น้ำตกโตนงาช้าง 

เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของภาคใต้และของจังหวัดสงขลา 
น้ำตกโตนงาช้างมี 7 ชั้นชั้นที่มีชื่อเสียงมี่สุดคือโตนงาช้างซึ่งเป็นชั้นที่ 3 
ของน้ำตกซึ่งสายน้ำตกแยกออกเป็นสองสายคล้ายงาช้างน้ำตกโตนงาช้างนี้อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างมีการจัดสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกไว้บริการนักท่องเที่ยวมีทางเดินศึกษาธรรมชาติและเที่ยวชมน้ำตกชั้นต่างๆหากจะชมน้ำตกให้ครบทุกชั้นต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 
1 กิโลเมตร
 
ประวัติความเป็นมา
  
มีความเชื่ออยู่เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตป้องปกดูแลผู้คนภายในบริเวณน้ำตกโตนงาช้างมาเป็นเวลานับได้หลายร้อยปี 
คือความเชื่อในเรื่องทวดตาขุนดำ  ทวดโต๊ะปะหวัง 
ซึ่งมักปรากฏให้ชาวบ้านภายในพื้นที่เห็นในรูปของพญาเสือดำขนาดใหญ่  
ชาวบ้านเชื่อว่าเป็น ?ทวดเสือ?
ซึ่งจัดเป็น ?ทวดในรูปสัตว์?
อีกประเภทหนึ่ง  ซึ่งในเรื่องนี้นางวรรณา  อินทรสุวรรณ์  อายุ 44 ปี 
ชาวบ้านในพื้นที่ได้เล่าให้ฟังถึงความเชื่อในเรื่องทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง 
เอาไว้ว่า  
เดิมทีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณน้ำตกโตนงาช้างและบริเวณใกล้เคียงล้วนมีความเชื่ออันสืบทอดต่อกันมาว่ามีทวดเสือชื่อทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง 
เป็นผู้ดูแลให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย และไร้ทุกข์ภัยเข้ามากล้ำกราย  
ชาวบ้านจึงจัดแจงสร้างศาลเพียงตาไว้ให้เป็นที่สถิตของดวงวิญญาณดังกล่าว(ศาลเพียงตา 
หมายถึงศาลที่ต้องยกขึ้น 4 เสา ยกพื้นระดับตา มีร่มกาง มีเพดาน) 
ซึ่งเป็นศาลเล็กๆอยู่บนไหล่เขา 
ปรากฏมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวบางส่วนน้ำดอกไม้และเครื่องเซ่นไหว้มาบูชาอยู่มิขาดสาย  
ต่อมาราวปี พ. ศ. 2549 
ได้มีนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์คนหนึ่งเดินทางมาเที่ยวน้ำตกโตนงาช้าง  
 
จนตกช่วงเย็นชายคนดังกล่าวได้ออกเดินทางปีนขึ้นไปชมทัศนียภาพบนน้ำตกโตนงาช้างชั้นที่ 
3 และชั้นที่ 4 (โตนงาช้าง และโตนดำ)จากนั้นจึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย  
เพื่อนๆที่มาด้วยกันจึงออกตามหาแต่ก็หาไม่พบแต่ประการใด  
จวบจนต้องลงมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของทางน้ำตกได้ทราบจึงออกช่วยกันตามหาอีกกลุ่มหนึ่งจนในช่วงดึกจึงต้องยกเลิกไปแล้วออกหาตอนเช้าอีกที  
หาอยู่ 3 วัน 3 คืนก็ยังหานักท่องเที่ยวชายชาวสิงคโปร์คนดังกล่าวไม่พบ  
สุดปัญญาจนชาวบ้านกลุ่มหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจกลัวว่าจะถูกเสือคาบไปกินเสียแล้ว  
จึงได้เชิญหมอไสยศาสตร์มาทำพิธีกรรม ?เข้าทรง? 
และพอได้รับข้อมูลมาว่านักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ที่หลงป่ายังมีชีวิตอยู่  
ประทังชีพด้วยการกินยอดไม้ และน้ำเป็นอาหาร เขาเพียงโดน 
?ผีบังตา? 
(ผีบังตา  
คือการที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 
หรือสิ่งที่มีฤทธิ์ในสถานที่นั้นๆบดบังเอาไว้ไม่สามารถให้เห็นกันและกันได้)เอาไว้ท่านมิต้องเป็นห่วงแต่ประการใด  
ถึงเวลาเขาก็จะกลับมาเอง  แต่หลังจากนั้นก็ขอให้ช่วยสร้างศาลให้เราอยู่ด้วย  
หัวหน้าทีมค้นหาจึงสัญญาว่าหากหาเจอก็จะสร้างศาลสถิตบูชาให้  วันที่ 4 
ที่ออกค้นหาจึงหานักท่องเที่ยวคนดังกล่าวพบ 
หลังจากนั้นจึงมีการสร้างศาลขึ้นมาในบริเวณเดิม 
โดยเป็นศาลถาวรที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก 
ภายในปรากฏรูปประติมากรรมเคารพบูชารูปพญาเสือดำขนาดใหญ่อยู่ภายในบริเวณศาลให้ชื่อว่า
?ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง?
เป็นที่เคารพสักการบูชาของชาวบ้านในพื้นที่ 
เจ้าหน้าที่ผู้ดูและน้ำตก ตลาดจนนักท่องเที่ยวจวบปัจจุบัน
 
