ามีร้านขายมุกที่งดงาม เป็นมุกเลี้ยงจากฟาร์ม ไปชมมุกที่ฟาร์มแล้ว จะกลับมาซื้อที่บริษัทแห่งนี้ก็ได้

            การไปเที่ยวเกาะไข่นก  เกาะรังใหญ่ เขามีโปรแกรมให้เลือกเที่ยวได้หลายโปรแกรม เช่น โปรแกรม SB ๐๒ ไปเที่ยว ๒ เกาะ ลงเรือไปเกาะไข่นกก่อนแล้วพักผ่อน ด้วยการลงเล่นน้ำที่ชายหาดเกาะไข่นกที่แสนสวย และกิจกรรมอื่น ๆ ต่อจากนั้นพอใกล้เที่ยงก็ลงเรือไปยังเกาะรังใหญ่ ทีนี้ได้กินอาหารรสเลิศ อาหารทะเลสด ๆ แล้วชมฟาร์มไข่มุก ฟังคำบรรยายและชมฟาร์มที่อยู่ในทะเลรอบ ๆ เกาะ จะลงเล่นน้ำ ตีกอล์ฟสนามเล็ก วอลเล่ย์บอล ปาเป้า เดิน นอนชายหาด ฯ ตามสบายจนเย็นจึงเดินทางกลับ ทั้งไป ทั้งกลับด้วยเรือเร็ว ทีใช้เวลาไม่กี่นาทีและปลอดภัย เกาะรังใหญ่ ยังไม่มีที่พักแต่หากใครต้องการค้างคืน ก็เช่าเต๊นท์นอนได้ ทัวร์นี้ไม่ค้างรวมหมด ตั้งแต่รถไปรับที่โรงแรม ค่าเรือ ค่านำเที่ยวและอาหารกลางวัน ซึ่งห้องอาหารที่เกาะรังใหญ่เปิดบริการ ๓ มื้อ จะไปเที่ยวเกาะไข่นก เกาะรังใหญ่ ติดต่อ ๐๗๖ ๒๓๙ ๗๒๔ ๒๓๘ ๗๘๑
            ที่โบท  ลากูน นี้หากเลี้ยวเข้าไปเที่ยวชม ไม่ได้ลงเรือไปเกาะรังใหญ่ เข้าไปแล้วจะนึกว่าอยู่ต่างประเทศ และหากว่าเคยไปนิวซีแลนด์เมืองโอ๊คแลนด์ หรืออ่าวฮ่องกง มาแล้วจะตกใจ นึกว่ากำลังอยู่ที่ประเทศดังกล่าว เพราะในอ่าวน้อย ๆ แห่งนี้ " เรือยอร์ช " นับร้อยลำ สวย ๆ ทั้งนั้น จอดกันเต็มอ่าว แน่นขนัดเลยทีเดียว บางลำก็ไม่ได้จอดอยู่ในน้ำ ขึ้นมาจอดขึ้นคานอยู่บนบกเพื่อรอการซ่อม เป็นเรือที่เดินทางท่องเที่ยวมาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ของเศรษฐีคนไทยก็คงมีบ้าง เรือลำโต ๆ สวย ๆ ทั้งนั้น เรียกว่าราคาแต่ละลำคงเกินล้านบาท และที่โบทลากูนนี้มีโรงแรมเล็ก ๆ สวย มีร้านคอฟฟี่ มีขนมเค๊กด้วย ให้นั่งจิบกาแฟ ชมวิว ชมสาวฝรั่งที่นุ่งน้อย ห่มน้อยเดินผ่านให้ชมมากกว่าสาวไทย  การลงเรือไปเที่ยวเกาะจะลงเรือที่นี่ หรือติดต่อไปลงเรือที่ท่าเรือแหลมหิน ก็แล้วแต่จะตกลงกัน หากไปเป็นหมู่คณะอย่างพวกผมไป ผมไปลงเรือกันที่ท่าเรือติดกับภัตตาคารแหลมหิน ซีฟู๊ด และที่โบทลากูนนี้มีสุขาอย่างดี เป็นสากลไว้บริการฟรีด้วย ใกล้ร้านกาแฟ ผมบอกเอาไว้ เพราะหาสุขาเป็นสากลนั้นหายาก นักสำหรับเมืองไทย รัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ท่านบอกผมว่า จะมีการประชุมส้วมโลก (เขาเรียกอย่างนี้)  ที่เมืองไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๙ บอกว่าจะทำส้วมเมืองไทย ที่เป็นส้วมของภัตตาคาร ปั๊มน้ำมัน