ท่องเที่ยว || เพิ่มข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว|| ดูดวงตำราไทย|| อ่านบทละคร|| เกมส์คลายเครียด|| วิทยุออนไลน์ || ดูทีวี|| ท็อปเชียงใหม่ || รถตู้เชียงใหม่
  dooasia : ดูเอเซีย   รวมเว็บ   บอร์ด     เรื่องน่ารู้ของสยาม   สิ่งน่าสนใจ  
 
สำหรับนักท่องเที่ยว
ตรวจสอบระยะทาง
แผนที่ 77 จังหวัด
คู่มือ 77 จังหวัด(PDF)
จองโรงแรม
ข้อมูลโรงแรม
เส้นทางท่องเที่ยว(PDF)
ข้อมูลวีซ่า
จองตั๋วเครื่องบิน
จองตั๋วรถทัวร์
ทัวร์ต่างประเทศ
รถเช่า
197 ประเทศทั่วโลก
แลกเปลี่ยนเงินสากล
ซื้อหนังสือท่องเทียว
dooasia.com แนะนำ
  เที่ยวหลากสไตล์
  มหัศจรรย์ไทยเแลนด์
  เส้นทางความสุข
  ขับรถเที่ยวตลอน
  เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
  อุทยานแห่งชาติในไทย
  วันหยุดวันสำคัญไทย-เทศ
  ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
  ไก่ชนไทย
  พระเครื่องเมืองไทย
 
 
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลี
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศลาว
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศพม่า
ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศจีน
 
เที่ยวภาคเหนือ กำแพงเพชร : เชียงราย : เชียงใหม่ : ตาก : นครสวรรค์ : น่าน : พะเยา : พิจิตร : พิษณุโลก : เพชรบูรณ์ : แพร่ : แม่ฮ่องสอน : ลำปาง : ลำพูน : สุโขทัย : อุตรดิตถ์ : อุทัยธานี
  เที่ยวภาคอีสาน กาฬสินธุ์ : ขอนแก่น : ชัยภูมิ : นครพนม : นครราชสีมา(โคราช): บุรีรัมย์ : มหาสารคาม : มุกดาหาร : ยโสธร : ร้อยเอ็ด : เลย : ศรีสะเกษ : สกลนคร : สุรินทร์ : หนองคาย : หนองบัวลำภู : อำนาจเจริญ : อุดรธานี : อุบลราชธานี : บึงกาฬ(จังหวัดที่ 77)
  เที่ยวภาคกลาง กรุงเทพฯ : กาญจนบุรี : ฉะเชิงเทรา : ชัยนาท : นครนายก : นครปฐม : นนทบุรี : ปทุมธานี : ประจวบคีรีขันธ์ : ปราจีนบุรี : พระนครศรีอยุธยา : เพชรบุรี : ราชบุรี : ลพบุรี : สมุทรปราการ : สมุทรสาคร : สมุทรสงคราม : สระแก้ว : สระบุรี : สิงห์บุรี : สุพรรณบุรี : อ่างทอง
  เที่ยวภาคตะวันออก จันทบุรี : ชลบุรี : ตราด : ระยอง

  เที่ยวภาคใต้ กระบี่ : ชุมพร : ตรัง : นครศรีธรรมราช : นราธิวาส : ปัตตานี : พัทลุง : พังงา : ภูเก็ต : ยะลา : ระนอง : สงขลา : สตูล : สุราษฎร์ธานี


www.dooasia.com > จังหวัดแม่ฮ่องสอน >พระธาตุจอมมอญ/ 

พระธาตุจอมมอญ/

   

วัดพระธาตุจอมมอญ

เป็นวัดที่สร้างเมื่อครั้งตั้งเมืองแม่ สะเรียง   และเป็นหนึ่งในสี่เจดีย์ที่สร้างไว้สี่มุมเมือง คือ จอมแจ้ง จอมทอง จอมกิตติ และจอมมอญ ชาวบ้านถือว่าเป็นพระธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ที่นี่นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของแม่ สะเรียง แล้ว ยังสามารถใช้เป็นจุดชมวิวเมืองแม่ สะเรียง ได้เป็นอย่างดี สามารถมองเห็นภาพบ้านเรือน ทุ่งนา และแม่น้ำยวมที่ไหลคดเคี้ยวผ่านหุบเขา หากมาในช่วงหน้าฝนจะเห็นภาพทุ่งนาและป่าเขียวขจีสวยงามน่าชมยิ่ง

