www.dooasia.com >
เมืองไทยของเรา >
เรื่องของไทยในอดีต
ก่อนอยุธยา
สมัยอยุธยา(๑)
สมัยอยุธยา(๒)
สมัยธนบุรี
รัชสมัย ร.๑
รัชสมัย ร.๒
รัชสมัย ร.๓
รัชสมัย ร.๔
รัชสมัย ร.๕
รัชสมัย ร.๖
รัชสมัย ร.๗
รัชสมัย ร.๘
สมัยปัจจุบัน
พ.ศ.๒๔๒๕
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้าให้เจ้าหมื่นไววรนารถ (เจิม แสง-ชูโต)
จัดสร้างโรงทหารหน้าเป็นการถาวร
ที่ฉางข้าวหลวงและวังเจ้านายมีกรมเก่าใกล้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง โดยสร้างเป็นตึกสามชั้นเพื่อบรรจุทหารให้ได้หนึ่งกองพลน้อย
แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๔๒๗ สิ้นค่าก่อสร้าง ๗,๐๐๐ ชั่ง (๕๖๐,๐๐๐ บาท)
๑๐
มิถุนายน ๒๔๒๕
บริษัท เดอลอง ของฝรั่งเศส ขอขุดคอคอดกระ
แบบเดียวกับการขุคคลองสุเอช แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบ่ายเบี่ยง
เพราะต้องพิจารณาประโยชน์ของฝ่ายไทยก่อน เพราะถ้าผิดพลาดจะเสียความสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับอังกฤษ
๒๓
มกราคม ๒๔๒๕
วันประสูติ พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ฯ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระนามเดิม
พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร ราชโอรสพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ เป็นทหารช่าง
ทรงแต่งตำราวิชาการทหารช่างขึ้น อันเป็นรากฐานของทหารช่างมาถึงปัจจุบัน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
ฯ ได้ทรงตั้งตำแหน่ง จเรทหารช่าง และจเรทหารปืนใหญ่
เมื่อมีการจัดตั้งแผนกรถไฟและแผนกการบินทหารบกขึ้นในกองทัพบก ก็ได้รับโปรดเกล้า
ฯ ให้สองหน่วยงานนี้อยู่ในบังคับบัญชาของพระองค์ ได้ทรงนำรถจักรดีเชลมาใช้เป็นประเทศแรกในเอเชีย
ทรงริเริ่มกิจการวิทยุกระจายเสียงครั้งแรกในไทย
พ.ศ.๒๔๒๖
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน
เมื่อต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ถึงแก่พิราลัย
๑๘
มิถุนายน ๒๔๒๖
กงสุลฝรั่งเศส ทูลทาบทามสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ เพื่อขอทหารไทย ๕๐๐ คน ไปช่วยฝรั่งเศสรบในตั๋งเกีย
ซึ่งพระองค์ทรงบ่ายเบี่ยง
๒
กรกฎาคม ๒๔๒๖
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งกรมโทรเลขขึ้น
โดยรับช่วงการโทรเลขจากกรมกลาโหม
๑๐
กรกฎาคม ๒๔๒๖
อนุญาตให้ห้าง บี กริม แอนด์โก ปักเสาโทรศัพท์ในถนนเจริญกรุง เครื่องโทรศัพท์ได้นำเข้ามาในเมืองไทย
ได้ถวายพระพุทธเจ้าหลวง เมื่อ ๓ มีนาคม ๒๔๒๐ ปรากฏว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๑ มีสายโทรศัพท์ระหว่างกรุงเทพ
ฯ กับบางปะอิน ส่วนกรุงโตเกียว เริ่มมีโทรศัพท์ใช้
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ กรุงปักกิ่งมีโทรศัพท์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓
๒๖
กรกฎาคม ๒๔๒๖
ไทยได้เปิดสายโทรเลขสายแรกที่ติดต่อกับต่างประเทศ
เริ่มจากกรุงเทพ ฯ ผ่านปราจีนบุรี กบินทร์บุรี อรัญประเทศ จนถึงคลองกำปงปลัก
ในพระตะบอง และติดต่อกับสายโทรเลขอินโดจีน เชื่อมโยงกับไซ่ง่อน
๔
สิงหาคม ๒๔๒๖
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งกรมไปรษณีย์โทรเลขขึ้นเป็นครั้งแรก
