ประวัติความเป็นมา 
        ..........พระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
        พระบรมราชินีนาถ
        คือการเสด็จ
        พระราชดำเนินตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทรงเยี่ยมราษฎรในทุกแห่งหน
        ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
        พระราชกรณียกิจนี้
        ได้ทรงปฏิบัติติดต่อกันมานานนับเป็นระยะเวลาหลายสิบปีแล้ว
        จึงทำให้ทรงเห็นสภาพ
        ความเป็นอยู่ที่แท้จริงของราษฎรว่ามีความทุกข์สุขอย่างไร
        ที่ทรงเป็นห่วงมากก็คือ
        ความยากจนของราษฎร
        จึงทรงมีพระราชประสงค์จะจัดหาอาชีพให้ราษฎรทำ
        เพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้เพียงพอแก่การยังชีพ
        ในภาวะ ปัจจุบัน
        สมเด็จพระนางเจ้าฯ 
        พระบรมราชินีนาถ ทรงสนพระทัยในงานฝีมือพื้นบ้าน
        หรือศิลปกรรมพื้นบ้าน
        ที่จัดทำขึ้นโดยใช้วัสดุในท้องถิ่นมาก
        พระองค์จึงส่งเสริมในเรื่องนี้โดยการจัดให้มีครูออกไปฝึกสอนราษฎร 
        เป็นการช่วยปรับปรุงคุณภาพ
        ของงานให้ดียิ่งขึ้น
        เมื่อราษฎรมีความชำนาญแล้วผลงานที่ผลิตออกมา
        ก็จะทรง
        รับซื้อไว้ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
        ซึ่งงานนี้ต่อมาได้ขยายออกเป็น
        มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
        ในสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์
        พระบรมราชินีนาถ
        เมื่อวันที่ 21กรกฏาคม 2519
        และได้ทรงจัดตั้งโรงฝึกอบรมศิลปาชีพ
        ขึ้นแห่งแรกที่พระตำหนักสวนจิตรลดา ...........ในวันฉัตรมงคลปี
        2523 สมเด็จพระนางเจ้า ฯ
        พระบรมราชินีนาถ
        ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
        ฯให้นาย ธานินทร์ กรัยวิเชียร
        รองประธานกรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ
        สรรหาที่ดินที่ใกล้เคียงกับพระราชวัง
        บางปะอินเพื่อจัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพอีกแห่งหนึ่ง
        นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
        จัดหาที่ดินได้ 2 แปลง
        เป็นที่ดินของ
        สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
        ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
        ได้ทรงกรุณา โปรดเกล้าฯ
        พระราชทาน
        ให้รัฐบาลจัดการปฏิรูปที่ดินเพื่อให้ราษฎรผู้ยากไร้ได้มีที่อยู่และทำมาหากินตามอัตภาพ
        แปลงหนึ่งอยู่ที่อำเภอ
        บ้านนา จังหวัดนครนายก
        อีกแปลงหนึ่งอยู่ที่
        อำเภอบางไทร
        จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
        ล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์
        ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรที่ดินแปลงที่อยู่ที่อำเภอบางไทรด้วยพระองค์เอง
        ซึ่งที่ดินแปลงนี้
        มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 750ไร่เศษ
        และทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยว่าสมควรจะสร้างศูนย์ศิลปาชีพ
        ณ ที่นี้ วันที่ 3 มิถุนายน
        2523 รัฐบาลได้น้อมเกล้าฯ
        ถวายที่ดินแปลงนี้แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ
        พระบรมราชินีนาถ
        ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ
        4 รอบ
        และรัฐบาลยังได้มีมติให้หน่วยราชการต่าง
        ๆ สนับสนุน
        โครงการของศูนย์ศิลปาชีพ
        บางไทรฯ
        ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ
        พระบรมราชินีนาถ
        ทรงจัดตั้งขึ้นโดยมอบหมาย
        ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
        โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นผู้รับผิดชอบในด้านการดูแล 
        สถานที่และการฝึกอบรม
        และมีหน่วยทหารราบที่ 21
        รักษาพระองค์
        มาช่วยดูแลในด้านการรักษาความสงบ
        เรียบร้อย
        และประสานงานกับหน่วยงานต่าง
        ๆ ในการจัดฝึกอบรมศิลปาชีพเรื่อยมา
        และมีการซื้อที่ดินเพิ่มเติม
        อีก 200 ไร่เศษ
        รวมเป็นเนื้อที่ของศูนย์ฯ
        ทั้งหมดเกือบ 1,000
        ไร่ในปัจจุบัน
        สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
        พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จ
        พระราชดำเนินเปิดศูนย์ศิลปาชีพ
        บางไทรฯ อย่างเป็นทางการ
        เมื่อ  วันที่ 7 ธันวาคม 2527    ***
        ค่าเข้าชมจ่ายก่อนเข้าผู้ใหญ่
        50 บาท
        จ่ายแล้วขับรถเข้าไปได้เลย
        *** สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ 
           ภายในมี
        "วังปลา"
        เป็นสถานจัดแสดงปลาน้ำจืดที่ใหญ่แห่งหนึ่ง
        มีปลาบึกตัวโตๆ
        และปลาอื่นๆ ให้เรียนรู้
        วังปลา
        จัดสร้างและดำเนินงานโดยกรมประมง
        เป็นสถานแสดงพันธุ์
        สัตว์น้ำจืด
        ตัวอาคารหลักมีตู้กระจกขนาดใหญ่
        จำนวน 2 ตู้
        ตู้ใหญ่รูปเมล็ดถั่ว
        มีขนาดความจุ 1,400 ตัน
        อีกตู้หนึ่งทรงกลมขนาดความจุ
        600 ตัน ภายในตู้
        จะแสดงให้เห็นถึงการอยู่อาศัยร่วมกันของปลาน้ำจืดชนิดต่าง
        ๆ ที่เป็นปลา
        พื้นเมืองของไทย
        เปิดให้ชม เวลา 10.00 - 16.00 น.
        ปิดทุกวันจันทร์
        และวันอังคาร  
           