ชาวแม่เสรียงจะจัดงาน ฉลองพระธาตุขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน กรกฎาคม ของทุกปี

 

 

การเดินทาง ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านกาศ ห่างจากแม่สะเรียง ประมาณ ๓.๕ กิโลเมตร รถยนต์ส่วนตัว ใช้ทางหมายเลข ๑๑๙๔ ( แม่สามแลบ ) ประมาณ ๑  กิโลเมตร  จะพบคลองชลประทานให้แยกขวามือก่อนข้ามคลองไปตามถนนลูกรังเลียบคลองชลประทาน ผ่านบ้านพระมอลอ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นองค์พระธาตุอยู่บนเขา มีบันไดนำทางขึ้นไปอย่างสบาย รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากตลาด

ตำนานวัดพระธาตุจอมมอญ

ย้อนหลังไปสู่อดีต  1000 กว่าปี    มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า   ยังมีพระฤาษี 4 ตนเป็นพี่น้องกันได้เป็นผู้ริเริ่มสร้างพระธาตุสี่มุมเมืองยวม  คือ พระธาตุจอมมอญ  พระธาตุจอมแจ้ง พระธาตุจอมทอง  พระธาตุจอมกิตติ พระฤาษีทั้งสี่พี่น้องเป็นผู้มีตบะเดชะ  มีวิทยาคมแก่กล้ามาก ได้ศึกษาเล่าเรียนเพียรปฏิบัติจากพระฤาษีอีกองค์หนึ่งผู้เป็นอาจารย์ซึ่งมีฤทธิ์มากและมีอายุมากแล้ว ได้บำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งทางเหนือของเมืองยวมกล่าวกันว่าถ้ำนั้นชื่อถ้ำเหง้า หลังจากท่านฤาษีทั้งสี่ตนพี่น้องเรียนศิลปศาสตร์ต่างๆ  จนจบแล้ว    จึงกราบลาอาจารย์ไปบำเพ็ญเพียรสร้างบารมีต่อ
           
ตำนานกล่าวว่า  พระฤาษีทั้งสี่ตนนั้นมีความเก่งไปคนละด้าน  คือฤาษีผู้พี่เก่งในทางรักษาโรค   สามารถปรุงยาชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้  ตั้งสำนักอยู่ ณ “ดอยจอมกิตติ” พระฤาษีผู้น้องรองลงมาเก่งในทางเล่นแร่แปรธาตุ   สามารถแปรเปลี่ยนธาตุหรือซัดตะกั่วให้เป็นทองก็ทำได้  ตั้งสำนักอยู่ชื่อว่า “ดอยจอมทอง”พระฤาษีผู้น้องที่สามเก่งในทางอาคมไสยศาสตร์ทั้งหลาย  พำนักอยู่ที่  “ดอยจอมแจ้ง”ฝ่ายฤาษีผู้น้องท้ายสุดเก่งในทางเรียกฝนเรียกลมด้วยอำนาจแห่งพลังจิต  สำเร็จกสิณอภิญญา  สามารถเดินเหิรบนน้ำหรือเหาะขึ้นไปบนอากาศก็ได้ด้วยอำนาจแห่งวาโยกสิณ  เพ่งลมจนกายเบาใจเบาพาตัวเองลอยละลิ่วไปในอากาศได้   พระฤาษีตนสุดท้ายนี้พำนักอยู่ ณ “ดอยจอมมอญ”  ซึ่งสมัยก่อนโน้นเรียกกันว่าดอยสามเส้า    เพราะเป็นภูเขาสามลูกใกล้กัน  ตั้งอยู่เป็นลักษณะคล้ายก้อนเส้านั่นเอง  ดอยหัวเกวียนหรือดอยสามเกวียนก็มีผู้เรียก