เปิดบริการในพระนครเป็นปฐม ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๑ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้รวมกรมไปรษณีย์และกรมโทรเลข
เข้าด้วยกัน เป็นกรมไปรษณีโทรเลข ขึ้นกับกระทรวงโยธาธิการ
พ.ศ.๒๔๒๗
ราชทูตไทยคนแรก ที่ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาและยื่นพระราชสาส์นตราตั้งต่อประธานาธิบดี
เชสเตอร์ อลัน อาเธอร์ ณ กรุงวอชิงตัน คือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนเรศวรฤทธิ์
(สมัยดำรงยศเป็น กรมหมื่น)
๑๘
กรกฎาคม ๒๔๒๗
เปิดตึกอาคารกรมทหารหน้า คือที่ตั้งกระทรวงกลาโหมในขณะนี้ สร้างในเนื้อที่
๑๗ ไร่ สิ้นค่าก่อสร้าง ๕๗๐,๐๐๐ บาท
๒๐
กันยายน ๒๔๒๗
เจ้าหมื่นไวยวรนาถ (เจิม แสง-ชูโต) เป็นผู้ริเริ่มกิจการไฟฟ้า โดยสั่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามาติดตั้ง
และเดินเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นทางการในวันนี้
๒
ตุลาคม ๒๔๒๗
กำเนิดโรงเรียนหลวง สำหรับราษฎรแห่งแรก ที่วัดมหรรณพาราม ในสมัยรัชกาลที่
๕
๑๖
กุมภาพันธ์ ๒๔๒๗
วันจัดตั้งโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก โดยมีบาทหลวง กลอมเบต์ ชาวฝรั่งเศส อธิการแห่งโบสถ์อัสสัมชัญ
รับเฉพาะนักเรียนชายล้วน
พ.ศ.๒๔๒๘
ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีของสหภาพไปรษณีย์
๓๐ เมษายน
๒๔๒๘
วันเกิด พระยากัลยาณไมตรี
(ดร.ฟรานชิส บี แชร์) ชาวอเมริกันคนที่ ๒ ที่เข้ามารับราชการในไทย และได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยา
ได้เดินทางมารับราชการในไทยเมื่อปี ๒๔๖๖ เป็นที่ปรึกษาการต่างประเทศด้านกฎหมาย
สมัยรัชกาลที่ ๖ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตผู้มีอำนาจเต็ม ไปเจรจาขอแก้ไขสัญญาทางพระราชไมตรีกับนานาประเทศในยุโรป
เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี โปรตุเกส สเปน เดนมาร์ก นอร์เวย์
สวีเดน การเจรจาบรรลุผลสำเร็จเรียบร้อย ในปี ๒๔๒๘ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาวภรณ์
ท.จ. และ ท.ช. เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนไทยไปประจำศาลอนุญาโตตุลาการ
ณ กรุงเฮก เมื่อลาออกแล้วได้ไปรับตำแหน่งผู้สำเร็จราชการฟิลิปปินส์ และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้ช่วยงานเสรีไทยด้วย
๑๙
มิถุนายน ๒๔๒๘
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นเทวะวงศ์ ฯ ทรงประกอบพิธีเปิดสำนักงานกระทรวงการต่างประเทศ
ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ พระราชทานนามว่า ศาลาการต่างประเทศ นับเป็นกระทรวงแรกที่มีสำนักงานขึ้นต่างหากจากที่เคยใช้วังหรือบ้านเสนาบดีกระทรวงนั้น
ๆ เป็นที่ทำการ
๓
กันยายน ๒๔๒๘
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้ตั้ง กรมแผนที่ขึ้น เดิมเป็นโรงเรียนแผนที่
ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๕ และเป็นหน่วยงานของทหารช่าง กองทหารมหาดเล็ก พระวิภาคภูวดล
ชาวอังกฤษ เป็นเจ้ากรมแผนที่ทหารคนแรก กรมแผนที่ได้ย้ายไปขึ้นกับกระทรวงเกษตราธิการ
