เขาวัง อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี

0

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง)  เป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขาใหญ่ 3 ยอด ยอดที่สูงที่สุดสูง 95เมตร  แต่เดิมชาวบ้านเรียกภูเขานี้ว่า “เขาสมน” พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4ทรงพอพระราชหฤทัยที่จะสร้างพระราชวังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐานขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้    จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งในขณะนั้นเป็นพระสมุหกลาโหมเป็นแม่กองก่อสร้าง จนสำเร็จเรียบร้อยเมื่อปี พ.ศ. 2403 ทรงพระราชทานนามว่าพระนครคีรี แต่ชาวเมืองเพชรเรียกกันติดปากว่า เขาวัง สืบมาจนบัดนี้

ครับทริปนี้ดูเอเซีย.คอมจะพาเพื่อนไปเที่ยวชมความงามของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามน่าชมทั้งด้านธรรมชาติ และศิลปกรรม ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน และที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ ลักษณะสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตก แบบนีโอคลาสสิก สถาปัตยกรรมไทย และ จีน จนมีเอกลักษณ์เฉพาะ ในช่วงรัชกาลที่ 4 เป็นเวลาที่เมืองไทยเริ่มปรับตัวให้ทันสมัย อย่างประเทศตะวันตก ขณะที่ความนิยมในสถาปัตยกรรมแบบจีน ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็ยังคงมีอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องดัดแปลงรูปแบบของสถาปัตยกรรมให้เข้ากันได้กับการก่อสร้างแบบไทยๆ ในยุคนั้น ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเพชรบุรี และกล่าวได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเพชรบุรีเลยก็ว่าได้ เพราะทันทีที่ย่างกรายเข้าสู่เมืองเพชร สิ่งที่จะได้เห็นโดดเด่น คือ เขาวัง ซึ่งมีเจดีย์และอาคารสีขาวสะอาดตาปรากฎเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขาขนาดย่อมอีกด้วย

เขาวังเป็นที่ตั้งของพระราชวังแห่งแรก ในหัวเมือง ในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นที่ประทับเพื่อเสด็จแปรพระราชฐาน มาพักผ่อนพระอิริยาบท ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามบนเขาแห่งนี้ เนื่องจากเขาวัง มีอาณาบริเวณกว้างขวางและสิ่งควรชมจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจึงควรจะมีเวลามากพอสมควร เพื่อที่จะได้ชมสถานที่ต่างๆ อย่างทั่วถึง

ภายในบริเวณเขาวังจะแบ่งออกเป็นยอดเขาซึ่งมีด้วยกันทั้งหมดสามยอด ซึ่งจะแบ่งออกเพื่อง่ายต่อการเข้าใจดังนี้ ยอดกลางเป็นที่ตั้งของพระธาตุจอมเพชร ยอดทางทิศตะวันออก เป็นที่ตั้งวัดพระแก้ว และยอดทางทิศตะวันตก เป็นที่ตั้งพระราชวังพระนครคีรี ซึ่งแต่ละทิศนั้นก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกย่อยออกไปอีกมายมายเราไปชมพร้อมๆกันดีกว่าว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

เขายอดกลาง   เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมเพชรเป็นเจดีย์สีขาว มีความสูง 40 เมตร ที่มองเห็นเด่นแต่ไกล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะเจดีย์เก่าที่มีอยู่ก่อน แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ และพระราชทานนามว่า พระธาตุจอมเพชร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ จากจุดนี้สามารถมองเห็นพระที่นั่งต่าง ๆ บนยอดเขาอีก 2 ยอด  รวมทั้งทิวทัศน์ของตัวเมืองเพชรบุรีได้อีกด้วย