และส้วมสาธารณะให้สะอาดเป็นสากลเสียก่อน ก็ขอให้ท่านทำสำเร็จ จะเป็นกุศลแก่นักเดินทาง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพราะผมบอกไว้หลายครั้งแล้ว คงเกินกว่าสิบครั้ง ว่าคนที่ลำบากเหลือเกินในการสุขา ระหว่างการเดินทาง (ยิ่งในกรุงยิ่งแย่)  ได้แก่ คนอ้วน คนพิการ คนสูงอายุ และชาวต่างประเทศ รัฐมนตรี อนุทิน เติมให้อีก ผู้หญิงท้อง ซึ่งบุคคลดังกล่าวนี้จะนั่งยอง ๆ ลำบากมาก ผู้หญิงท้อง ผมนับรวมไว้กับประเภทคนอ้วน ไปเจอทีไหนดีและเป็นสากลจึงนำเอามาบอก และบันทึกไว้เลยที่เดียว ผมเขียนบ่อย ๆ โปรดอย่ารำคาญ ช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยวและช่วยคนแก่ ฯ

            คณะของผมลงเรือที่ท่าเรือแหลมหิน วิ่งไปสัก ๑๐ นาที ก็จะถึงเกาะรังใหญ่ พอไปถึงพนักงานต้อนรับก็บริการน้ำดื่ม โดยเรือจะวิ่งผ่านเกาะมะพร้าวไปก่อน เกาะมะพร้าวจะบังเกาะรังใหญ่อยู่ ทำให้มองจากฝั่งจะไม่เห็นเกาะรังใหญ่ เกาะมะพร้าวมีคนไทยอิสลาม มีโรงเรียนแต่ก็เป็นเกาะที่ไม่ใหญ่นัก ส่วนเกาะรังใหญ่นั้น เป็นเกาะของเอกชน มีพื้นที่ประมาณ ๒๗๕ ไร่
            พนักงานต้อนรับพาเข้าห้องฟังการบรรยายสรุปเรื่องการเลี้ยงมุก
            หอยที่นำมาเลี้ยงให้เกิดมุกนั้นมี ๓ ชนิด มีหอย AKOYA MAME  และ SOUTH SEA  เขาก็เอาหอย เซาท์ ซี ที่ยังเป็น ๆ อยู่เอามาผ่าให้ดู ไข่มุกที่ฝังแน่นอยู่กับเปลือกหอย ผ่าให้ดูแบบนี้หอยตายเอาเนื้อไปกินได้ หอยเซาท์ซีตัวจะโตที่สุด แต่เวลาเขาแกะเพื่อฝังนิวเคลียสนั้น หอยไม่ตาย นิวเคลียสที่ฝังเข้าไป ทำจากเปลือกหอยน้ำจืด เอามาเจียให้กลมเสียก่อน แล้วจึงฝังเข้าไป เมื่อฝังแล้วเขามีตะแกรงตาห่าง ๆ หนีบตัวหอยเอาไว้ไม่ให้อ้าปากกว้าง จนนิวเคลียสตกลงน้ำไปได้ แล้วจึงเอาลงไปแขวนไว้ในฟาร์มในทะเล นานเท่าไรขึ้นอยู่กับประเภทหอยที่เอามาฝังนิวเคลียส หอยมาเม จะใช้เวลาผลิตน้อย เพราะหอยตัวเล็กจะได้มุกซีก ๒ - ๙ มิลลิเมตร ส่วนหอยเซาท์ซี เป็นหอยตัวใหญ่ อายุยืนร่วม ๑๕ ปี อยู่ในน้ำลึก ๓๐ - ๕๐ เมตร จะได้มุกเม็ดกลมใหญ่ขนาด ๑๐ - ๒๐ มิลลิเมตร การเอามุกออกมาจากตัวหอยนั้น จะมีหลายระยะเวลาแล้วแต่ชนิดของหอย  ตั้งแต่ ๒ ปี ๕ ปี  ๘ ปี ยิ่งนานจะได้มุกเม็ดโต แต่ต้องขึ้นกับชนิดของหอยด้วย การเลี้ยงมุกนั้นมีทั้งน้ำเค็ม และมุกน้ำจืด แต่ที่ไปชมของฟาร์มเกาะรังใหญ่ เลี้ยงแต่มุกน้ำเค็มซึ่งจะได้มุกที่งดงามกว่า ส่วนมุกธรรมชาติเกิดจากการที่เศษหิน เศษทรายหลุดเข้าไปในตัวหอย หอยจึงปล่อยน้ำเมือกออกมาห่อหุ้มเอาไว้ จนกลายเป็นไข่มุก จบจากห้องสาธิตแล้ว