ยุคพระฤาษี


พระฤาษีสี่พี่น้อง   ท่านได้เป็นผู้ริเริ่มสร้างพระเจดีย์สี่มุมเมืองขึ้น ท่านฤาษีทั้งสี่ตนนั้นได้พำนักอยู่ ณ ดอยสี่มุมเมืองของตน อันดอยจอมมอญนั้นฤาษีผู้น้องท้ายสุดเป็นผู้พำนักเล่ากันว่า พระฤาษีผู้พี่ปรุงยาสำหรับชุบชีวิตคนที่ตายแล้วให้ฟื้นคืนมาได้   แม้แต่ ศพ นั้นจะถูกเผาเป็นขี้เถ้าผุยผงก็สามารถชุบชีวิตคืน เมื่อฤาษีผู้พี่สร้างตัวยาขนานแรกสำเร็จแล้ว ก็จะทดลองตัวยาประกอบขนานอื่นๆ  ได้เอาตัวยาชนิดหนึ่งใส่กะทะใหญ่ต้มจนเดือด แล้วได้กล่าวกับลูกศิษย์ว่าถ้าเรากระโจนลงในหม้อยาใบใหญ่ที่เดือดพล่านอยู่นี้ เมื่อเราจมหายละลายไปในพริบตาแล้ว ขอให้ศิษย์ปรุงยาอีกชนิดหนึ่ง หรืออีกขนานหนึ่งที่เตรียมไว้   และตามด้วยอีกขนานหนึ่งและอีกขนานหนึ่งตามสูตร  

ให้ผสมได้ส่วนตามที่สอน  และเทผสมตามๆ  กันไปให้ได้จังหวะพอดี พร้อมทั้งบริกรรมพระคาถาวิเศษกำกับ โดยให้สังเกตดูสีน้ำยาในกะทะที่เดือดพล่านนั้น  แล้วก็จมหายไปทันทีเมื่อลูกศิษย์เจอประสบการณ์จริงเข้าเช่นนี้ก็ตกใจมาก ลืมขั้นตอนต่างๆ ที่ท่านอาจารย์สอนเสียสิ้น เทยาใส่ผิดๆ ถูกๆ  มิได้เป็นไปตามคำสั่ง พระฤาษีอาจารย์องค์พี่ใหญ่ จึงสิ้นชีพลงในกะทะน้ำยานั้น และกะทะน้ำยาก็คงถูกเททิ้งไปตามวิธีการเท่าที่ศิษย์จะพึงกระทำได้  ซึ่งอาจจะมีพิธีขอขมาท่านอาจารย์  และอื่นๆ  ซึ่งตำนานเดิมมิได้กล่าวไว้


 กาลต่อมา ชนรุ่นหลังที่มีวิชาอาคม ก็ได้ค้นพบตัวยาของท่านฤาษี  ติดอยู่ในหินเป็นก้อนๆ  หรือดูคล้ายหินชนิดหนึ่งต่างพากันเรียกว่า  “ยาฤาษีผสม” เมื่อค่อยๆทุบให้แตกจะเห็นเป็นกระเปาะผงยาอยู่ภายใน เมื่อชาวบ้านผู้ใดเจ็บป่วยก็นำไปทำน้ำมนต์ดื่มกิน ปรากฏว่ามีคุณวิเศษรักษาคนป่วยได้อย่างปาฏิหาริย์  (ผงยาภายในกระเปาะนี้เป็นผงยาที่มีสีขาวก็มี   และมีสีเหลือง, สีม่วง, สีน้ำตาล, สีแดงก็มี   แต่ละก้อนก็มีสีไม่เหมือนกัน)

ตั้งเมืองใหม่และสร้างวัด


ครั้งเมื่อฤาษีอีกสามพี่น้องที่เหลือต่างก็มรณภาพลงไปตามกาลเวลา   เมื่อกาลล่วงผ่านไปได้นับหลายร้อยปี  ก็ยังความรกร้างทรุดโทรมแก่พระธาตุเจดีย์ทั้งสี่มุมเมือง ตามกฏธรรมดาแห่งโลกธรรมปี พุทธศักราช 1316   สมัยอาณาจักรโยนกนาคนครสิงหนวัต  (เชียงแสน)   ขยายอาณาเขตมาถึงแม่สะเรียงให้เป็นเมืองชายแดนของอาณาจักรยวน  (หรือโยนก) มาช้านาน จนในยุคต่อมาเจดีย์พระธาตุจอมมอญก็ได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่ในรัชสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา   กษัตริย์แห่งนครเชียงใหม่ 