แล้วกลับโอนมาสังกัด กระทรวงกลาโหม เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๒ วันนี้ถือเป็นวันสถาปนา
กรมแผนที่ทหาร
๔
กันยายน ๒๔๒๘
ยุบกองทหารวังหน้า มารวมกับกองทหารวังหลัง บางส่วนจัดเป็นกองตระเวนทางน้ำ
๔
กันยายน ๒๔๒๘
มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศยกเลิกตำแหน่ง กรมพระราชวังบวรสถานมงคล หลังจากที่กรมพระราชวังบวรสถานมงคล
ทิวงคต เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๘
๒๖
ตุลาคม ๒๔๒๘
พันเอก พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ผู้บังคับการกรม ทหารรักษาพระราชวัง
เป็นแม่ทัพ กองทัพฝ่ายใต้ ไปปราบพวกฮ่อที่ทุ่งเชียงคำ
โดยตั้งกองบัญชาการที่เมืองหนองคาย
๓๐
ตุลาคม ๒๔๒๘
เป็นวันเกิดมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ต้นสกุลนี้ได้รับราชการตั้งแต่สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี
ได้เป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง อธิบดีศาลฎีกา เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา องคมนตรี
อุปนายกสภากาชาดไทย นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถมากที่สุดคนหนึ่งของไทย
๓
พฤศจิกายน ๒๔๒๘
นายพันเอก เจ้าหมื่นไวยวรนาถ (เจิม แสง-ชูโต) ผู้บังคับการกรมทหารม้า เป็นแม่ทัพกองทัพฝ่ายเหนือ
(ซึ่งต่อมาคือ จอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ผู้บัญชาการทหารบกคนแรก) ไปปราบพวกฮ่อในแคว้นหัวพันห้าทั้งหก
ได้ใช้เมืองซ่อนเป็นฐานปฏิบัติการ ซึ่งในการยกทัพไปครั้งนี้ พระวิภาคภูวดล
(เจ้ากรมแผนที่คนแรก) ได้เขียนแผนที่แสดงพระราชอาณาเขตของไทย ทางภาคเหนือจนถึงแคว้นสิบสองจุไทย
และได้มอบแผนที่ให้ นายพันเอกเจ้าหมื่นไวยวรนาถ เพื่อเป็นหลักฐานกรณีโต้แย้งกับฝรั่งเศส
๑๒พฤศจิกายน
๒๔๒๘
วันประสูติ พลเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระราชโอรสองค์ที่
๕๒ ในรัชกาลที่ ๕ ต้นราชสกุลรังสิต พ.ศ.๒๔๕๔ ได้รับโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นองคมนตรี
หลังจากจบการศึกษาที่เยอรมัน เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ เป็นอธิบดีสาธารณสุขคนแรก ทรงลาออกจากราชการเมื่อ
พ.ศ.๒๔๘๙ เป็นประธานองคมนตรี ใน พ.ศ.๒๔๙๓ สิ้นพระชนม์ด้วยโรคพระหทัยใน พ.ศ.๒๔๙๔
๕
กุมภาพันธ์ ๒๔๒๘
ได้บรรจุการทำบัญชีเข้าในหลักสูตรการศึกษาของไทยเป็นครั้งแรก โดยประกาศกระแสพระบรมราชโองการ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวิชาหนึ่งในแปดอย่างของประโยคสอง
ซึ่งเป็นวิชาชั้นสูงสุดของ โรงเรียนหลวงในสมัยนั้น
๑๓
กุมภาพันธ์ ๒๔๒๘
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ เสด็จโดยเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช ไปเยี่ยมเรือรบอังกฤษ
คือ เรือออเคเซียส เรืออะกาเมนอน เรือวิจิแลนด์ และเรือแดริง ซึ่งเดินทางมาจากฮ่องกง
มาทอดสมออยู่ที่สันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา
๑๔ มกราคม
๒๔๒๙
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ
สยามบรมราชกุมาร เป็นตำแหน่งรัชทายาท นับเป็นครั้งแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ที่มีตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช แทนตำแหน่งพระมหาอุปราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคลหรือที่เรียกว่าวังหน้า
