3 พ 3 เพลิน

0

สวัสดีค่ะพบกับดูเอเซียดอทคอมกันอีกเช่นเคย สำหรับทริปนี้ดูเอเซียดอทคอมจะพาเพื่อนๆร่วมเดินทางไปกับหนังสือ VoYAGE และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยทริปนี้เราให้ชื่อว่า ทริป 3 พ 3 เพลิน เพื่อนๆอยากรู้แล้วใช่ม้า…ว่า 3 พ 3 เพลินนี่มีไรกันบ้าง บอกให้นิดนึงก็ได้ ว่าคราวนี้เราเดินทางไป 3 จังหวัดกันเลยทีเดียว นั่นก็คือ พิจิตร-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์พร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ

เช้านี้กายพร้อมใจพร้อมเมื่อ แตรียมความพร้อมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่ตัวเมืองจังหวัดพิจิตรกันเลยดีกว่าค่ะ บรื้นๆๆๆๆ หลังจากอยู่บนรถมาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงจังหวัดพิจิตรกันแล้วค่ะ โดย พ แรก ของเราก็คือ “เพลินบุญ” นั่นเองค่ะ ด้วยนิสัยคนไทยเราไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องไหว้พระเพี่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนค่ะ ว่าแล้วเราเข้าไปไหว้กันเลยดีกว่าค่ะ วัดแรกที่ทาง VoYAGE พาเรามานี้คือ “วัดโพธิ์ประทับช้าง” ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดพิจิตร บริเวณด้านหน้ามีต้นตะเคียน ซึ่งมีอายุราว 260 ปี ประมาณ 7 คนโอบ ดูแล้วขลังจริงๆค่ะ ส่วนบริเวณด้านนอกก็จะเป็นศิลปะแบบอยุธยา ดูสวยงามมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์ หรือโบสถ์ หลังจากเข้าไปสักการะหลวงพ่อเสร็จเรียบร้อย คณะก็มุ่งหน้าสู่วัดท่าหลวง เพื่อไปกราบไหว้หลวงพ่อเพชร วัดนี้จัดว่าเป็นอีกวัดนึงที่มีความสวยงาม ไหว้พระสบายใจแล้วก็ขอปล่อยนกปล่อบปลาสักหน่อยค่ะ เพราะด้านหลังของวัดติดกับแม่น้ำ เป็นวิวที่สวยงามมากๆเลยค่ะ ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้วคณะเราก็เริ่มจะหิวกันแล้ว เที่ยงนี้เลยแวะรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหาร ขวัญข้าว อาหารที่นี่บอกได้คำเดียว อร่อยมากค่ะ บรรยากาศภายในร้านก็ดีสุดๆ ด้านหลังเป็นมุมสบายๆ มีร่มไม้อิ่มอร่อยแถมสบายใจ เพิ่มพลังเสร็จแล้วก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่จังหวัดต่อไป นั่นก็คือจังหวัดพิษณุโลกนั่นเอง คราวนี้เราจะมุ่งหน้าสู่ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร” เพื่อไปสักการะพระพุทธชินราช มาพิษณุโลกทั้งที่ไม่มาไหว้พระพุทธชินราช ถือว่ามาไม่ถึง ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่งดงามมากมาย เรียกได้ว่ารัวชัตเตอร์ไม่หยุดเลยหล่ะคะ เพื่อไว้พระ และชมความงามของวัดกันเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทางสู่ที่พักแล้วค่ะ คืนนี้เราพักกันที่โรงแรมอมรินทร์ ลากูน บริเวณโดยรอบสวยงามหรูหรามากเลยหล่ะค่ะ ก่อนที่จะพักรับประทานอาหารเย็นทางทีมงานหนังสือ VoYAGE ได้จัดกิจกรรมอบรมถ่ายภาพให้แก่คณะ โดยมี อาจารย์อัษฎาวุธ ซารัมย์ ได้มาสอนเทคนิกการถ่ายภาพต่างๆให้เราได้รู้กัน และยังมีการจัดประกวดภาพถ่ายให้แก่ผู้ร่วมเดินทางได้ร่วมสนุกด้วยนะคะ แต่คราวนี้ดูเอเซียดอทคอมอดร่วมสนุกค่ะ เพราะต้องเป็นกรรมการตัดสิน ไม่งั้นรางวัลเป็นของเราแน่นอน 555+ วันนี้ก็อิ่มบุญมาทั้งวัน ต้องขอตัวไปทานอาหารและพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ก่อนค่ะ

