ศูนย์ศึกษาพัฒนาพิกุลทอง
เนื่องจากจังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำขังตลอดปีเรียกว่า ดินพรุ
ซึ่งมีอยู่ในจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดใกล้เคียงถึงประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ ไร่
ดินพรุมีคุณภาพต่ำ แม้ระบายน้ำออกแล้ว ก็เพาะปลูกไม่ได้ผล เพราะดินมีสารประกอบไพไรท์
ทำให้เกิดกรดกำมะถัน
เมื่อดินแห้งทำให้ดินเปรี้ยวจัดเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของพืช
เมื่อราษฎรประกอบอาชีพเกษตรกรรมไม่ได้ผล
พื้นที่ดินจำนวนมากจึงถูกทิ้งให้รกร้างเปล่าประโยชน์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้พระราชทานพระราชดำริให้ก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ขึ้น เมื่อพุทธศักราช
2524 โครงการตั้งอยู่ระหว่างบ้านพิกุลทอง บ้านโคกสยา ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง
จังหวัดนราธิวาส ห่างจากตัวเมืองไป 8 กิโลเมตร
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เป็นศูนย์รวมกำลังของเจ้าหน้าที่ด้านเกษตร สังคม
และการส่งเสริมการศึกษามารวมอยู่ด้วยกัน เพื่อให้ความรู้
และช่วยอนุเคราะห์ด้านวิชาการแก่ประชาชน ในการประกอบอาชีพและพัฒนาตนเอง
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาแห่งนี้ มีเป้าหมายสำคัญด้านการวิจัยเพื่อปรับปรุงดินพรุ
ให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรมให้ได้มากที่สุด
และมีการศึกษาทดลองเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดครอบครัวแบบครบวงจร
ในเรื่องยางพาราและปาล์มน้ำมัน อันเป็นพืชเศรษฐกิจของภาคใต้ด้วย
การดำเนินงานของโครงการเป็นไปในลักษณะผสมผสาน
มีหน่วยงานที่เข้าร่วมสนองพระราชดำริเป็นจำนวนมาก เช่น กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทาน
กรมวิชาการเกษตร กรมป่าไม้ กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
กรมพัฒนาชุมชน สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ฯลฯ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ดำเนินการในพื้นที่ดินพรุ ๒๖๑, ๘๖๐ ไร่ แบ่งเป็น
๐ เขตพัฒนา ๙๕,๐๑๕ ไร่
๐ เขตอนุรักษ์ ๑๐๙,๙๓๘ ไร่
๐ เขตสงวน ๕๖,๙๐๗ ไร่
และหมู่บ้านรอบศูนย์ฯ อีก ๘ หมู่บ้าน พื้นที่ ๒๓, ๐๖๘ ไร่ มีศูนย์สาขาอีก ๓ แห่ง
อยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้แก่
๐ โครงการสวนยางเขาต้นหยง อำเภอเมือง
๐ โครงการพัฒนาหมู่บ้านปิแดมูดอ อำเภอระแงะ
๐ โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ อำเภอตากใบ
กิจกรรมของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ที่สำคัญ คือ
๐ ศึกษาพัฒนาดินอินทรีย์และดินเปรี้ยวจัด
๐ ศึกษาปัญหาระบบการปลูกพืช การปลูกพืชร่วมกับยางพารา เช่น ระกำ ไม้ดอก
๐ การเกษตรยั่งยืนตามแนวทฤษฎีใหม่
๐ การปลูกไม้ดอกเมืองหนาว
๐ การฝึกอบรมและส่งเสริมงานศิลปาชีพพิเศษ และอื่น ๆ
เมื่อศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ดำเนินการศึกษาวิจัยและทดลองเพื่อแก้ปัญหาดิน
พัฒนาพื้นที่ และหารูปแบบวิธีการที่เหมาะสมได้ผลดี ในการประกอบอาชีพแล้ว
ศูนย์วิจัยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางบริการข้อมูลและสาธิตเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรม
ดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในหมู่บ้านรอบศูนย์ฯ และเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน
เพื่อให้นำไปใช้พัฒนาพื้นที่ที่มีปัญหาขยายผลออกไปตามเป้าหมาย
พื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาสที่เคยถูกทอดทิ้งให้เปล่าประโยชน์
จึงกลับใช้ประโยชน์ได้ เช่น สามารถปลูกข้าว ปลูกผัก และปลูกพืชไร่
และราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถปราดเปรื่องของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ตั้งโครงการ
ตั้งอยู่ระหว่างบ้านพิกุลทอง บ้านโคกสยา อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
ห่างจากตัวเมืองนราธิวาส ๘ กิโลเมตร บริเวณพื้นที่ตั้งศูนย์ศึกษามีเนื้อที่ ๕๑๐ ไร่
โทร (๐๗๓) ๕๑๓๕๖๒ โทรสาร (๐๗๓) ๕๑๓๕๖๑
|