Little Amazon (คลองสังเน่ห์)

0

Little Amazon (คลองสังเน่ห์)……อ.ตะกั่วป่า จ.พังงาทริปนี้ดูเอเซีย.คอมยังเก็บภาพบรรยากาศและท่องเที่ยวกันอยู่ที่อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ถึงแม้ว่าเมืองตะกั่วป่าจะเป็นเมืองชายทะเล แต่ก็โอบล้อมไปด้วยขุนเขา แถมยังมีผืนป่าเล็กๆ ที่น่าสนใจยิ่งนัก ขนาดที่ได้รับการขนานนามเอาไว้ว่าเป็น “Little Amazon เมืองไทย” เลยทีเดียว

     

ลำคลองที่เรากำลังจะได้ล่องเรือเที่ยวชมสายนี้มีชื่อว่า “คลองสังเน่ห์” คลองสายสั้นๆ ที่มีต้นน้ำมาจากเขาบางเต่าก่อนจะไปสิ้นสุดที่แม่น้ำตะกั่วป่า การท่องเที่ยวในเชิงนิเวศน์แบบนี้มักจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียเป็นส่วนใหญ่ คนไทยเองเสียอีกที่ให้ความสนใจสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้น้อยเสียจนน่าเสียดาย โชคดีที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าเล็กๆ แห่งนี้อย่างเหนียวแน่น เพื่อให้รอดพ้นจากกระแสนายทุนที่โหมกระหน่ำ

    

ดูเอเซีย.คอมเลือกช่วงเวลาที่เราล่องเรือคือตอนเช้าแดดอ่อนๆและเป็นช่วงเวลาที่น้ำลงพอดี ทำให้เราเห็นรากของต้นไทรริมสองฝั่งคลองสังเน่ห์และไม้ชายน้ำที่มีรากเกาะเกี่ยวกันหนาแน่นขึ้นอย่างถนัดตา ตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไทรขนาดยักษ์ที่มีอายุนับร้อยๆ ปี ที่แผ่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไป จำนวนรากของต้นไทรที่ทิ้งตัวลงสู่สายน้ำ สลับกับป่าต้นจาก ที่รกครึ้มก็ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมคล้ายป่าดงดิบในอเมซอน จึงเป็นที่มาของชื่อ “Little Amazon” นั่นเอง ท่ามกลางป่าต้นไทรยักษ์และป่าจาก เรายังเห็นต้นตีนเป็ดน้ำ หรือต้นสังหลาขึ้นแทรกตัวอยู่ทั่วไป และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่านั่นเองที่ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งอาหารอันโอชะของนกหลากหลายชนิด แมลง กระรอก กระแต ไปจนถึงปลาเล็กปลาน้อยที่ได้อาศัยผลไทรสุกๆ ที่ตกลงน้ำเป็นอาหารด้วย และอย่างที่บอกว่าถ้าใครโชคดีอาจจะได้เห็น “นกเงือก” บินมาหาอาหารตอนเช้าๆ ด้วย

นอกจากเราจะได้ชมนก ชมไม้ระหว่างที่เรือไหลเอื่อยไปตามน้ำแล้ว อีกหนึ่งความน่าตื่นเต้นที่สุดขณะล่องเรือลอดผ่านกิ่งก้านของต้นไทรก็คือ การสอดส่ายสายตามองหา “งู” อันเป็นเสน่ห์แห่งความสมบูรณ์ของป่า ถึงแม้ครั้งนี้เราจะไม่ได้เห็นนกเงือก แต่เราก็ได้เห็นทั้ง “งูเขียว” และ “งูปล้องทอง” ตัวเขื่องนอนขดตัวอยู่บนกิ่งไม้เหนือหัวเราเน้นๆ ซึ่งเจ้างูเงี้ยวเขี้ยวขอเหล่านี้จัดว่าเป็นพระรองของคลองสังเน่ห์เลยทีเดียว ช่วงกลางวันแบบนี้จะเป็นเวลาที่บรรดางูๆ มานอนขดนิ่งรอเวลาออกหากินในตอนกลางคืน เราแหงนคอชมวิวเพลินๆ ด้วยเวลาชั่วโมงกว่าๆ ในระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ในมุมเล็กๆ ของเมืองไทย ยังคงมีอะไรอีกมากมายให้เราได้ค้นหาคุณค่าที่แท้จริงของความงดงามทางธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราควรจะเรียนรู้วิธีที่จะอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลบ้างไม่มากก็น้อย

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจจะมาท่องเที่ยวเยี่ยมชมผืนป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งยังหลบซ่อนอยู่ในเมืองใหญ่ที่ครึกครื้นก็สามารถมาเยี่ยมชมได้ซึ่งมีรายละเอียด

 

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 9.00 17.00 น.

ค่าธรรมเนียม: เรือแคนนู ลำละ 400 (นั่งได้ 2 คน)

ค่าเรือพายนำเที่ยว ลำละ 500 บาท (นั่งได้ 2 คน)

เรือยนต์ ลำละ 800 บาท (นั่งได้ 2 คน)

เชิญแสดงความคิดเห็น