การท่องเที่ยวหวังให้ไทยเป็น Gateway สู่ AEC

0

กงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดการท่องเที่ยวของเอเชีย มีแนวโน้มเศรษฐกิจสดใสและไปได้ดีมากที่สุดตั้งแต่ไตรมาส 1 ปีนี้ โดยมีฐานใหญ่จาก จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักให้กับการท่องเที่ยวไทยในภาวะที่ตลาดยุโรป อาจจะถดถอยเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจ แม้จะไม่ส่งสัญญาณเลวร้ายถึงขั้นล้มละลาย แต่เอกชนส่วนหนึ่งก็เริ่มปรับตัวรับ

ส่วนความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีน ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างประเทศระบุให้จับตามองในปีนี้ว่า จะได้รับผลกระทบไปตามยุโรป หลังจากเริ่มมีสัญญาณจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ เริ่มซบเซามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วนั้น ยังเชื่อมั่นว่าในส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่พึ่งพาตลาดจีนจะยังไปได้ดี แม้การเดินทางขาออกจะเติบโตแบบชะลอตัวเหลือเพียง 6-7% ในปีนี้ แต่ด้วยฐานประชากรขนาดใหญ่ ทำให้ยังเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

ตลาดที่มองข้ามไม่ได้เลย คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือสมาชิกอาเซียน ที่ เริ่มมีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ทั้ง สิงคโปร์ มาเลเซีย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่เติบโตดีที่สุดในขนาดนี้ โดยส่วนตัวประเมินว่า จากการที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาคาดการณ์การเติบโตของนักท่องเที่ยวไว้ราว 8% ในปี 2555 แต่เฉพาะอาเซียน ควรกระตุ้นให้มีการเติบโตได้ 10% ขึ้นไป และไทยควรเร่งสร้างส่วนแบ่งการตลาดสำหรับกลุ่มนี้ จากเดิมที่เรามีนักท่องเที่ยวอาเซียนอยู่เพียง 28-29% จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด ต้องเร่งทำตลาดในจังหวะที่ภายในอาเซียนเองกำลังเตรียมตัวเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

thai-gateway

โอกาสสำหรับตลาดอาเซียนสำหรับการท่องเที่ยวไทย ที่เห็นได้ชัดในปีนี้ คือการใช้ข้อได้เปรียบในการเป็นประตูสู่ภูมิภาค (Gateway to Asean) ของ AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านที่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไทยอย่าง พม่า และ กัมพูชา ที่มีนโยบายเปิดประเทศมากขึ้น นักท่องเที่ยวทั้งจากในและนอกภูมิภาคสนใจในการเดินทางและการลงทุนในสองประเทศดังกล่าวมากขึ้น ทำให้ไทยยิ่งมีโอกาสจับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชื่อมโยงมาไทยก่อนกระจายไปสู่เพื่อนบ้านได้ โดยเฉพาะใน กัมพูชา ซึ่งเริ่มมีการเปิดกว้างรับการลงทุนจากต่างประเทศ และการคาดการณ์การเติบโตจีดีพีในระดับ 7% ขึ้นไป กลุ่มการตลาดด้านท่องเที่ยวของอาเซียน ตั้งเป้าว่าภายในปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาคเดินทางเข้ามาราว 107 ล้านคน เพิ่มจากปี 2554 ซึ่งทำได้ 75 ล้านคน คิดเป็นอัตราเติบโตราว 7-8%

สิทธิ์พสุ ทองสุข รองกรรมการผู้จัดการโรงแรมแฟร์เฮาส์วิลล่าส์แอนด์สปาและแฟร์เฮาส์ บีชรีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล เกาะสมุย เปิดเผยว่า ปีนี้จะปรับแผนธุรกิจรุกตลาดเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะมาเลเซีย และเกาหลีใต้ เพราะมีปัจจัยเสริมเรื่องการเดินทางง่ายขึ้นด้วยเที่ยวบินตรง เพื่อกระจายความเสี่ยงจากตลาดยุโรป ที่ยังมีปัญหาเศรษฐกิจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะลดลง และตลาดเอเชียจะมาชดเชยการทำตลาดคนไทย ที่คาดว่าจะลดลงจากเดิมที่มีสัดส่วนราว 20% เทียบกับต่างชาติ 80% เนื่องจากเทรนด์การเดินทางคนไทยในปีนี้ จะเลือกจุดหมายชายทะเลเฉพาะที่ใกล้กรุงเทพฯ เช่น หัวหิน พัทยา มากกว่าเดินทางมาเกาะสมุย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแพงกว่า

ที่มา: bangkokbiznews.com

เชิญแสดงความคิดเห็น