ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง
ตั้งอยู่ที่ ถ.สำราญชายโขง ริมแม่น้ำ เยื้องไปทางทิศเหนือของวัดศรีมงคลใต้
ติดกับท่าด่านตรวจคนเข้าเมือง
จ.มุกดาหารศาลาเจ้าแม่สองนางพี่น้องนี้มีเรื่องเล่าขานกันมานานว่าราวปี พ.ศ.
1896 เจ้าฟ้างุ้ม แห่งเมืองลานช้าง เป็นบุตรเขยกษัตริย์
เมืองอินทะปัด
ได้พาลูกหลานอพยพตามลำน้ำโขงผ่านเมืองหนองคาย เมืองนครพนม
จนถึงเขตเมืองมุกดาหาร แล้วเกิดเรือล่ม ที่บริเวณปากห้วยมุก
ธิดาสาวทั้งสองคนซึ่งมีพระนามว่า พระนางพิมพา กับพระนางลมพามา
สิ้นชีพตักษัยจนกระทั้งปี พ.ศ.
2313เจ้ากินรีได้มาสร้างเมืองมุกดาหารพร้อมกับได้สร้างโบสถ์วัดศรีมงคลใต้ขึ้น
และในขณะก่อสร้าง ได้พบพระเมาลีพระพุทธรูปเหล็กจมอยู่ใต้พื้นดิน
(
บริเวณศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องในปัจจุบัน ) จึงขุดไปประดิษฐาน ณ
โบสถ์วัดศรีมงคลใต้ แต่พอรุ่งขึ้น พระพุทธรูปเหล็กองค์นั้น
ก็กลับมาประดิษฐานอยู่ที่เดิม ที่พบในครั้งแรกอีก ชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า
"พระหลุบเหล็ก" ประกอบกับ บริเวณดังกล่าว ทุกวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 6
จะมีเสียงร่ำไห้ของผู้หญิงสองคน
ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเสียงของพระนางพิมพากับพระนางลมพามาและได้แสดงอภินิหารให้ปรากฎอยู่เนือง
ๆ
เจ้ากินรี
เจ้าเมืองมุกดาหารได้สืบทราบประวัติแห่งความเป็นมาจึงตั้งศาลขึ้น ณ ที่แห่งนั้น
เพื่อให้วิญญาณ ได้สิงสถิต เมื่อ พ.ศ.2315 และได้ขนาน นามว่า
"ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง" อันเป็นที่เคารพสักการะของ
ชาวเมืองมุกดาหารโดยทั่วกัน โดยถือเอาเดือนพฤษภาคม ของทุกปีเป็นเดือนที่ทำพิธี
เซ่นไหว้และบวงสรวง ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้.
ชาวมุกดาหารถือว่า
ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่กับศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง
ในวันนี้ 15 ค่ำ เดือน
6ของทุกปีชาวมุกดาหารจะจัดให้มีพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองและเจ้าแม่สองนางพี่น้องพร้อมกัน
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
พระพุทธสิงห์สอง
เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 1
เมตร ส่วนสูง เฉพาะองค์ถึง ยอดพระเมาลี 1.20
เมตร สูงรวมทั้งฐาน 2
เมตร ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีบุญเรือง ( บ้านใต้ ) ถนนสำราญ ชายโขง
ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ประวัติความเป็นมาของพระพุทธสิงห์สองนั้น มีหลักฐานปรากฎไว้ว่า
ในสมัยที่ เมืองมุกดาหารยังเป็นเมืองใหม่ การปฏิสังขรณ์ สร้างโบสถ์ศรีมงคลใต้
ยังไม่เสร็จเรียบร้อย เจ้ากินรีเจ้าเมือง มุกดาหารคนแรก
ได้เดินทางไปนครเวียงจันทร์
แล้วได้อัญเชิญองค์พระพุทธสิงห์สองมาจากนครเวียงจันทร์
เพื่อนำมาประดิษฐานไว้ที่พระอุโบสถของวัดศรีมงคลใต้ต่อมาเจ้ากินรีได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ที่บ้านศรีบุญเรืองแล้วตั้งชื่อว่าวัดศรีบุญเรือง
และได้อัญเชิญ พระพุทธสิงห์สองจากวัดศรีมงคลใต้ ขึ้นประดิษฐานบนแท่น
ในพระอุโบสถวัดศรีบุญเรือง เพื่อสักการะบูชา
สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ในงานสงกรานต์ ของอำเภอเมืองมุกดาหาร
ชาวอำเภอเมืองมุกดาหาร ได้กระทำพิธี อัญเชิญพระพุทธสิงห์สอง
จากพระอุโบสถวัดศรีบุญเรืองแห่รอบเมือง แล้วนำไปประดิษฐาน บนแท่นที่จัดไว้ณ
บริเวณหน้ากอประชุมอำเภอ เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้สรงน้ำเป็นประจำทุก
ตลาดอินโดจีน
ตลาดอินจีน อยู่ถนนสำราญชายโขง ในตัวเมืองมุกดาหาร