ก็พาไปยังห้องจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมุก มีตั้งแต่ของที่ระลึก เช่น พวงกุญแจ ราคาไม่กี่บาท ไปจนถึงครบชุดราคาหลายแสน คือ มีทั้งสร้อยมุก แหวน ตุ้มหู ฯ ใส่กล่องสวยน่าชม น่าซื้อ เวลาเลขาตลอดกาลของผมเดินเข้าไปชมชุดละเป็นแสน ผมเลี่ยงไปชมพวงกุญแจ ใช้วิธีนี้จึงรอดตัวไป เพราะถึงไม่มีเงินสดแต่เขาก็รับบัตรเครดิต
            จากห้องจำหน่ายทีนี้ ไปยังห้องที่ผมอยากรีบไป คือ ห้องอาหารที่ปลูกศาลาโปร่ง โล่งริมทะเล อากาศดีไม่ต้องใช้พัดลม
            จานแรกเสริฟยังกับกินอาหารฝรั่ง คือ ซุป คนละถ้วยแต่ความจริงคือ ต้มข่าไก่แต่รสชาติดีเยี่ยม พอซดซุปหมดถ้วยแล้ว ทีนี้ตามมาเป็นแถวเสริฟแบบอาหารไทย ผัดผักรวม ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ปลาเปรี้ยวหวาน เทมปุระ รายการที่ยกให้เป็นยอดคือ แกงเขียวหวานไก่ พริกขี้หนูสด ชื่อน่ากลัวเผ็ด แต่เผ็ดนิด ๆ เป็นเผ็ดอร่อย ราดข้าวอร่อยนัก ของหวานเป็นผลไม้
            มื้อเย็น วันแรกที่ไปถึง ที่ร้านอาหาร
            เส้นทาง หากไปจากในตัวเมืองภูเก็ต เช่น จากโรงแรมที่ผมพัก วิ่งออกไปจากตัวเมืองให้สังเกตหลักกิโลเมตรข้างทาง พอถึงประมาณกิโลเมตร ๕.๕๐๐ ให้วิ่งเลยไปกลับรถ และก่อนถึงจุดนี้ จะมีป้ายใหญ่บอกไว้ว่าให้กลับรถไปยังเกาะรังใหญ่ กลับรถแล้ววิ่งกลับมาแล้วเลี้ยวซ้าย ไปท่าเรือเกาะรังใหญ่ ตามป้ายไประยะทาง ๑.๘๓ กิโลเมตร ถนนคดเลี้ยวไปทางไหนเลี้ยวด้วย อย่าเผลอแยกไปทางอื่น ไปตามป้ายร้านจนจรดท่าเรือริมฝั่งทะเล  ร้านอยู่ที่บ้านแหลมหิน ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง ภูเก็ต ติดกับท่าเรือที่จะไปยังเกาะไข่นก และเกาะรังใหญ่ ร้านนี้พึ่งเปิดมาไม่กี่ปีนี้เอง และเห็นมีป้าย คลีนฟู๊ด กู๊ด เทสท์ ของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว แสดงว่าได้การรับรองในความสะอาดรสชาติอร่อย กลัวไม่ได้ที่นั่งที่ริมระเบียงที่ยื่นออกไปในทะเลละก็ โทรจองที่นั่งเสียก่อน ขอริมระเบียงติดทะเลและไปก่อนที่จะมืด เพราะจะได้ชมความงามของทะเล มองเห็นเรือวิ่ง เห็นเกาะมะพร้าว สั่งอาหารที่อร่อยสุด ๆ นับว่าเป็นต้นตำรับเลยทีเดียว คือ
            ห่อหมกปลา รองด้วยใบชะพลู เป็นห่อหมกสด จึงยกให้เป็นต้นตำรับ จะนึ่งเมื่อสั่ง ห่อไม่โตนัก ลงจากลังถึงที่นึ่ง ก็ยกมาเสริฟร้อน ๆ เลยทีเดียว อร่อยโดยไม่ขออธิบาย