องค์ที่ ราชวงศ์มังราย  ซึ่งสืบราชสมบัติต่อจากพระเจ้ากือนา  พระราชบิดาซึ่งมีพระราชดำริให้สร้างนครเชียงใหม่ตะวันตก  (คือจังหวัดแม่ฮ่องสอนในปัจจุบัน)   จึงมีรับสั่งให้เจ้าราชภาคินัย  ยกไพร่พลช้างม้าลงมาสร้างเมืองแม่ฮ่องสอน ขุนยวม ปาย  และเมืองยวม มีอาณาเขตกว้างขวางมากจึงได้ให้เกณฑ์ผู้คนให้ย้ายจากตัวนครเชียงใหม่และหัวเมืองรอบนอกให้อพยพครอบครัวลงมาอาศัยและประกอบอาชีพทำมาหากินอยู่ที่เมืองแม่ฮ่องสอนตลอดจนเมืองแม่สะเรียงมากยิ่งขึ้น


          จากนั้นเจ้าเมืองและผู้ทรงคุณวุฒิความรู้ต่างก็ได้ปรึกษากันว่า   เราควรบูรณะพระธาตุเจดีย์ไว้ไหว้สักการะบูชากันพร้อมทั้งสร้างวัดไว้เป็นที่พำนักจำวัดของพระภิกษุสามเณร   ซึ่งในขณะนั้นพระธาตุสี่มุมเมืองจึงได้รับการบูรณะซ่อมแซมเพื่อให้วัฒนาถาวรสืบไป  ด้วยเหตุดังนี้   พระธาตุจอมมอญ  จึงมีประวัติว่าเคยได้รับการบูรณะในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา โดยพระเจ้าแสนเมืองมามีรับสั่งให้มหาอุปราชนามว่า  เจ้าแสนคำเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างต่อเติมของเดิมที่พระฤาษีได้สร้างไว้แต่กาลก่อนและให้สร้างวัดขึ้นด้วย


 

 เมื่อเจ้าแสนคำได้รับพระราชโอการแล้วพระองค์ก็ยกไพร่พลมาสร้างวัดพระธาตุจอมมอญขึ้นเมื่อประมาณปี
พุทธศักราช 1935   ซึ่งพระเจ้าแสนเมืองมาพระองค์ได้สวรรคตลงก่อน   กาลนั้นพระยาสามฝั่งแกน  ได้ขึ้นครองราชย์แทนซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาที่เจ้าแสนคำกำลังก่อสร้างวัดพระธาตุจอมมอญ


          ต่อมาประมาณปีพุทธศักราช 2143   ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้กวาดต้อนรี้พลพม่า  ไทยใหญ่  มอญ  เม็ง  กระเหรี่ยง  ได้มาตั้งรกรากอยู่ใกล้วัดเก่าเรียกว่าวังดิน    มีพระราชดำริให้บูรณะเจดีย์พระธาตุจอมมอญอันมีพระยาเกียรติพระยาราม  ซึ่งเป็นชาวมอญเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างบูรณะซ่อมแซมจนแล้วเสร็จ เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายแด่พระพี่นางสุพรรณกัลยา  อนุมานว่า  เจดีย์พระธาตุจอมมอญ  ที่ได้ชื่อว่าพระธาตุจอมมอญจะด้วยเหตุที่พระยาเกียรติ พระยาราม มีเชี้อสายแห่งมอญ เป็นผู้ควบคุมดูแลการบูรณะซ่อมแซมในขณะนั้น  เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ  จึงได้ให้นามว่า  พระธาตุจอมมอญ


          กาลต่อมา   เจดีย์พระธาตุจอมมอญ  และอาราม เสนาสนะ และกู่เจ้าแสนคำ  (เจดีย์บรรจุอัฐิเจ้าแสนคำที่เคยสร้างวัดมาก่อน)  ก็ชำรุดทรุดโทรมคงเหลือแต่ซากปลักหักพังไปตามกาลเวลาและด้วยถูกน้ำป่าไหลหลากมาเชี่ยวกรากท่วมวัด  ที่กู่เจ้าแสนคำนั้นได้มีการฝังสมบัติและมีลายแทง   ปรากฏว่าลายแทงได้ถูกหัวขโมยพบเข้าแล้วมาขุดเอาของมีค่าไปหมด  ที่เจดีย์พระธาตุบนเขาก็เห็นแต่ซากมีลักษณะเป็นคลุมคล้ายปลักควาย   มีหัวขโมยได้ขึ้นไปลักขุดสมบัติเช่นกันแต่มีเหตุต้องหนีกระเจิดกระเจิงกันไป    ด้วยมีสุนัขในหมู่บ้านเป็นฝูงซึ่งอยู่ห่างไกลกันเป็นกิโลเมตรหนทางก็เป็นป่าเขามืดทึบ   บรรดาสุนัขฝูงนั้นเหมือนจะรู้เหตุร้ายได้เห่าหอนพากันวิ่งจากบ้านเข้าป่าขึ้นไปถึงบนเขาไล่กัดหัวขโมยวิ่งหนีกันไป
หัวซุกหัวซุน   ชาวบ้านก็แตกตื่นไล่ตามฝูงสุนัขไปจนหัวขโมยไม่กล้ามาขุดสมบัติที่ฐานพระเจดีย์เก่าบนเขาอีกเลย

