ทริปนี้เราพาทุกท่านมาย้อนรำลึกถึงความหลัง ทราบประวัติการพิพิธภัณ์อาวุธ เขาค้อ ที่ต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 บริเวณรอยต่อสามจังหวัด พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ตั้งแต่ปี 2511 ในอดีต ตั้งแต่ พ.ศ. 2511-2524 พื้นที่เขาค้อ เป็นฐานที่มั่นอันสำคัญยิ่งของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มาอย่างยาวนาน นับ 10 ปี มีทั้งกำลังพลเรือน ทหาร ตำรวจ ที่ถูกส่งเข้ามาประจำการเพื่อปราบปรามกวาดล้าง กลุ่ม ผกค. จนเกิดการต่อสู้ที่ยืดเยื้อยาวนาน ต้องสูญเสียทั้งกำลังคน อาวุธ ทรัพยากรของชาติมากมายทั้งสองฝ่าย เรียกว่าเป็นการทำสงครามที่มีระยะเวลายาวนานพอสมควร
ในปี พ.ศ. 2524 รัฐบาลใยสมัยนั้นได้ดำเนินยุทธวิธีการเมืองนำการทหาร พร้อมกับดำเนินการทางทหารอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง จนสามารถยึดพื้นที่เขาค้อทั้งหมดได้ คงเหลือไว้แต่ประวัติศาสตร์การสู้รบอันห้าวหาญ และวีรกรรมของวีรบุรุษ อยู่ ณ ที่ตั้งสถานที่สำคัญในการสู้รบของทั้งสองฝ่าย ร่องรอยของการต่อสู้ที่มีอยู่มากมายเกลื่อนกลาด ไม่ว่าจะเป็นสุสานของทหารกล้า และผู้เสียสละ อนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงผู้จากไป ฐานที่มั่นที่สู้รบกันอย่างหนักหน่วง สถานที่อยู่อาศัยของฝ่ายตรงข้ามและฝ่ายเรา ร่องรอยการทำลายเผาระเบิด ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านเลยมากว่าสี่สิบกว่าปี แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นยังคงอยู่ในความทรงจก และเป็นเรื่องเล่าขานกันมายังรุ่นลูก รุ่นหลาน อีกทั้งยังมีหลักฐานที่สร้างเพื่อระลึกถึงความหลัง และรำลึกถึงความกล้าหาญของวีระชนผู้กล้าหาร
พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ตั้งชื่อตาม พันเอก อิทธิ สิมารักษ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืนจาก ผกค.ในปี พ.ศ.2524บริเวณนี้เคยเป็นฐานปืนใหญ่ ยิงสนับสนุนการ สู้รบ ปัจจุบันจัดให้ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการสู้รบตั้งอยู่มากมาย ภายในอาคารมีห้องบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ ในยุทธภูมิเลือดเขาค้อ มีห้องจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องใช้ เสื้อผ้า อาวุธของคอมมิวนิสต์ ส่วนด้านนอกอาคารยังมีฐานอาวุธ จัดแสดงอาวุธยุทโธปากรณ์ เช่น ซากปืนใหญ่ รถถัง รถแทรกเตอร์ บังเกอร์หลบภัย แต่ละจุดมีป้ายประวัติพร้อมคำอธิบายประกอบด้านนอกมีการจัดแสดง เครื่องบินขับไล่ เอฟ 5 รถสายพานลำเลียงพล ปืนใหญ่ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนใหญ่ ขนาด 155 มม. ยิงได้ไกล 11 กิโลเมตร 1 กระบอก รถถัง รถแทรกเตอร์ บังเกอร์หลบภัย ฯลฯ พร้อมมีป้ายประวัติพร้อมคำอธิบายประกอบ และเป็นจุดหนึ่งที่เห็นทิวทัศน์สวยงามของเขาค้อ
ถัดจากพิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) จะมีอนุสรณ์สถานผู้เสียสละ อยู่บนยอดเขาสูงสุดของเขาค้อ อยู่เลยพิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ไปอีก 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของพลเรือน ทหาร ตำรวจ ทหาร ผู้พลีชีพในการสู้รบ เพื่อปกป้องพื้นที่ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511-2525 โดยสร้างด้วยหินอ่อนเป็นรูปสามเหลี่ยมสูง 24 เมตร หมายถึง การปฏิบัติการร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหารในปีพ.ศ. 2524 ผนังภายในบันทึกประวัติอนุสรณ์สถานและรายชื่อวีรชนผู้เสียสละไว้ด้วย หากนักท่องเที่ยวท่านใดได้แวะเที่ยวที่ พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ก็อย่าลืมขับรถเลยไปอีกนิด เพื่อที่จะไปสักการะ เพื่อเทิดทูนวีรกรรมของพลเรือน ทหาร ตำรวจ ทหาร ผู้พลีชีพในการสู้รบ
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบนเขาค้อ อีกมากมายรอให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม อาทิ เช่น อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ, พระตำหนักเขาค้อ, วัดพระธาตุผาแก้ว, พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก, หอสมุดนานาชาติเขาค้อ,ทะเลหมอกบนเขาค้อ,น้ำตกศรีดิษฐ์, แก่งบางระจัน, สถานีทดลองเกษตรที่สูงเขาค้อ,ภูแก้วแอดเวนเจอร์พาร์ค, ไร่ บี.เอ็น., บีบีกัน วัลเล่ย์, เขาค้อ, เอ็กซ์พลอเรอร์
พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ตั้งอยู่บนเขาค้อ อยู่บนยอดเขา หมู่ที่ 13 ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 056-712866 หรือโทรไปที่ 055-252742-3,055-259907
เลยกิโลเมตรที่ 28 ทางหลวงหมายเลข 2196 ไปเล็กน้อย แล้วแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2323 ไปประมาณ 3 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชมทุกวัน ค่าเข้าชมคนละ 10 บาท เปิดเวลา 07.00 – 17.00 น.
