            เบือทอด เบือนั้นคือ หญ้าชนิดหนึ่ง ไม่ทราบว่ามีที่จังหวัดไหนบ้าง แต่พบว่าเอามาทำเป็นอาหารก็ที่เมืองภูเก็ตนี่แหละ เขาเอาหญ้าเบือกับกุ้งมาชุปแป้งทอดจนกรอบนอก นุ่มใน แล้วจิ้มน้ำจิ้มคล้ายน้ำจิ้มเทมปุระ จะอร่อยมาก ไปหลายคนระวังจะแย่งกันกิน ควรสั่ง ๒ จาน
            เมี่ยงปลากะพง กินกับใบชะพลู วางใบชะพลูลงบนจานแล้ว โรยด้วยปลากะพงทอด ใส่เครื่องเคียง มีขิง หัวหอม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ พริกขี้หนูสด เคี้ยวมันอย่าบอกใคร
            ปลากะพงเผาเกลือ เนื้อปลาขาวน่ากิน นุ่ม เหนียวหนึบ แปลกที่จิ้มด้วยน้ำปลาหวาน หรือน้ำจิ้มซีฟู๊ด ก็ได้
            น้ำพริกกุ้งเสียบ ร้านนี้ใช้น้ำพริกกุ้งเสียบของร้านคุณแม่จู้ อร่อยมากผมซื้อกลับมา แต่ตอนจะชิมผมทอดไข่เจียวร้อน ๆ แล้วแนมด้วยผักสด ข้าว ๒ จาน หมดไม่รู้ตัว วันนี้ไม่ได้สั่งไข่เจียว มาแนมน้ำพริกกุ้งเสียบ แต่มีผัก ต้องกินกับสะตอด้วยจะยิ่งเข้ากัน
            อาหารประเภทสมุนไพรของเขาก็มี เช่น ปลากะพงสมุนไพร
            กุ้งอบเกลือ ใช้กุ้งแชบ๊วยตัวโต เนื้อแน่น จิ้มด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ด
            ปิดท้ายด้วยผลไม้ตามฤดูกาล ที่ขาดไม่ได้คือ สัปปะรดภูเก็ต ที่หวานกรอบ

| หน้าต่อไป | บน |

ภาคกลาง นครปฐม ลพบุรี ละโว้ สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี อุทัยธานี เมืองเก่ากาญจนบุรี เมืองโบราณ เมืองอู่ทอง พระประแดง ดอนเจดีย์ สาครบุรี สามชุก ตำบลปิล๊อค บ้านกรูด บ้านสาขลา พระบรมมหาราชวัง พระนารายณ์ราชนิเวศน์ วังบางขุนพรหม วังพญาไท วังวรดิศ วังสนามจันทร์ วังสวนกุหลาบ โลหะปราสาท ปราสาทเมืองสิงห์ ปราสาทสัจธรรม ป้อมพระจุลฯ พระนเรศวรมหาราช แม่ทัพคู่บัลลังก์ พิพิธภัณฑ์จันเสน วัดกู้ วัดเขาวงพระจันทร์ วัดในเกาะเกร็ด วัดเขานางบวช วัดเฉลิมพระเกียรติฯ วัดท่าสุทธาวาส วัดพระศรีมหาธาตุ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดมหรรณพาราม วัดหนองนกไข่ วัดบางพลีใหญ่ วัดบางนมโค วัดบุปผาราม วัดโบสถ์ วัดยานนาวา วัดระฆังโฆษิตารามฯ วัดราชนัดดา วัดไร่ขิง วัดลำพญา วัดเวฬุวัน วัดศาลเจ้า หลวงพ่อบ้านแหลม พระพุทธไสยาสน์ พุทธมณฑล พระบาทเขาวงพระจันทร์ ด่านเจดีย์สามองค์ พระเจดีย์กลางน้ำ พระเจดีย์เกษแก้ว พุทธสถานจีเต็กลิ้ม สวนพฤกษศาสตร์ สวนสมเด็จฯ(๒) แก่งกระจาน น้ำตกนางครวญ แม่น้ำเพชร คลองบางกอกน้อย บึงฉวาก ทะเลกรุงเทพฯ ถ้ำเขาหลวง อุทยานเก้าทัพ อุทยานทองผาภูมิ ทุ่งทานตะวัน ละลุ หว้ากอ เหมืองปิล๊อก ศูนย์ศิลปาชีพ ถนนบางขุนเทียน สะพานสุขตา สยามนิรมิต ตลาดคลองสวน ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ตลาดน้ำวัดแสงศิริธรรม ตลาดบางพลีใหญ่ ตลาดบองมาร์เช่ ตลาดศรีประจันต์ ก๋วยเตี๋ยวเรือนไม้ อร่อยถนนแปลงนาม อร่อยย่านวิเศษชัยชาญ