สร้างพระเจดีย์
        
เจดีย์พระธาตุสี่มุมเมืองนี้   วันดีคืนดีจะปรากฏมีแสงสว่างคล้ายลูกไฟกลมๆ  ใหญ่เท่าลูกมะพร้าวเสด็จลอยไปมาหาสู่กัน   กล่าวกันว่าเป็นพระธาตุเสด็จ  มีชาวบ้านมองเห็นกันอยู่เสมอจึงคิดว่าชะรอยบรรดาเทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาพระพุทธศาสนาอยากจะให้สร้างพระเจดีย์ครอบองค์เก่าไว้   จึงได้ปรึกษาหารือกันสร้างพระเจดีย์ขึ้นมา


          ในปี พุทธศักราช  2457  ตรงกับเจ้าคณะอำเภอองค์แรกของแม่สะเรียง    ชื่อท่านพระครูอนุสรศาสนกิจ  (ครูบาก๋า)  วัดกิตติวงค์    และตรงกับสมัยนายอำเภอคนที่   3    มีนามว่า   ร.อ.อ.   หลวงสุรัตนาราชกิจ    (จำปา  ลาวนานนท์)    (พ.ศ. 2454 -2462)    และตรงกับการสร้างวัดจอมแจ้งหนึ่งในบรรดาเจดีย์พระธาตุสี่มุมเมืองด้วย

 


          นับเป็นยุคที่สี่ของการบูรณะเจดีย์พระธาตุจอมมอญ ด้วยแรงศรัทธาของชาวอำเภอแม่สะเรียง นำโดยพ่อหม่อนจอนุ นางโยแฮ  พิกุล   บิดาของของพ่อหลวงคำแปง  พิกุล ชาวบ้านกะเหรี่ยงพะปลอ  (พะปลอ  เป็นชื่อของกะเหรี่ยงที่อพยพมาเป็นคนแรกมาตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้วัดนี้กาลต่อมาจึงเพี้ยนมาเป็น  “พะมอลอ”  ใช้เป็นชื่อหมู่บ้านว่า  “บ้านพะมอลอ” มาจนถึงทุกวันนี้) ในการบูรณะเจดีย์พระธาตุจอมมอญครั้งนี้  มีครูบาติ๊บ   อภิวํโส  วัดชัยลาภ  (วัดป่าหนาด  ชื่อเดิมของวัด)  เจ้าอาวาสองค์ที่  3  เป็นประธานสร้างเจดีย์ครอบองค์เก่า


          เมื่อได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นมาแล้วยังสร้างศาลาบำเพ็ญบุญบนเขาอีกหนึ่งหลัง ข้างล่างเขาหนึ่งหลัง แต่หามีพระภิกษุสงฆ์มาอยู่จำพรรษาไม่  ด้วยเป็นป่ารกชัฎน่าสะพรึงกลัว  กล่าวกันว่ามีผีดุไม่มีใครกล้ามาอยู่จึงเป็นวัดร้างเรื่อยมา ทางด้านหลังวัดยังมีถ้ำอยู่แห่งหนึ่งภายในถ้ำนั้นยังมีถ้วยโถโอชามกระเบื้องบ้างถ้วยชามดินเผาบ้างมีอยู่มากมาย  เมื่อชาวบ้านมีงานก็ไปขอยืมจากเจ้าถ้ำเจ้าป่าเจ้าเขาเอาไปใช้แล้วก็เอามาคืนไว้อย่างเก่า  นานไปเมื่อเอาไปแล้วไม่ยอมเอามาคืนจะไปเอามาอีกก็หาปากถ้ำไม่เจอถูกปิดไปหมดนับตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เห็นเป็นถ้ำอีกเลย กล่าวกันว่าในถ้ำยังมีพระพุทธรูป  มีฆ้องใหญ่ใบหนึ่ง   ถ้าตีแล้วเสียงดังกระหึ่มไปหมด ดังไปถึงหมู่บ้านเมื่อถ้ำถูกปิดแล้วถ้าวันไหนคืนไหนได้ยินเสียงฆ้องดังขึ้น   ก็จะมีคนในหมู่บ้านล้มหายตายจากอยู่เสมอเป็นสัญญาณมรณะของผู้คน  แต่มาถึงปัจจุบันไม่เคยได้ยินเสียงฆ้องเลยเป็นเพราะบ้านเมืองเจริญขึ้นมีเสียงรบกวนทั่วทิศก็ว่าได้

