ศิลปะปรัชญา กะลามะพร้าว

0

ศิลปะปรัชญาบนเศษกะลามะพร้าวของชาวดำเนินกะลาบรรเลงไม่ได้เป็นการเอากะลามะพร้าวมาทำเครื่องดนตรีบรรเลงเป็นเพลงแต่อย่างใดหากแต่ว่ามันเป็นชื่อของชายคนหนึ่งที่สร้างสรรค์งานศิลปะผ่านทางกะลามะพร้าวนามว่า บรรเลง ยิ้มบุญนะเจ้าของ บ้านกะลาบรรเลง

วันนี้ดูเอเซีย.คอม พาเพื่อนๆไปที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อไปพบกับไอเดียสุดเจ๋ง ที่นำกะลามะพร้าวที่แถบไม่มีค่าไม่มีราคา มาออกแบบหลายหลากดีไซน์ซึ่งสร้างรายได้ และเป็นผลิตภัณฑ์เลื่องชื่อประจำจังหวัด กับ “บ้านกะลาบรรเลง” ของ พี่บรรเลง ยิ้มบูรณะ โดยงานศิลปะกะลามะพร้าวที่เลื่องชื่อของที่นี่มีหลายแบบมากมาย ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีการออกแบบตามวัฒนธรรมและสังคมที่เปลี่ยนไปพร้อมกับสอดแทรกปรัชญาความรู้เข้าไปในตัวงานอีกด้วย ตื่นตาตื่นใจไปกับกะลามะพร้าวที่เป็นสิ่งของที่ดูไม่มีค่าไม่มีราคา แต่สามารถนำมาสร้างรายได้มูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว

พี่บรรเลง ยิ้มบุญนะ แต่ก่อนที่เราจะไปดูผลิตภัณฑ์ภายในบ้านกะลาบรรเลงนั้น เราไปคุยกันถึงเรื่องที่มาที่ไปในการทำงานตรงนี้กันก่อนดีกว่าว่า พี่บรรเลง ยิ้มบูรณะ เขาผู้นี้เป็นใครมาจากไหน แล้วคิดยังไงถึงมาทำงานกะลา จนกลายเป็น บ้านกะลาบรรเลงอย่างทุกวันนี้ แล้วเขามาทำงานตรงนี้ได้ยังไง อะไรเป็นแรงบันดาลใจ แล้วทำไมต้องใช้กะลามะพร้าวเราไปย้อนอดีตที่มาทีไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ     

ด้วยภาวะเศรษฐกิจของประเทศในช่วงฟองสบู่แตก พี่บรรเลง ยิ้มบุญนะ เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นเมื่อการเดินตามความฝันของเขาไม่ถึงจุดหมาย เขาเลือกที่จะหันหลังให้กับโรงงานเดินทางกลับบ้านเพื่อหากินบนความพอเพียงสิ่งที่เขานำมาใช้เป็นต้นทุนในการลงทุนครั้งใหม่คือสิ่งที่หาได้ง่ายที่สุดในจังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดบ้านเกิดของเขา นั่นก็คือกะลามะพร้าว มีอยู่มากมายนั่นเอง

พี่บรรเลง ยิ้มบูรณะ ได้เล่าให้ฟังว่า ในหมู่บ้านของตนมีกะลามะพร้าวที่ไม่ใช้แล้วเต็มไปหมด จึงคิดที่จะนำมาใช้ประโยชน์และสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว เขาเริ่มต้นด้วยการใช้เงินเพียง 45 บาทซื้อกะลามะพร้าวและใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้ว ก่อนที่จะนำมันมาแปรสภาพเพิ่มมูลค่าโดยใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ งานชิ้นแรกของคุณบรรเลงคือ ออมสินกับถ้วยกาแฟที่ทำจากกะลามะพร้าวที่คนอื่นไม่เห็นคุณค่า และไม่มีประโยชน์แล้ว แต่พี่บรรเลงสามารถทำให้มีประโยชน์และมีคุณค่าขึ้นได้ ที่สำคัญงานของพี่บรรเลงขายหมดจนขาดตลาดต่อมาเขาจึงได้คิดค้นงานที่แปลกใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ของตกแต่งบ้าน โคมไฟ โมบายแขวน สิ่งของตั้งโชว์ รวมเวลาในการมาทำงานกะลาก็ต้องปิดตัวลง

บทเรียนที่พี่บรรเลงได้รับมี 2 อย่างคือ

1.อะไรก็ตามถ้ารัฐสนับสนุนอย่าไปทำเพราะคนจะทำเยอะสังเกตได้จากสินค้าOTOPจากหลาย ๆ ตำบลที่มีแต่ผลไม้แช่อิ่ม

2.การทำอะไรต้องพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเอาแต่เลียนแบบคนอื่นสุดท้ายก็จะได้แต่เป็นลูกไล่คนอื่นตลอดไป ขั้นตอนการทำงานกะลานั้นก็ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเลยทีเดียว พี่บรรเลงบอกว่าการทำงานกะลานั้นต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ เพราะผลงานแต่ละชิ้นนั้นต้องมีเอกลักษณ์และที่มาซึ่งการทำงานเชิงปรัชญานั้นผู้สร้างงานต้องรู้ว่าจะทำอะไรเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งก็เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในการทำงานกะลา

ส่วนการเตรียมวัสดุนั้นต้องใช้มะพร้าวที่แห้งแล้วนำมาปอกเปลือกออกและเกะเนื้อมะพร้าวข้างในออกด้วยส่วนการออกแบบนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวงานว่าเราต้องการทำอะไรเช่น ต้องการทำโคมไฟ ก็ต้องคิดหรือวางแผนไว้แล้วว่าจะเอาโคมไฟรูปแบบไหน ซึ่งก็จะเกี่ยวเนื่องกับการเตรียมวัสดุเมื่อได้วัสดุที่เตรียมไว้หมดแล้วก็นำมาประกอบเข้ากันเป็นตัวงานออกมา งานแต่ละชิ้นอาจจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับไอเดียของผู้ทำสิ่งที่พี่บรรเลงบอกเราไม่ใช่วิธีการทำกะลามะพร้าวให้เป็นสิ่งต่าง ๆ หากแต่ว่าเขาบอกเราให้รู้จักมองสิ่งต่าง ๆ เป็นโอกาสถ้ารู้จักสร้างสรรค์โดยใช้สิ่งใกล้ตัวและความเป็นตัวเอง ไม่ว่าของอะไรก็นำมาสร้างเป็นมูลค่าได้ “โลกนี้ไม่มีขยะ มีแต่ของที่เราต้องการหรือไม่ต้องการ” อึม…เรียกได้ว่าความคิดของพี่เขานี่เจ๋งสุดๆไปเลยครับถ้ามีคนคิดแบบนี้กันมากๆก็ดีสิครับ โลกเราจะได้มีขยะน้อยลง

พี่บรรเลง ยิ้มบูรณะแห่งบ้านกะลาบรรเลงเขาเริ่มด้วยแนวคิดอยากทำอะไรที่ให้ความหมายกับชีวิต สู่งานศิลปะจากกะลา ความสวยงามและความหมายของงานที่ซ่อนเรื่องราวหากแต่สิ่งหนึ่งที่ได้รับนอกจากความรู้และความสุขที่ได้ชื่นชมภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดออกเป็นงานได้อย่างลงตัว ที่บ้านกะลาบรรเลง ยังมีกิจกรรมที่พร้อมให้เพื่อนๆได้เรียนรู้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมสร้างปัญญาการลองทำชิ้นงานจากกะลาด้วยตัวเอง ไม่ต้องเป็นชิ้นงานที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่เราอยากให้ทราบแนวคิดขั้นตอนการทำงาน

พี่บรรเลงยังบอกกับเราว่า ไม่อยากให้คิดว่ามาที่นี่แล้วจ่ายเงินให้เจ้าของบ้านแล้วกลับไป แต่เราอยากให้ได้การเรียนรู้ระหว่างกัน ทุกสิ่งมีความหมายและมิติที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ดี ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ สิ่งที่ร้ายที่สุดก็มีสิ่งดีซ่อนอยู่เสมอ มาทำศิลปะจากกะลา คุณอยากลองทำอะไรคุณมาลองทำลองคิด หรือนำกลับไปต่อยอดที่บ้านได้ การเล่นเกมส์เราไม่ต้องการให้คุณเล่นเป็น แต่เราอยากให้คุณรู้แนวคิดของเกมส์ที่มาของเกมส์นี้มีอะไรซ่อนอยู่ ตรงนั้นคือปัญญา

งานทุกชิ้นที่ทำขึ้นจากกะลามะพร้าวของ “บ้านกะลาบรรเลง” นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการนำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างให้คนหันกลับมามองยังสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา ก็สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ โอกาสดีๆ แบบนี้ พลาดไม่ได้แล้วครับที่จะชักชวนคนใกล้ตัวหรือกลุ่มเพื่อนๆ มาลองเรียนรู้ความงามจากศิลปะกะลา กับพี่ บรรเลง ยิ้มบุญณะ เจ้าของบ้านหลังเล็กๆ หลังนี้ที่บ้านกะลาบรรเลงเผื่อเพื่อนๆจะได้มีไอเดียเจ๋งๆเป็นแรงบันดาลใจกลับไปทำงานเป็นรายได้เสริมก็อาจเป็นได้นะครับ ดูเอเซีย.คอมยืนยันได้ว่าบ้านกะลาบรรเลงเขามอบสิ่งดีๆให้มากกว่าความงามของกะลาแน่นอนครับ

บ้านกะลาบรรเลง จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวหลากหลายรูปแบบ ทั้งของใช้และของตกแต่งบ้าน มีการออกแบบที่แปลกใหม่ เน้นความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะจากเศษไม้และวัสดุท้องถิ่นรวมทั้งเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุธรรมชาติที่แต่ละชิ้นไม่ซ้ำแบบกัน

สถานที่ตั้งอยู่เลขที่ 63/2 หมู่ 8 ซอย กะลาบรรเลง ถนนบางนกแขวก-บ้านปราโมทย์ ตำบลบางยี่รงค์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม 75120 ใกล้กับโบสถ์คริสต์ หรือวัดพระแม่บังเกิด เลยมาประมาณ 1 กิโลเมตร สังเกตซอยซ้ายมือจะมีป้ายบอก ซอยบ้านกะลาบรรเลง เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 500 เมตร จะเจอบ้านกะลาบรรเลงตั้งอยู่ท่ามกลางสวนมะพร้าว บรรยากาศดีมากๆ ระหว่างทางจะเจอสวนมะพร้าวเรียงรายกันเต็มไปหมดดูแล้วเพลินตา แต่ขอบอกก่อนนะครับว่ารถบัส เข้าไม่ได้ เพราะทางค่อนข้างแคบ ติดต่อ พี่บรรเลง ยิ้มบุญนะ โทร.08-1293-6414,08-6022-5378

ขอบคุณภาพ www.bangyeerong.go.th

เชิญแสดงความคิดเห็น