เช้าแล้วหรอเนี่ย ยังหลับสบายอยู่เลย แต่ไม่ได้ๆเพราะวันนี้เราจะต้องไป “เพลินใจ” กันกับธรรมชาติที่สวยงามกันที่ภูหินร่องกล้า ซึ่งเช้านี้เรายังคงอยู่กันที่จังหวัดพิษณุโลก ทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็เดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ แต่ก่อนที่เราจะขึ้นไปที่ภูหินร่องกล้า ต้องเปลี่ยนเป็นรถประจำท้องถิ่นกันก่อนค่ะ เพราะรถบัสขึ้นไปคงไม่สะดวกและไม่ปลอดภัยด้วยค่ะ พอลงรถมาพูดได้คำเดียวว่า สดชื่นสุดๆๆๆ ได้กลิ่นอายของธรรมชาตินี่มันสดชื่นจริงๆค่ะ พร้อมแล้วก็มุ่งหน้าสู่จุดแรกกันเลยนั่นก็คือ ลานหินแตก ซึ่งจะเป็นพื้นดินที่มีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก มีขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างสลับกันไป บางรอยก็กว้างมากๆจนต้องกระโดดข้าม ส่วนความลึกหรอคะ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพื่อนๆต้องลองลงไปดูเองค่ะ 555+ สองข้างทางก็มีดอกไม้ต้นไม้นานาชนิด แต่ที่น่าสนใจคงจะเป็นเจ้ากุหลาบขาวที่หน้าตาไม่เหมืนกุหลาบเอาซะเลยล่ะคะ 555+ อยากจะบอกว่าเดินดูเพลินจนรองเท้าขาดกันเลยทีเดียว 555+ ดูทั่วแล้วก็ขอแวะพักเติมพลังกันก่อน ก่อนจะไปจุดต่อไป ร้านอาหารที่นี่ก็ธรรมชาติมากๆอยู่ท่ามกลางภูเขา ทานเสร็จก็ขอไปเดินเล่นซะหน่อย ก็ไปเจอมุมเกาหลี ต้นไม้ที่นี่ขึ้นได้เป็นแนวสวยมากๆ แล้วดูเอเซียดอทคอมมีหรือจะพลาด ได้เวลาโพสต์ท่าถ่ายรูปกันแล้ว เย้ๆๆ ต้งหยุดโพสต์ท่าเด็ดแล้วหล่ะค่ะ เพราะตอนนี้ได้เวลาเดินทางไปลานหินปุ่มกันแล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯไปประมาณ 4 กม. ซึ่งหินที่นี่มีรูปร่างเป็นปุ่มๆ ซึ่งน่าจะเกิดจากการสึกกร่อนของหินตามธรรมชาติ จากนั้นก็เดินเท้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงผาชูธง ซึ่งสถานที่นี่เป็นสถานที่ที่ ผกค.จะขึ้นไปชูธงแดงทุกครั้งที่รบชนะ บนนี้นะคะ ขบอกว่ารมแรงมากๆ ต้องระวังนิดนึงเพราะอาจพลัดตกลงไปได้ เพราะรมแรงจริงๆค่ะ เมื่อเดินทางออกมาจากภูหินร่องกล้า เราก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อเดินทางไปยังวัดพระธาตุผาแก้ว ซึ่งตั้งอยู่บนเขาค้อ พูดได้คำเดียว ว่าเป็นวัดที่มีความสวยงามมาก เพราะตัววัดตั้งอยู่บนภูเขา มองไปโดยรอบจะเห็นความสวยงามโดยรอบของภูเขาและธรรมชาติที่สวยงาม และตัวเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุก็สร้างได้วิจิตรสวยงามมากค่ะ เมื่อไหว้พระธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลเสร็จแล้วก็ได้เวล้าเดินทางเข้าสู่ที่พัก คืนนี้เราพักกันที่ THE IMPERIAL PHUKAEW HILL RESORT หากเพื่อนๆคนไหนได้มีโอกาสเดินทางมาจังหวัดเพชรบูรณ์ ขอแนะนำให้พักที่นี่คะ เพราะนอกจากที่พักจะสวงามแล้ว บริเวณโดยรอบยังเป็นภูเขา ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าตอนนี้คือหน้าร้อน เพราะอากาศหนาวมาก ลมแรงสุดๆอีกแล้ว คืนนี้ขอตัวไปทานอาหารและพักเอาแรมสำหรับวันสุดท้ายก่อนะคะ