 สวนนก
        ดำเนินงานโดยมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า
        และพรรณพืชแห่ง ประเทศไทย
        ในพระราชินูปถัมภ์
        สวนนกเป็นกรงนกขนาดใหญ่ 2
        กรง
        ภายในมีนกพันธุ์ที่หาชมได้ยากมากกว่า
        30 ชนิด
        มีการจัดสภาพแวดล้อม
        ภายในให้เหมือนธรรมชาติ
        อาทิ น้ำตกและธารน้ำจำลอง
        มีป่าจำลองที่ร่มรื่น
        ใกล้เคียงกับธรรมชาติ
        นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวนให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้น 
        ไปชม
        และถ่ายภาพนกจากด้านบนของกรงได้อย่างชัดเจน
        และบริเวณรอบ ๆ
        กรงนกยังมีสัตว์ป่าอื่น ๆ
        ให้ชมอีกด้วย เปิดใหชมทุกวัน
        ตั้งแต่เวลา 09.00 - 19.00 น.
        ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท
        เด็ก 10 บาท  
  
           
 ศาลาพระมิ่งขวัญ
        เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์
        จตุรมุขสูง 4 ชั้น ตั้ง
        ตระหง่านอยู่กลางศูนย์ศิลปาชีพ
        บางไทร ชั้นล่าง
        เป็นศูนย์สาธิตและจำหน่าย
        ผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ
        ของศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ
        และศูนย์ศิลปาชีพอื่น ๆ
        ทั่วประเทศ ชั้นที่ 2 และ
        ชั้นที่ 3
        เป็นนิทรรศการผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพชิ้นยอด
        เยี่ยมของศูนย์ศิลปาชีพ
        บางไทรฯ ชั้นที่ 4
        เป็นห้องประชุมสัมนา
        เปิดให้ชม ทุกวัน
        วันธรรมดา 09.00 - 17.00 น.
        วันหยุดราชการ 09.00 - 18.00 น.
        ไม่เสียค่าเข้าชม  
         
 พระโพธิสัตว์กวนอิมพันพระหัตถ์
        นายถู เจี๋ย
        ในนามของประชาชน ชาวจีน
        ได้น้อมเกล้าฯ
        ถวายพระรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม
        พันพระหัตถ์
        ซึ่งแกะสลักจากไม้
        จันทน์เหลือง สูง 6 เมตร
        จำนวน 1 องค์ แด่พระบาท
        สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
        เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม
        พระชนม- พรรษาครบ 6 รอบ
        และทรงพระกรุณา
        โปรดเกล้าฯ
        ให้นำมาประดิษฐานไว้ ณ
        พระตำหนักชั่วคราว
        ศาลาโรงช้าง ศูนย์ศิลปาชีพ
        บางไทรฯ เพื่อให้
        ประชาชนที่มีจิตเลื่อมใสศรัทธาในพระโพธิสัตว์กวนอิม
        ได้มานมัสการ และ
        สักการะบูชา ได้ทุกวัน
        ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. หมู่บ้านศิลปาชีพ
        การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
        ได้ให้การสนับสนุน
        หมู่บ้านแห่งนี้ให้แก่ศูนย์ศิลปาชีพ
        บางไทรฯ
        เพื่อเป็นสถานที่แสดงถึงสถาปัตย-
        กรรม
        ในการสร้างบ้านเรือนของคนไทยภาคต่าง
        ๆ
        การจำลองชีวิตความเป็นอยู่
        ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมไทยจากทั่วประเทศ
        ภายในหมู่บ้านมีการสาธิตวิถีชีวิต
        ความเป็นอยู่อย่างไทย ๆ
        ในแต่ละภาค
        และการสาธิตงานศิลปาชีพ
        เปิดให้ชม 
        ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น.
        ในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00
        -19.00 น.
        นอกจากนี้ยังมีการแสดงนาฏศิลป์
        และการละเล่นพื้นบ้านทั้ง
        4 ภาค ให้ชมด้วย  
        เว็บไซต์ของ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
        http://www.bangsaiarts.com  
                