ซึ่งมีมาแต่สมัยอยุธยา
๘
เมษายน พ.ศ.๒๔๓๐
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติ จัดตั้งกรมยุทธนาธิการขึ้น
โดยรวมกิจการทหารบกและทหารเรือไว้ด้วยกัน เป็นการจัดกำลังทหารให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ
และให้หน่วยทหารต่าง ๆ ในกรมทหารมหาดเล็ก ฯ ไปขึ้นตรงกับกรมยุทธนาธิการ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงกลาโหม
๘
เมษายน ๒๔๓๐
ได้มีประกาศจัดการทหาร ในประเทศนี้ได้รวมบรรดากองทหารบก กองทหารเรือ ทั้งหมด
มาขึ้นอยู่ในบังคับบัญชา ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช แต่ในระหว่างที่ทรงพระเยาว์อยู่นั้น
ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ นายพลเอก สมเด็จเจ้าฟ้า ฯ กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช
เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทั่วไปในกรมทหาร
๕
พฤษภาคม ๒๔๓๐
กำเนิดรถรางไทย ได้เริ่มเดินรถรางในไทยเป็นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
ฯ เส้นทางบางคอแหลม (ถนนตก) ถึงพระบรมราชวัง
๗
มิถุนายน ๒๔๓๐
ชาวเมืองไลเจาและพวกฮ่อจากแคว้นสิบสองจุไท ได้ยกทัพเมืองหลวงพระบาง ภายหลังที่กองทัพเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี
ยกทัพกลับออกจากเมืองหลวงพระบาง เมื่อ ๒๗ เมษายน ๒๔๓๐
๕
สิงหาคม ๒๔๓๐
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาโรงเรียนนายร้อย
จปร.ขึ้นข้างวังสราญรมย์ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งกรมแผนที่ทหารปัจจุบัน เรียกว่า
Cadet School ทหาร เป็นการรวมโรงเรียนคาเดททหารมหาดเล็ก และโรงเรียนคาเดททหารหน้าเข้าด้วยกัน
ถือเป็นกำเนิดของสถาบัน ต่อมาขนานนามใหม่ว่า โรงเรียนทหารสราญรมย์ พ.ศ.๒๔๔๕
โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างโรงเรียนนายร้อยที่ถนนราชดำเนินนอก พ.ศ.๒๔๙๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
(รัชกาลที่ ๙) โปรดเกล้า ฯ พระราชทานชื่อว่า โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
พ.ศ.๒๕๒๙ พระองค์ทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียนนายร้อย จปร.แห่งใหม่ ที่เขาชะโงก
นครนายก
๒๖
กันยายน ๒๔๓๐
วันร่วมลงนามในปฏิญญาว่าด้วยพระราชไมตรีและพาณิชย์ (Declaration of Amity
and Commerce) เพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตที่มีประวัติศาสตร์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างไทย
ญี่ปุ่น มาตั้งแต่สมัยกรุงงศรีอยุธยา
๑๙
พฤศจิกายน ๒๔๓๐
นายพลตรี พระยาสุรศักดิ์มนตรี ยกกองทัพออกจากกรุงเทพ ฯ ไปปราบพวกฮ่อเป็นครั้งที่
๔ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย
๒๔
มีนาคม ๒๔๓๐
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ทรงประกาศให้ยิงปืนเที่ยงบอกเวลา
๑๒.๐๐ น. โดยใช้สนามหลวงเป็นที่ตั้งยิง
พ.ศ.๒๔๓๑
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้ตรา พระราชบัญญีติว่าด้วยศักดินาทหาร
และ พระราชบัญญัติว่าด้วยลำดับยศทหารบก
|