พญานาค เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นเดรัจฉานด้วย เพราะมีลำตัวไปทางขวางและไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พญานาคเลื้อยไปด้วยอกไม่เหมือนงูทั่วไป จะชูคอตลอด ต้องอ้าปากตลอดเพราะร้อนจากภายในด้วยวิบากกรรม
มีพิษที่ เขี้ยว ผิวกาย ลมหายใจ และพิษที่ตา แปลงร่างได้ แต่ต้องกลับคืนเป็นพญานาคเมื่อ
เกิด ลอกคราบ เสพสังวาสกันนาคด้วยกัน นอนหลับ ตาย
เกิดเป็นพญานาค เพราะ
1.ทำบุญ แต่ยังยึดติดในราคะ สุรา นารี กาเม นาคเกย์ นาคบัณเฑาะก็มี
2.ทำบุญแล้วยึดติดอยากจะไปเกิดเป็นพญานาค จึงอธิษฐาน
พญานาคจะมีดวงแก้วคู่บารมีซึ่งอยู่ที่คอ จะบังเกิดด้วยบุญของตนสามารถเนรมิต อาหารทิพย์ ของทิพย์ต่าง ๆ ได้
พญานาคมีตั้งแต่สวรรค์ชั้น จตุมหาราชิกา จนถึงพื้นมนุษย์เลยครับ แล้วก็มีอยู่ ทั่วโลก เคยมีคนเป็น พญานาคตระกูลกัณหาโคตมะ
(ผิวสีดำ)ที่ตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ แม่น้ำสายหนึ่งของเมือง เซลยู (Seljord)ด้วยนะครับ
ชาวเมืองแถวนั้นก็เคยเห็นกัน แต่พญานาคใต้บาดาลแถบนั้น มีจำนวนไม่มากนัก คือ น้อยกว่าแม่น้ำโขง ,
มีอายุไม่ยืน เท่าที่แม่น้ำโขงด้วยแค่ 200 กว่าปีเอง (อายุของนาคแต่ละประเภทไม่เท่ากัน)
พญานาคแบ่ง ออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ
ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง
ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว
ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง
และตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ
**พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ
แบบโอปปาติกะเกิดแล้วโตทันที
แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม
แบบชลาพุชะเกิดจากครรภ์
แบบอัณฑชะเกิดจากฟองไข่
พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ
ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์(ท้าววิรูปักษ์เป็นหนึ่งในท้าวมหาราชทั้ง 4 ที่ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา)
ท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
-ท้าวธตรฐมหาราช ทำหน้าที่ปกครองคนธรรพ์
-ท้าววิรุฬหก ปกครองกุมภัณฑ์
-ท้าววิรูปักษ์มหาราช ปกครองเหล่านาคทั้งหลาย
-ท้าวเวสสุวรรณมหาราช ปกครองยักษ์
ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ
หรือมีจิตผูกพันธ์กับแม่น้ำและพญานาค หรืออธิฐานจิตขอเกิดเป็นพญานาค
(ถึงแม้ทำบุญมามากแค่ไหนพอที่จะไปเกิดสวรรค์ชั้นสูง ๆ กว่านี้ได้ แต่ถ้ามีจิตผูกพันธ์ ยึดติดกับอะไรตายไปก็จะไปตรงนั้น)
ดังนั้นควรยึดถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดเพราะเป็นสรณะอันประเสริฐที่สุดเพียงหนึ่งเดียว