ยอดเขาด้านทิศตะวันออก   บริเวณไหล่เขาเป็นที่ตั้งของวัดมหาสมณาราม ภายในพระอุโบสถบนผนังทั้งสี่ด้าน มีภาพเขียนฝีมือขรัวอินโข่งซึ่งเป็นจิตรกรไทยคนแรก ที่ใช้วิธีการเขียนภาพแบบทัศนียวิทยา (perspective) คือ ใช้สีและแสงเงาในการวาด ให้เกิดมิติ มีระยะใกล้-ไกล และแบบภาพมองจากมุมสูง (Birds-eye view) อย่างตะวันตก เป็นภาพเขียน เกี่ยวกับการไปนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา  วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา   ส่วนบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้ว เป็นวัดประจำพระราชวังพระนครคีรี   เช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเป็นวัดประจำพระบรมมหาราชวังในกรุงเทพฯ ภายในวัดพระแก้วประกอบด้วยพระอุโบสถขนาดเล็ก ประดับด้วยหินอ่อน   ด้านหลังเป็นพระพุทธเสลเจดีย์  ด้านหน้าพระอุโบสถเป็นหอระฆังรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมขนาดเล็ก และตรงข้ามจะเป็น เจดีย์แดง ปรางค์จัตุรมุข ทาสีแดงทั้งองค์ซึ่งสวยงามมาก พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ เป็นพระที่นั่งองค์ใหญ่ที่สุด ภายในจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องราชูปโภค เช่น พระแท่นบรรทม พระฉาย (กระจกเงา) บานใหญ่ เครื่องมุก เครื่องถ้วยชาม ตุ๊กตาโลหะ ฝีมือช่างยุโรป เป็นต้น 

พระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์ เป็นที่ประดิษฐานพระแท่นบรรทมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท เป็นปราสาทยอดปรางค์ขนาดย่อม สร้างตามคติที่ว่า การสร้างพระราชวังใหญ่ จะต้องมีปราสาท ภายในประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์แบบที่เคยทรง ในการเสด็จออกรับทูตานุฑูต

พระที่นั่งราชธรรมสภา สร้างด้วยศิลปะแบบผสมระหว่างไทย จีน และตะวันตก กล่าวคือ มีรูปทรงอาคารคล้ายเก๋งจีน แต่ตกแต่งตามแบบไทยและตะวันตก

หอชัชวาลเวียงชัย  เป็นหอทรงกลมสูงสองชั้น หลังคาโค้งกรุกระจก สร้างขึ้นเป็นที่ศึกษาและสังเกตการณ์ ทางดาราศาสตร์ สามารถชมทิวทัศน์ของเมืองเพชรบุรีได้โดยรอบ ในอดีต เวลากลางคืน จะจุดโคมไฟแขวนไว้ภายในโดมกระจก เมื่อมองจากทะเลสามารถเห็นได้แต่ไกล จึงเป็นที่หมายของชาวเรือในการเดินเรือเข้าอ่าวบ้านแหลมได้อย่างดี

นอกจากนี้ยังมีหอพิมานเพชรมเหศวร์ พระที่นั่งสันถาคารสถาน  หอจตุเวทปริตพัจน์  ศาลาทัศนานักขัตฤกษ์ แล้วยังมีโรงรถ  โรงม้า  ศาลามหาดเล็ก  ศาลาลูกขุน  ศาลาด่าน  ศาลาเย็นใจ ทิมดาบองครักษ์ โรงครัว   ตามแบบพระราชวังทั่วไป รอบพระราชวังมีป้อมล้อมอยู่ทั้ง 4 ทิศคือ ป้อมธตรฐป้องปกทางทิศตะวันออก ป้อมวิรุฬหกบริรักษ์ทางทิศใต้ ป้อมวิรูปักษ์ป้องกันทางทิศตะวันตก และป้อมเวสสุวรรณรักษาทางทิศเหนือ

กรมศิลปากรได้ใช้บางส่วนของพระราชวังบนยอดเขาด้านทิศตะวันตกนี้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี ภายในเก็บรักษาโบราณวัตถุต่าง ๆได้แก่ เครื่องราชูปโภคของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปหล่อโลหะสำริดและทองเหลืองที่ใช้สำหรับตกแต่งห้องต่าง ๆ ในพระที่นั่ง และเครื่องกระเบื้องของจีน ญี่ปุ่น และยุโรป  เฉพาะส่วนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินี้

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.15 น.
ค่าเข้าชม (รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี)  ชาวไทย 20 บาท  ชาวต่างประเทศ 40บาท

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) ได้โดยการเดินขึ้นหรือโดยสารรถรางไฟฟ้าหรือ เคเบิ้ลคาร์ สถานีรถราง ตั้งอยู่ทางด้านหลังของเขาวัง หากขับรถยนต์ส่วนตัวมาจากกรุงเทพฯ เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าเพชรบุรี มาประมาณ 1 กม. จะมองเห็นธนาคารกรุงไทย สาขาพระนครคีรี อยู่ด้านขวามือ ให้กลับรถ แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน ข้างธนาคาร ประมาณ 800 ม. ก็จะถึงที่ตั้ง สถานีรถราง (ตั๋วไป-กลับ) เสียค่าบริการ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี โทร (032) 401-006, 425600  

เชิญแสดงความคิดเห็น