เจ้าอาวาสองค์แรก
        
กาลต่อมา ถึงปีพุทธศักราช  2525   นับว่าเป็นยุคที่การติดต่อคมนาคมดีขึ้ตามลำดับ ได้มีพระธุดงค์องค์หนึ่งมาปักกลดอยู่บนศาลายอดเขาและเป็นเวลาใกล้จะเข้าพรรษาแล้ว ชาวบ้านก็ดีใจว่าจะมีพระมาอยู่จำพรรษาจึงอาราธนานิมนต์ท่านอยู่จำพรรษา ท่านก็มิได้รับปากว่าจะมาได้ต้องให้หลวงปู่อนุญาตก่อนจึงจะมาได้ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปุ่ครูบาพรหมา  พฺรหมจกฺโก   ( พระสุพรหมยานเถระ)   วัดพระพุทธบาทตากผ้า อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูล ชื่อ พระอาจารย์สวัสดิ์  นริสฺสโร


          เมื่อท่านเดินทางกลับวัดพระพุทธบาทตากผ้าไปแล้ว      ไม่นาน ชาวบ้านก็พากันไปอาราธนานิมนต์และขออนุญาตจากหลวงปู่ให้มาอยู่จำพรรษา   หลวงปู่ท่านไม่อยากให้มาเท่าใดนักด้วยพรรษายังน้อยแต่ชาวบ้านเขามีศรัทธาจริง     ประกอบกับไม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาเลยและเคยเป็นสถานที่ที่หลวงปู่เคยธุดงค์ไปปลักกลดอยู่
ในสมัยก่อนนานมาแล้วด้วย    ท่านจึงอนุญาตให้พระอาจารย์สวัสดิ์  ไปอยู่สักหนึ่งพรรษา


         

 จากนั้นท่านพระอาจารย์สวัสดิ์  ก็ได้มาอยู่จำพรรษาในปี   พุทธศักราช  2525   มาอยู่ด้วยกัน  2   รูป  กับพระอาจารย์พิมล   ชาตวีโร   จากนั้นก็มีหลวงพ่อตาคำ  สํวโร   ได้เดินทางมาอยู่จำพรรษา    ในปีต่อๆ   มาก็ได้ทั้งพระภิกษุสามเณร  ญาติโยม อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายร่วมแรงร่วมใจกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดร้างพระธาตุจอมมอญ          จนกระทั้งได้ขออนุญาตไปยังกรมการศาสนายกวัดร้างขึ้นเป็นวัดถูกต้องตามกฏหมาย        ทางกรมการศาสนาได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นวัด   เมื่อวันที่   17   พฤษภาคม   พุทธศักราช  2542   ได้แต่งตั้งให้พระอธิการสวัสดิ์    นริสฺสโร   เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก  เมื่อวันที่  1   เมษายน   พุทธศักราช  2543   และวัดพระธาตุจอมมอญได้รับการคัดเลือกให้เป็นอุทยานการศึกษา   เมื่อวันที่   22  พฤษภาคม   พุทธศักราช  2543

 


          

