เที่ยวเมืองดอกบัว ทัวร์สามพันโบก

0

เที่ยวเมืองดอกบัว ทัวร์สามพันโบก ยลน้ำตกคอนพะเพ็ง ลาวใต้สวัสดีเพื่อน ๆ ดูเอเซียดอทคอมทุกคนจ้า ทริปนี้เราได้รับเกียรติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) การรถไฟแห่งประเทศไทยและสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) ให้เข้าร่วมทริป “15 เส้นทางหรรษา นั่งรถไฟไปโอบหมอก หยอกสายลม ชมอารยธรรม” โดยทริปนี้นั่งรถไฟไปชมอารยธรรมกันที่เมืองดอกบัวหรือจังหวัดอุบลราชธานี ดินแดนอีสานบ้านเฮานั้นเอง โดยเริ่มเดินทางระหว่างวันที่ 30 มี.ค 3 เม.ย 2555 เป็นอีกหนึ่งทริปดี ๆ ที่ได้พบทั้งความสนุก สวยงาม และความประทับใจ ของดินแดนอารยธรรมเมืองดอกบัวและเมืองปากเซ(ลาวใต้) ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตประเพณีและวัฒนธรรมของชาวอีสานอย่างใกล้ชิดเลยครับ ทั้งยังได้สัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติอย่าง “สามพันโบก” และ “น้ำตกคอนพะเพ็ง” ที่ ๆ ขอบอกว่าต้องควรมาสักครั้งในชีวิตเลยครับ แล้วเพื่อน ๆ จะได้ความประทับใจกลับไปแบบไม่ลืมเลือนแน่นอน และเราก็ไม่ได้ไปท่องเที่ยวเฉย ๆ น่ะ เรายังเก็บภาพบรรยากาศความประทับใจ ตลอดเส้นทางของการทัวร์เมืองดอกบัวและเมืองปากเซครั้งนี้มาฝากเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้ไป ให้อิจฉากันเล่น ๆ ครับ อิอิ

เริ่มออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงวันที่ 30 มี.ค 54 เวลา 20.30 น. ด้วยขบวนรถไฟน้องครึกครื้น ฯ พ่วงรถด่วน ขบวนที่ 67 โดยใช้เวลาเดินทาง 12 ชม.ด้วยกัน เรียกได้ว่านอนกันแบบยาว ๆ เลยครับ แต่เบาะรถไฟขบวนน้องครึกครื้นเค้านุ่มนั่งสบาย แอร์ก็เย็นเจี๊ยบชื่นใจทั้งคืนเลยครับ และแล้วก็ถึงที่หมายเมืองดอกบัว จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มต้นสถานที่แรกเลยกับ การเดินชมแกรนด์แคนยอนแห่งสยาม “สามพันโบก” เมืองอุบล ฯ มหัศจรรย์แรงน้ำวนกัดเซาะทำให้หินกลายเป็นแอ่งหินน้อย – ใหญ่ กว่า 3,000 แอ่ง เคยเห็นแต่ในรูปถ่ายว่าสวยงามและดูยิ่งใหญ่แล้ว ของจริงยิ่งกว่าหลายเท่าครับ บรรดาลูกทัวร์ต่างตะลึงและประทับใจในความสวยงามของแอ่งหิน น้อยใหญ่ และเนื่องด้วยวันนั้นทางคณะทัวร์เราโชคดีครับ ที่ฟ้าออกครึ้ม ๆ หน่อย บวกกับมีลมพัดค่อนข้างแรง ทำให้อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่นัก เพราะชาวบ้านแถวนั้นเค้าบอกมาว่าปกติจะร้อนมาก ๆ แต่วันนั้นอยู่ในช่วงมรสุมพอดีครับ อากาศเลยค่อนข้างเย็นสบาย หลังจากเดินชมความงดงามของสามพันโบกและนั่งเรือล่องแม่น้ำโขงที่มีความลึกถึง 100 เมตร กันแล้ว จุดหมายต่อไปเราเดินทางขึ้นเขาไปชมภาพเขียนสียุคโบราณ ที่ “อุทยานแห่งชาติผาแต้ม” เป็นภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุกว่า 3,000 ปี เป็นภาพเขียนด้วยสีแดงน้ำหมากเฉพาะที่ผาแต้ม มีจำนวนถึง 300 ภาพด้วยกัน เช่น ภาพลูกช้างกับแม่ช้าง ภาพปลาบึก เครื่องมือหาปลา ภาพการดำรงชีวิตของคนสมัยก่อน และอีกมากมายครับ ต้องเดินทางกันลงไปเดินตามริมหน้าผา ระยะทางประมาณ 800 เมตรด้วยกัน ตอนลงไม่เท่าไหร่ครับ แต่ตอนขึ้นนี้ บันไดมันจะชันนิดหน่อย เล่นเอาเมื่อยเหมือนกัน แต่พอได้ลงไปถึงข้างล่าง ได้เห็นภาพสีฝีมือบรรพบุรุษด้วยตาตัวเองแล้ว ขอบอกว่าคุ้มค่าที่ได้มากันจริง ๆ และวันนี้ก็เหนื่อยล้ากันมาเยอะแล้ว ได้เวลาเข้าที่พักไปรับประทานอาหารและดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำโขงที่ “อารยา รีสอร์ท” พร้อมกับได้ชมการแสดงประเพณีและวัฒนธรรมของชาวอีสานจากวงโปงลาง ได้ดูการร่ายรำของหนุ่มสาวชาวอีสาน ทั้งสวยงามและน่ารักมาก ๆ ทางคณะทัวร์ก็ร่วมเต้นรำกับน้อง ๆ นางรำอย่างสนุกสนานจนลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียวครับ

เข้าสู่วันที่สองของการมาเยือนถิ่นอีสาน และวันนี้ก็มีอีกหนึ่งจุดหมายที่สำคัญเลยของทริปนี้ คือการไปเยือนน้ำตกคอนพะเพ็งหรือที่ทั่วโลกรู้จักกันในนาม “ไนแองการ่าแห่งเอเชีย” น้ำตกที่สวยและใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ใน เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ประเทศลาว โดยเราต้องข้ามด่านชายแดนช่องเม็ก เพื่อเข้าสู่ประเทศลาว ใช้เวลาในการเดินทางจากด่านช่องเม็ก ไปยังน้ำตกคอนพะเพ็งใช้เวลาประมาณ เกือบ 3 ชม. ได้ โดยระหว่างทางก็สามารถนั่งรถชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตคนปากเซได้ทั้งสองข้างทาง เพราะที่นี้เค้ายังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก แต่ก่อนจะเดินทางไปถึงน้ำตกทางคณะทัวร์หยุดพักยืดเส้นยืดสายแวะช็อปปิ้งกันก่อนที่ตลาดปากเซ ที่นี้ก็มีของขายสารพัดอย่าง แต่ที่เห็นขายกันเยอะ ๆ เลยต้องพวกสมุนไพรหลากหลายชนิด ได้มักจะได้รับความสนใจจากนั่งท่องเที่ยว เมื่อช็อปปิ้งกันอย่างจุใจก็ออกเดินทางกันต่อไปสู่น้ำตกคอนพะเพ็ง เมื่อถึงจุดหมายแล้ว ขอบอกว่าคุ้มค่ากับการมาจริง ๆ สมกับฉายาไนแองการ่าเมืองไทยเลยครับ พี่ป้า น้า อา ต่างก็ร้องว้าว รีบเก็บภาพกันเป็นที่ระลึก แต่น่าเสียดายหน่อย ตรงที่วันนั้นฟ้าออกครึ้ม ๆ ทั้งวันเลยทำให้แสงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก แต่ก็ดีที่ไม่มีแดด ไม่งั้นตัวดำปี๋กันแน่ ๆ ถือว่าได้อย่างเสียอย่างครับ แต่ยังไงเพื่อน ๆ ก็ต้องลองมาสัมผัสด้วยตาดูสักครั้งในชีวิตน่ะครับ ที่น้ำตกคอนพะเพ็งแห่งนี้ คุ้มค่ากับการนั่งรถมาหลายชั่วโมงแน่นอน