 สถานที่ตั้ง
ที่ตั้ง เขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง บ้านหูแร่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
 

การเดินทาง
 อยู่ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่ไปประมาณ 
26 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางหาดใหญ่-รัตภูมิ หรือจะ เดินทางโดยรถโดยสารสองแถว 
หาดใหญ่-น้ำตกโตนงานช้าง ซึ่งจะมีรถจอดรออยู่ตรงบริเวณตลาด พลาซ่า ออกทุก 1 ชั่วโมง
 น้ำตกโตนงาช้าง 
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดของจังหวัดสงขลา คำว่าโตนในภาษา พื้นเมืองแปลว่า 
"น้ำตก" ส่วน "งาช้าง" นั้นมาจากลักษณะของน้ำตกชั้นที่ 3 มีน้ำตกลงมาสองทาง 
เป็นลำยาว ลักษณะคล้ายงาช้าง จึงเรียก น้ำตกโตนงาช้าง มีทั้งหมด 7 ชั้น 
ชั้นบนสูงขึ้นไปอีก 1,550 เมตร เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี 
บริเวณรอบข้างเป็นป่าดงดิบชื้น มีสัตว์ป่าประเภท ลิง ชะนี และหมู่ป่าอยู่มาก
 สำหรับน้ำตกทั้ง 
7 ชั้น จะมีชื่อเรียกแตกต่างกัน ได้แก่ 
 ชั้นที่ 
1.โตนบ้า เมื่อเดินเท้าไปเพียงแค่เล็กน้อยจากจุดจอดรถ ก็จะพบกับสายน้ำและโขดหิน 
เล็กๆ สำหรับชั้นนี้ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำเท่าไหร่นัก 
เนื่องจากเป็นเพียงแค่สายน้ำไหล และไม่มีแอ่งน้ำ 
 
ชั้นที่ 2.โตนปลิว ชั้นนี้เดินเท้าจากชั้นแรกประมาณ 200 เมตร 
ลักษณะของชั้นนี้เป็นแอ่งน้ำ เหมาะแก่การเล่นน้ำ ลักษณะโดยทั่วไป 
น้ำจะไหลจากหน้าผาสูงชันพอประมาณ สูงประมาณ 20 เมตร โดยที่น้ำจะไหลเป็น 2 
สายมาบรรจบกันที่แอ่ง ผู้คนโดยส่วนใหญ่มักจะเล่นน้ำกันชั้นนี้ 
การเดินทางมาชั้นนี้ค่อนข้างสะดวก
 
ชั้นที่ 3.โตนงาช้าง หากเดินทางมาเที่ยวน้ำตกโตนงาช้างต้องไม่พลาดชั้นนี้ 
ซึ่งจะได้สัมผัส กับจุดที่เรียกว่า โตนงาช้าง 
ในชั้นนี้ใช้เวลาในการเดินทางจากชั้นที่ 2 ประมาณ 15 นาที เนื่องจาก 
ทางขึ้นค่อนข้างชัน
 
เมื่อถึงชั้นนี้จะพบน้ำไหลลาดชัน สูงประมาณ 20 เมตร โดยจะมีน้ำไหล 2 
สายมาบรรจบกันที่แอ่ง เล็กๆ ซึ่งจะมีโขดหินขนาดใหญ่ขวางอยู่ 
และเมื่อนั่งบนโขดหินชั้นนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่าง 
เนื่องจากบนชั้นนี้จะมีความสูงใกล้กับเทือกเขา 
ในชั้นนี้จะมีแอ่งน้ำซึ่งสามารถที่จะเล่นน้ำได้
 

ชั้นที่ 4.โตนดำ อยู่ที่ระดับความสูง 700 เมตร
 
ชั้นที่ 5.โตนน้ำปล่อย อยู่ที่ระดับความสูง 1,050 เมตร
 
ชั้นที่ 6.โตนฤาษีคอยบ่อ อยู่ที่ระดับความสูง 1,300 เมตร
 
ชั้นที่ 7.โตนเหม็ดชุน อยู่ที่ระดับความสูง 1,550 เมตร