วัดพระธาตุจอมมอญ   นับว่าได้ทำการบูรณะยกฐานะขึ้นเป็นวัดได้สำเร็จหลังสุดในบรรดาพระธาตุสี่มุมเมือง  ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองประชาชนชาวแม่สะเรียงได้รู้จักและศึกษาพระธรรมคำสอนทั้งฝ่ายหินยหรือเถรวาทและฝ่ายมหายานหรือมหาสังฆิกวาท   ซึ่งเผยแผ่จากอินเดียแลจีนผืนแผ่นดินใหญ่  ด้วยทางวัดมีจิตใจกว้างขวางเผยแผ่ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง  ในพระพุทธศาสนาทั้งในไทย  จีน  และอินเดีย คงจะสมกับคำพยากรณ์ของคนโบราณรุ่นปู่  ย่า  ตาทวด ด้เคยกล่าวกันต่อๆ มาว่า ต่อไปภายภาคหน้าเกี่ยวกับพระธาตุสี่มุมเมืองนี้   เมื่อใดได้สร้างเป็นสำเร็จเรียบร้อยแล้ว   อำเภอแม่สะเรียงจะเจริญรุ่งเรืองที่สุด


          โดยได้กล่าวเป็นปริศนาพยากรณ์ไว้ว่า“จอมมอญมาตอนมติมาต้องที่นี่แล้วมาแจ้งที่นี่”  หมายความว่า   พระธาตุจอมมอญ  จะมาบูรณะปฏิสังขรณ์ทีหลังเขาหมด หลังจากบูรณะพระธาตุจอมกิตติมาต้องที่นี่ หมายถึงพระธาตุจอมทองซึ่งต่างก็มองเห็นเล็งตรงกันอยู่  และมาแจ้งที่นี่ หมายถึง พระธาตุจอมแจ้ง  และหมายถึงความสว่างไสวความเจริญรุ่งเรืองทั่วอำเภอแม่สะเรียง 

 

Loading...

 
รูปภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวพระธาตุจอมมอญ

 
แม่ฮ่องสอน/Information of MAEHONGSON

 

 
เชิญแนะนำการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ความประทับใจ

เชิญแนะนำการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ความประทับใจ

ชื่อ / Email
ข้อความ
  

แม่ฮ่องสอน ข้อมูลท่องเที่ยวเเม่ฮ่องสอน
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว
อำเภอเมือง


น้ำตกซู่ซ่า

Susa Waterfall
(แม่ฮ่องสอน)


วัดจองคำ

Wat Chong Kham
(แม่ฮ่องสอน)


บ่อน้ำร้อนผาบ่่อง

Pha Bong Hot Spring
(แม่ฮ่องสอน)


บ้านยอดดอย

Ban Yot Doi
(แม่ฮ่องสอน)
อำเภอแม่สะเรียง


ถ้ำเง้า

Ngao Cave
(แม่ฮ่องสอน)


วัดแสนทอง

Wat Saen Thong
(แม่ฮ่องสอน)


แม่สามแลบ
Mae Sam Laep
(แม่ฮ่องสอน)

อำเภอขุนยวม


ยอดดอยปุย
Pui hill
(แม่ฮ่องสอน)


วัดต่อแพ
Wat To Phae
(แม่ฮ่องสอน)
 
อำเภอปางมะผ้า
อำเภอปาย


แม่น้ำปาย
Pai River
(แม่ฮ่องสอน)


วัดกลาง
Wat Klang
(แม่ฮ่องสอน)


วัดน้ำฮู

Wat Nam Hu
(แม่ฮ่องสอน)


กองแลน

Kong Laen
(แม่ฮ่องสอน)

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน

(ขอขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาพบางส่วนจากเว็บท่องเที่ยวต่างๆผ่านการค้นหาของกูเกิล)

อำเภอสบเมย
แผนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน/map of MAEHONGSON
รายชื่อโรงแรมในแม่ฮ่องสอน/Hotel of MAEHONGSON

โรงแรมในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ดูข้อมูลโรงแรมทั้งหมดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน คลิกที่นี่

ร้านอาหารในจังหวัดแม่ฮ่องสอน


 
 
dooasia.com
สงวนลิขสิทธิ์ © 2550 ดูเอเซีย    www.dooasia.com

เว็บท่องเที่ยว จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ข้อมูลท่องเที่ยว ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แผนที่ การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร จองที่พักและโรงแรมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก คลิปวีดีโอ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ลาว เวียดนาม ขอขอบคุณข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวลาว การท่องเที่ยวกัมพูชา การท่องเที่ยวเวียดนาม มรดกไทย กรมป่าไม้
dooasia(at)gmail.com ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย. สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์