เช้านี้รีบตื่นมาแต่เช้า เพื่อมาชมทะเลหมอก เพราะที่พักอยู่ติดภูเขาเลย อากาศยามเช้าที่นี่นี่มันสดชื่นจริงๆ วันนี้วันสุดท้ายแล้วซิยังไม่อยากกลับเลยอ่ะ เช้านี้ก็เลยเดินเก็บภาพธรรมชาติโดยรอบของรีสอร์ทก่อนจาก ท่านอาหารเช้าเสร็จก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่ พ สุดท้ายของเรา นั่นก็คือ “เพลินตา” โดยเช้านี้เราจะไปไหว้พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาค้อ มองไปจะเห็นเจดีย์สีขาวที่มีความสวยงามมาก ภายในยอดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ด้านหน้าจะมีระฆังเรียงรายให้เพื่อนๆได้เคาะเพื่อความเป็นสิริมงคล ได้ฟังเสียงระฆังแล้วรู้สึกว่ามันไพเราะยังไงบอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ แต่ฟังแล้วสบายใจจริงๆ บนเขาค้อมีทัศนียภาพที่สวยงามมองแล้วเพลินตาสุดๆ ซึ่งสมกับเป็น พ เพลินตาจริงๆ บนเขาค้อจะมีอุณหภูมิโดยเ©ลี่ย 18-25 องศาตลอดปี ดีนะเนี่ยที่เอาเสื้อคลุมติดมาด้วยไม่งั้นหนาวแย่เลย เมื่อขึ้นมาถึงข้างบน ก็จะพบกับอนุสรณ์สถานผู้เสีสละเขาค้อ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของพลเรือน ทหาร ตำรวจ ที่เสียสละชีพในการปกป้องพื้นที่ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางลงเขา ซึ่งตรงทางลาให้เพื่อนๆสังเกตเส้นสีขาวที่เค้าขีดไว้บนถนนดีๆนะคะ มันคือเนินมหัศจรรย์ ซึ่งถ้าหากว่าเพื่อนๆหยุดรถตรงเส้นสีขาว และปล่อยเกียร์รถให้เป็นเกียร์ว่าง หากรถอยู่ด้านฝั่งนางั่วที่จะเข้าไปทางเขาค้อ รถจะค่อยๆถอยหลังขึ้นไปเองค่ะ แต่ถ้าหากเราอยู่อีกฝั่นนึงรถจะค่อยๆเดินหน้าไหลขึ้นเนินไปเองค่ะ ไม่เชื่อล่ะซิ เพราฉะนั้นต้องไปลิงด้วยตัวเองค่ะ เพราะดูเอเซียดอทคอมลองมาเรียบร้อยแล้วค่ะ น่ามหัศจรรย์สุดๆ จากนั้นก็แวพักรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน บัวตอง ไก่ย่างวิเชียรบุรีที่นี่เค้าอร่อยจริงๆค่ะ ไม่ใช่แต่ไก้นะคะ อาหารอย่างอื่นก็อร่อยเรียกได้ว่าเล่นเอาจุกเลยหล่ะค่ะ เพราะวางช้อนไม่ลงจริงๆ จากนั้นก็แวะซื้อของฝาก และเดินทางกลับสู่กรุงเทพค่ะ

เฮ้อ….หมดเวลาสนุกแล้วซิ ยังไม่อยากเดินทางกลับเลย เพราะอากาศที่นี่ดีสุดๆ อยากจะอยู่ต่อจริงๆแต่ก็อยู่นานไม่ได้ เพราะดูเอเซียดอทคอมมีหน้าที่ต้องหาที่เที่ยวใหม่ๆมาแนะนำเพื่อนๆกันอยู่ตลอด สำหรับทริปนี้ต้องขอขอบคุณหนังสือ VoYAGE และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่พาดูเอเซียดอทคอม ไปเพลินบุญ เพลินใจ แล้วก็เพลินตาจริงๆค่ะ สำหรับวันนี้คงต้องขอไปนอนเก็บภาพความประทับใจ แล้วพบกันใหม่ค่ะ

เชิญแสดงความคิดเห็น