ภาคตะวันออก เที่ยวเมืองจันท์ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว อ่างศิลา บ้านดงละคร วัดบางกระเบา วัดคลองขุด วัดแสนตุ่ม เจ้าพ่อซำปอกง ศาลพระปิ่นเกล้า ฯ ปางสีดา แก่งหินเพิง เขื่อนคลองท่าด่าน เกาะสีชัง แหลมเสด็จ อุทยานทับลาน ค่ายเนินวง คุกขี้ไก่ ร.ร.นายร้อย จปร. ปราสาทสด๊กก็อกธม ปราสาทสต๊อกก็อกธม อู่ต่อเรือพระเจ้าตาก แรลลี่ที่ระยอง ภาคใต้ ล่องใต้ ภูเก็ต ไปชุมพร ระนอง เบตง ยะรัง ลังกาสุกะ หาดใหญ่ วัดเขาขุนพนม วัดในภูเก็ต วัดพระมหาธาตุ วัดพระนางสร้าง หลวงพ่อขวาง พระมหาธาตุเจดีย์ พระมหาธาตุภักดีประกาศ พระตำหนักเมืองนคร อุทยานเขาสก อุทยานสิรินาถ น้ำตกขาอ่อน เที่ยวเกาะ เกาะนางยวน เกาะยอ เกาะลันตา ทะเลหลังสวน หาดทรายรี หาดทอง ท่าตะเภา โครงการส่วนพระองค์ บ้านขนมจีน อื่นๆ เจ้าตากเดินทัพ ตำนานปืนใหญ่ ปันจักสิลัต สมุนไพรฮว่านง็อก

ภาคเหนือตอนบน แม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอก เชียงใหม่ เชียงของ ลำพูน เมืองเชียงแสน ปาย เวียงท่ากาน ไหว้พระเก้าวัด วัดเกตการาม วัดเชียงใหม่ วัดเจดีย์ซาว วัดดอนแก้ว วัดพม่า วัดพระแก้ว วัดพระพุทธบาทสี่รอย วัดพระสิงห์ วัดในแม่ฮ่องสอน วัดร่องขุ่น พระแท่นศิลาอาสน์ พระธาตุจอมแจ้ง พระธาตุช่อแฮ พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุดอยเวา พระธาตุม่อนจอมผ่อ พระธาตุแม่เจดีย์ ผาตั้ง ภูชี้ฟ้า ถ้ำปลา-ถ้ำลอด แม่ฝาง เกษตรอ่างขาง ทุ่งบัวตอง กองแลน-โป่งเดือด ปางตอง-ปางอุ๋ง โครงการหมอกจ๋าม สวนแม่ฟ้าหลวง อุทยานแจ้ซ้อน บ่อเหล็กน้ำพี้ กว๊านพะเยา ท่ากว๊าน กองพล ๙๓ คุ้มนายพล อนุสรณ์สถาน หอฝิ่น พระเจ้าทองทิพย์ งานชาที่ดอยแม่สลอง

ภาคเหนือตอนล่าง กำแพงเพชร แม่สอด เมืองสองแคว ศรีสัชชนาลัย ด่านแม่ละเมา วัดไทยวัฒนาราม วัดป่าภูหินร่องกล้า วัดพระเจ้าเม็งราย อุทยานสุโขทัย สวนหลวงร.๙ ศาลสองมหาราช เขาค้อ เขาค้อถึงเพชรบูรณ์ บึงสีไฟ ขนมจีนบ้านคุณตา บะหมี่ชากังราว   ภาคอีสาน สู่อีสาน กาฬสินธุ์ หนองคาย มหาสารคาม มกุฎคีรีวัน วัดจันทาราม ตระเวนไหว้พระธาตุ พระธาตุนคร พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุพนม พระธาตุมหาชัย พระธาตุเรณู พระธาตุศรีคูณ พระธาตุศรีสองรัก ภูพระบาท ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทหินพิมาย ปราสาทเปือยน้อย พระดีอีสาน