หน้าวัดศรีมงคลใต้เป็นแหล่งรวมสิค้านำเข้าจากหลายประเทศ ประเทศ เช่น รัสเซีย
จีน เวีดนาม และประเทศลาวจำหน่ายทั้งราคาส่งและปลีก ส่วนมากจะป็นเสื้อผ้า
เครื่องนุ่งห่ม เซรามิก เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ อุปโภคและบริโถคต่างๆ
นอกจากสินค้าที่นำเข้ามาจำนห่ายจากต่างประเทศแล้วยังมีสินค้าพื้นเมืองของชาวมุกดาหารมาจำหน่ายอีกด้วยเช่น
ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ และสินค้าท้องถิ่นอื่น ตลาดอินโดจีน นอกจากจะเป็นแหล่งรวามสินค้าแล้ว
ยังเป็นสถานทีท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่ง
ของนักท่องเที่ยวเพราะเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์
ที่สวยงามของสองฝั่งแม่น้ำโขงในเทศกาลออกพรรษาจะเป็นจุดชมการแข่งขันเรือยาว
ประเพณีของคนทั้งสองฝั่งโขงอีกด้วย
บ้านเกวียนมุก
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอีสานสองฝั่งโขง
บ้านเกวียนมุกหรือ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอีสานสองฝั่งโขง
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงเทคโนโลยีพื้นบ้านของชาวอีสาน อาทิเช่น
เครื่องมือทำนา ,
หีบอ้อยโบราณ
,
นอกจากนี้ยังได้รวบรวม เกวียนอีสาน สิ่งของเครื่องใช้พื้นบ้าน และของเก่า อื่น
ๆ มากมาย บ้านเกวียนมุก ได้ก่อตั้งขึ้นด้วยใจรักการสะสมโดยใช้เวลานานกว่า
10
ปีในการเก็บสะสมสิ่งของเหล่านี้ และบ้านเกวียนมุกยังเล็งเห็นว่าการจัด
ตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น
สามารถสะท้อนถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชีวิตคนทั้งสองฝั่งโขง
จึงคล้ายกับเป็นสื่อแสดงให้อนุชนรุ่นหลังและผู้มาเยือนเข้า
ใจถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สืบสานมาแต่โบราณ
จากสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้
เครื่องมือเครื่องใช้ของชาวบ้านรวมถึง
เกวียน
ในกลายเป็นสิ่ง ล้าสมัย โดยมีเทคโนโลยี่ใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ ด้วยเหตุดังกล่าว
บ้านเกวียนมุก
จึงมีจุดมุ่งหมายที่จะอนุรักษ์
สิ่งของพื้นบ้าน อาทิ เกวียน และของเก่า
เพื่อหวังที่จะให้เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ความเพลิดเพลิน
และรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรม
ของภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสานที่นับวันจะเลือนหายและหาดูได้ยากเต็มทีภูมิหลัง
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอีสานสองฝั่งโขง ( บ้านเกวียนมุก ) ได้เริ่มดำเนินการก่อตั้ง
เมื่อวันที่ 5
มกราคม 2538
เป็นต้นมา และเริ่มเปิดแสดงอย่างไม่เป็นทางการเมื่อ วันที่
5
มกราคม 2541
โดยจัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ ดังนี้
1.เฮือนพื้นบ้าน
จัดแสดง ของใช้ในครัวเรือนของชาวอีสาน เครื่องปั้นดินเผา
สิ่งของเครื่องใช้ในการดำรงชีพ เครื่องมือช่าง เครื่องมือทอผ้า เครื่องดักสัตว์
เครื่องดนตรี เครื่องหีบอ้อย และมูลมังไม้
2.เฮือนของเก่า
จัดแสดง เครื่องถ้วยโถโอชาม เครื่องแก้ว เครื่องเงินและโลหะ เงินตราโบราณ
ตาชั่ง ตะเกียง เตารีด ขวานหิน สิ่งของกลายเป็นหิน ( ฟอสซิล )
3.โฮงเกียน
1 2 3
จัดแสดง เครื่องมือทำนา เช่น แอก ไถ คราด ที่ทำด้วยไม้
เครื่องโรงสีข้าวขนาดกลาง ครกกระเดื่อง ( ครกมอง ) เป็นต้น

ที่ตั้งอยู่ที่ 10
ถนนตาดแคน ซอย 18 (
เยื้อง ร.พ.ช.
) อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 49000
สำนักงาน
ตั้งอยู่ที่ ร้านสะอาด เลขที่ 77-77/1
ถนนสมุทรศักดารักษ์ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
49000
โทรฯ
042 613-647
เวลาเปิดทำการ ทุกวัน เริ่ม 08.30 17.00
น.