วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์

0

ดูเอเซียดอทคอมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว ธรรมมาสสิงห์เทินบุษบก งานศิลปกรรมที่เกิดจากการผสมผสานความคิดแบบไทยกับฝีมือของช่างญวนหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “แกวเวียง” รูปแบบจะก่อด้วยปูนเขียนสีด้วยลายต่างๆ พร้อมงานจิตรกรรมฝ้าเพดานศาลาการเปรียญเป็นธรรมมาสน์ที่แปลกและมีอยู่หลังเดียวในประเทศไทย

วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์  ตั้งอยู่ที่บ้านชีทวน อำเภอเขื่องใน เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดอุบลราชธานี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณเกือบร้อยปีมาแล้ว โดยมีญาครูต้นก้อมเป็นผู้ริเริ่มและคุณยายสีนวลเป็นผู้บริจาคที่ดิน จึงตั้งชื่อวัดตามชื่อคุณยาย จึงมีชื่อว่าวัดสีนวลในคราแรกหลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อเป็นวัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ มีสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าต่อศิลปวัฒนธรรม ศาสนา ฯลฯ คือ หอแจก หรือ ศาลาการเปรียญที่เป็นที่ตั้งของ ธรรมาสน์สิงห์เทินบุษบก คาดกันว่าองค์ธรรมาสน์มีอายุเกือบเก้าสิบปี   

ภายในศาลาการเปรียญแห่งนี้ เราจะได้พบกับธรรมาสน์สิงห์เทินบุษบก ตัวองค์ธรรมาสน์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2468 ลักษณะเป็นรูปสิงห์ยืนเทินปราสาท สร้างด้วยอิฐถือปูน ยอดปราสาทเป็นเครื่องไม้เป็นชั้นลดหลั่น เชื่อว่าเป็นงานศิลปกรรมที่เกิดจากกงานผสมผสานความคิดของช่างฝีมือไทยชีทวน กับช่างญวนในสมัยนั้น บนตัวธรรมาสน์สิงห์ประดับประดาด้วยกระจกสีต่าง ๆ อย่างสวยงาม แต่อาจจะลบเลือนไปตามอายุของโบราณวัตถุนี้

หากเงยหน้ามองขึ้นไปบนเพดานของหอแจก หรือศาลาการเปรียญ จะพบเห็นจิตรกรรมวาดบนแผ่นสังกะสีบุเพดานหอแจก ภาพเขียนเป็นรูปราหู ลายดอกไม้ ใบไม้ รูปสัตว์ต่าง ๆ ลายของดวงดารา พญานาค และหงส์ เป็นต้น จึงนับว่าเป็นธรรมาสน์ที่มีรูปแบบที่แปลก และเป็นหลังเดียวในประเทศไทย ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมเรียบร้อยแล้ว

รายยละเอียดต่างๆ ของธรรมมาสสิงห์ พอสังเขปดังนี้

ธรรมมาสสิงห์ทางด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นด้านที่ใช้ประโยชน์ในการทำกิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนามากกว่าทุกด้านและถือเป็นด้านหน้าทางขึ้นศาลาการเปรียญ  บริเวณหลังคามีลายฉลุไม้ลดหลั่นกันอย่างลงตัว จุดเด่นของหลังคาธรรมมาสสิงห์ทางด้านทิศนี้ ก็คือ การฉลุลายไม้เป็นลายเมฆแบบจีน เช่น “ลายเมฆยู่อี่”และส่วนของลายฉลุหลังคาเรือนธรรมมาสยังมีตัวอักษรโซ่งจื้อ หรือซิ่วในวงกลม ซึ่งเป็นอักษรแห่งความยังยื่นโดยมีความหมายว่า ความสมบูรณ์ ความหวัง

ส่วนตัวเรือนธรรมมาสทางทิศเหนือนี้จะประกอบไปด้วย เทวดามีพาหนะเป็นค้างคาว ซึ่งหมายถึงเทพที่คอยปกป้องรักษาธรรมมาสตัวนี้ เทวดาแบบไทยในท่าฟ้อนรำ ซึ่งหมายถึง การร่วมยินดีในเวลาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีค้างคาวอยู่มุมบนทั้ง 2 ด้าน ซึ่งหมายถึงการมีโชคลาภ ถ้าค้างคาวคู่ก็หมายถึง โชคคู่ นั้นเอง และยังมีดอกโบตั๋น ซึ่งเป็นดอกไม้มงคล ของจีน และยังมีสัตว์ตามธรรมชาติ เช่นเสือ นก หงส์ กระลอก ที่ทุกตัวคาบดอกไม้ ซึ่งแสดงความเคารพ ศรัทธา ในศาสนา และยังมีหัวมังกรที่เป็นต้นกำเนิดของพันธ์พฤกษา

ส่วนตัวสิงห์ นั้นเป็นศิลปะการปั่นแบบนูนต่ำ ซึ่งมีลวดลายของเกร็ดสิงห์ที่ผสมผสานกับพันธ์พฤกษาได้อย่างลงตัว และบริเวณตรงกลางลำตัวสิงห์ยังมีผ้าทิพย์ห้อยลงมาคล้ายกับฐานพระพุทธรูปประดับให้ดูมีค่ามากยิ่งขึ้น ธรรมมาสสิงห์ทางด้านทิศใต้ ซึ่งทางด้านทิศนี้นั้น มีเสาหงส์คู่ที่มีตุงติดอยู่ หมายถึงการบูชาพระรัตนตรัย ส่วนบริเวณทางขึ้นธรรมมาสยังมีซุ้มพระเหนือประตูทางเข้าธรรมมาส ซึ่งมีนาค 2 ตัว เอาหางพันกัน ซึ่งเป็นซุ้มที่คอยปกป้องรักษาธรรมมาสสิงห์ ส่วนตัวบันไดทางขึ้นสำหรับให้พระภิกษุแสดงธรรมเทศนานั้น ยังเป็นการฉลุไม่เป็นแม่บันไดนาคโดยมีเพาะรองรับบันไดไว้