และแล้วก็เข้าสู่วันที่สามของการทัวร์เมืองดอกบัวครับ วันนี้มีกิจกรรมดี ๆ ที่บรรดาลูกทัวร์ทั้งหลายจะได้อิ่มบุญและยังได้สัมผัสวัฒนธรรมของเมืองอุบล ฯ อย่างใกล้ชิดกับการนั่งสามล้อ ซอกแซกไปตามตรอกซอกซอยเพื่อขิมบรรยากาศตัวเมืองอุบล ฯ และแวะชิมของอร่อยขึ้นชื่อ เจ้าเด็ดของเมืองดอกบัว เช่น ข้ามมันไก่ ไข่กระทะ กวยจั๊บญวน กาแฟโบราณ ปาท่องโก๋ ซาลาเปา และอีกมามายเลยครับ หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็นั่งสามล้อไปอิ่มใจกันต่อที่ “วัดสุปัฏนารามวราวิหาร” เพื่อนมัสการพระสัพพัญญูเจ้า ต่อด้วยพระเจ้าอินทร์แปง ณ “วัดมหาวนาราม” และพระเจ้าศรีเมือง “วัดทุ่งสีเมือง” ชมภาพภาพเขียนผนังโบสถ์ หอไตรกลางน้ำ ยังไม่พอครับ แวะสักการะ “หลวงปู่มั่น” และ “หลวงปู่เสาร์”เกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี ที่ “วัดเลียบ” และปิดท้ายความประทับใจ ที่วัดหนองบัว แวะสักการะพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ (พุทธครยาจำลองจากอินเดีย) ขอบอกว่าสวยงามและยิ่งใหญ่มาก ๆ วันนี้บรรดาลูกทัวร์ พี่ ป้า น้า อา หน้าตาแจ่มใส อิ่มบุญกันถ้วนน่าเลยทีเดียว ที่เมืองอุบล ฯ ยังมีอีกหลายวัดที่สวยงามรอเราไปสักการะอยู่ครับ สมกลับเป็นเมืองมรดกโลกจริง ๆ แต่เนื่องจากเวลามีน้อยเดี๋ยวไม่ทันรถไฟขากลับ เพราะต้องแบ่งเวลาให้ลูกทัวร์ได้แวะช็อปซื้อของฝากกันที่ตัวเมืองอุบล มีทั้ง หมูยอ ไส้กรอกอีสาน แหนม เค็มบักนัด และอีกมากมายให้เลือกซื้อกัน สำหรับทริปนี้ส่วนใหญ่จะหมดเวลาไปกับการช็อปซะส่วนใหญ่ครับ ตามนิสัยคนไทยเหนื่อยแค่ไหน แต่ขอให้พี่ที่ให้ได้ช็อป ให้เสียตังค์ แค่นี้ก็สุขใจ ฮ่า ๆ หลังจากช็อปกันหมดกระเป๋าแล้ว เดินทางสู่สถานีรถไฟอุบลราชธานี ได้เวลาล่ำลาเมืองดอกบัวกันซะแล้วครับ

น่าเสียดายครับ เวลามันช่างผ่านไปรวดเร็ว ยังไม่อยากกลับเลยอ่ะ แต่เมื่อสิ้นสุดโปรแกรมการเดินทางแล้ว เราก็ต้องลาเมืองดอกบัว เมืองที่ร่ำรวยอารยธรรมแห่งนี้กันสักที สำหรับทริป “เที่ยวเมืองดอกบัว ทัวร์สามพันโบก ยลน้ำตกคอนพะเพ็ง ลาวใต้” นี้ก็จบลงโดยทิ้งเพียงร่องรอยความประทับใจไว้ งานนี้จะไม่สนุก ไม่สะดวกสบายเลยถ้าขาดทุก ๆ หน่วยงานที่สนับสนุนและจัดทัวร์ดี ๆ แบบนี้ขึ้นมา และอีกหนึ่งความสำเร็จที่ทำให้ทริปนี้ผ่านไปด้วยดีเลย คือการดูแลจากพี่ ๆ ทีมงาน “ฟูจิทัวร์” ที่ดูแลคณะลูกทัวร์รวมไปถึงสื่อมวลชน ทุกท่าน เป็นอย่างดีครับ แล้วเจอกันใหม่กับทริปน่า มาดูกันมาดูเอเซียดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไปท่องเที่ยว ที่ไหนกันอีกบ้าง แล้วอย่าลืมติดตามกันต่อไปน่ะครับเพื่อน ๆ

เชิญแสดงความคิดเห็น