        
        
 
          
          
            
              | 
                 เส้นทางการเดินทาง  | 
             
            
            
              | 
                   
                1.
                เส้นทางที่ 1 (สีเขียว) 
                ทางหลวงหมายเลข 9 (ถ.วงแหวนตะวันตก)
                จากแยก 
                ทางหลวง 345 (อ.บางบัวทอง)
                ซึ่งมาได้จาก จ.สุพรรณบุรี 
                -ตลิ่งชัน หรือปทุมธานี
                ผ่านแยกต่างระดับสามโคก-ข้าม 
                สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา-เลี้ยวซ้ายทางแยกบ่อส่า-เดินรถ 
                ตรงจนถึงศูนย์ฯ 
              2.
              เส้นทางที่ 2 (สีส้ม) 
              ทางหลวงหมายเลข 306 (ถ.ติวานนท์)
              จากห้าแยกปาก 
              เกร็ด-ผ่านแยกสวนสมเด็จ-ผ่านแยกปากคลองรังสิต-ผ่าน 
              แยกบางพูน-เลี้ยวขวาที่แยกเทคโนปทุมธานีเข้าทาง 
              หลวงหมายเลข 347 (ปทุมธานี-บางปะหัน)
              ผ่านแยก 
              เชียงรากน้อย-เลี้ยวซ้ายทางต่างระดับเชียงรากน้อย 
              เดินรถทางตรงผ่านแยกบ่อส่า-กลับรถใต้สะพานแม่น้ำ 
              เจ้าพระยา-เลี้ยวซ้ายทางแยกบ่อส่า-เดินรถตรงมาจนถึงศูนย์ 
              3.
              เส้นทางที่ 3 (สีบานเย็น) 
              ทางด่วนสายปากเกร็ดบางปะอิน-ลงทางด่วนบางปะอิน 
              ตรงผ่านแยกบ่อส่า-กลับรถใต้สะพานแม่น้ำเจ้าพระยา- 
              เลี้ยวซ้ายทางแยกบ่อส่า-เดินรถตรงมาจนถึงศูนย์ฯ 
              4.
              เส้นทางที่ 4 (สีเปลือกมังคุด) 
              ทางหลวงหมายเลข 1 (ถ.พหลโยธิน)
              จากรังสิตหรือ 
              ภาคเหนือหรือภาคอีสาน-ผ่านแยกต่างระดับบางปะอิน 
              เข้าทางหลวงหมายเลข 9 (ถ.วงแหวนตะวันตก)
              -ตรงผ่าน 
              แยกต่างระดับเชียงรากน้อย-
              เดินรถทางตรงผ่านแยกบ่อส่า- 
              กลับรถใต้สะพานแม่น้ำเจ้าพระยา-เลี้ยวซ้ายทางแยกบ่อส่า- 
              เดินรถตรงมาจนถึงศูนย 
              5.
              เส้นทางที่ 5 (สีเหลือง) 
              ทางหลวงเอเชีย จาก อ.บางปะหัน-อยุธยา
              มาตามทางหลวง 
              หมายเลข 347 (ปทุมธานี-บางปะหัน)
              -ข้ามสะพานข้าม 
              แม่น้ำเจ้าพระยา-แยกต่างระดับเชียงรากน้อยเลี้ยวขวา- 
              เดินรถทางตรงผ่านแยกบ่อส่ากลับรถใต้สะพานแม่น้ำ 
              เจ้าพระยา-เลี้ยวซ้ายทางแยกบ่อส่า-เดินรถตรงมาจนถึงศูนย์ฯ 
              6.
              เส้นทางที่ 6 (สีน้ำเงิน) 
              ทางหลวงหมายเลข 3309 (บางปะอินเชียงรากน้อย)
              จากทาง 
              หลวงสายเอเชีย
              หรืออยุธยา
              ผ่านหน้าโรงงานกระดาษ 
              บางปะอิน-ลอดใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา-เลี้ยวซ้าย 
              ทางแยกท่าน้ำบางไทร-
              เดินรถตรงมาจนถึงศูนย์ฯ 
              
               | 
               
                 
              
              ดูแบบเต็มๆได้ที่นี่ครับ 
              http://www.bangsaiarts.com/bangsai_Map_T.html    | 
             
           
          
         
         แผนที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
        และแฟนที่ศูนย์ศิลปาชีพบงไทร
        อีก 1 รูป 
          
          |