บริเวณหลังคาธรรมมาสมีลายฉลุเป็นลายพันธุ์พฤกษา ได้แก่ลายเครือเถา ลายดอกไม้ และยังมีลายฉลุรูปสัตว์ เช่น มังกร รูปนก ยังมีลายดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง และยังมีรูปหงส์สลัก ทางกลางลายพันธ์พฤกษาบริเวณส่วนหัวของหงส์สลักเป็นรูปวงกลมคล้ายดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ส่วนตัวเรือนธรรมมาสนั้น ยังมีรูปหงษ์ อยู่ตรงกลาง ซึ่งหมายถึงความสง่างาม ยังตัวธรรมาสยังมีลายพันธ์พฤกษา โดยมีหัวมังกรเป็นต้นกำเนิดของลาย ธรรมมาสทางทิศใต้นี้ ยังมีรูปบุคคลที่แต่งกายคล้ายทหาร ซึ่งความเชื่อของอีสานจะหมายถึงบุคคลที่คอยดูแลศาสนสถานเหล่านั้น

ส่วนตัวสิงห์ นั้นเป็นศิลปะการปั่นแบบนูนต่ำ ซึ่งมีลวดลายของเกร็ดสิงห์ที่ผสมผสานกับพันธ์พฤกษาได้อย่างลงตัว และบริเวณตรงกลางลำตัวสิงห์ยังมีผ้าทิพย์ห้อยลงมาคล้ายกับฐานพระพุทธรูปประดับให้ดูมีค่ามากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับทางทิศเหนือ ธรรมมาสสิงห์ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศของหัวสิงห์ ส่วนหัวสิงห์นั้น ช่างได้คิดออกแบบตามลักษณะของศิลปะญวนเด่นด้วยของหงอนอยู่บนตัวสิงห์ลักษณะคล้ายเปลวดวงตาจะใช้กระจกเงาแบบโบราณที่มีโลหะล้อมไว้ปากจะอ้า เห็นฟันและเขี้ยวชัดเจน การให้สีสันจะมีความอิสระของช่างมาก

บริเวณหลังคาธรรมมาสมีลายฉลุเป็นลายพันธุ์พฤกษา ได้แก่ลายเครือเถา ลายดอกไม้ และยังมีลายมังกร 2 ตัว หันหน้าเข้าหาดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่ตกกลาง และยังมีรูปไก่ 2 ตัว หันหน้าเข้าหากันท่ามกลางลวดลายต่างๆ โดยเฉพาะก้อนเมฆด้านบน ซึ่งเป็นศิลปะแบบจีนหรือเวียดนาม

ส่วนตัวเรือนธรรมมาสนั้นยังมีรูป หน้ากาล ซึ่งคติความเชื่อที่นิยมนำมาประดับตกแต่งซุ้มประตูหน้าต่างในงานศาสนสถาน และยังมีลายพันธ์พฤกษาต่างๆ ที่มีต้นกำเนิดจากหัวมังกร และทางด้านซ้ายจะมีรูปบุคคล 2 คน คนแรกแต่งกายในลักษณะชาวจีน และอีกคน ก็แต่งกายในลักษณะพม่า ส่วนด้านขวานั้น ยังมีบุคคล 3 คน ซึ่ง 2 คนแรกเป็นชาย หญิง เดินควงกันซึ่งต่างกายในชุดชาวฝรั่งเศส และยังมีคนรับใช้ที่บนหัวมีถาดใส่ปลา ดอกบัว และดอกโบตั๋น ซึ่งความเชื่อของจีนแล้วนั้นหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ และยังมีรูปสัตว์ต่างๆ อีกด้วยเพื่อช่วยให้องค์ประกอบของตัวธรรมมาสสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ส่วนตัวสิงห์ นั้น ซึ่งทางดานทิศนี้จะเป็นทิศของหัวสิงห์รายละเอียดได้กล่าวไปแล้วนั้น นอกเหนือจากนี้ลำตัวด้านทิศเหนือนี้ ยังมีลวดลายของพันธ์พฤกษาที่ผสมผสานกับเกร็ดของสิงห์ ซึ่งแสดงถึงความสามารถของช่างที่ออกแบบมาอย่างกลมกลืน ธรรมมาสสิงห์ทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศของส่วนหางของธรรมมาสสิงห์ ในส่วนก่อนที่จะเป็นหางนั้นช่างได้ทำลายในส่วนของด้านหลังส่วนบนเป็นลายปูนปั้นพันธ์พฤกษาก่อนจะมีโคนของหาง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกาบ 2 ชั้น มีกาบทั้งหมด 5 กาบ และจึงแยกหางออกเป็น 4 เส้น แต่ละเส้นมีความยาวลดลั่นกันได้สัดส่วนดูอ่อนซ้อยแต่เข้มแข็ง โดยมีลวดลายคล้ายก้อนเมฆหลากสี

บริเวณหลังคาธรรมมาสมีลายฉลุเป็นลายพันธุ์พฤกษา ได้แก่ลายเครือเถา ลายดอกไม้ และยังมีลายมังกร 2 ตัว หันหน้าเข้าหาดอกไม้ มี 15 กลีบข้างในวงกลมเดินเส้น 2 เส้น และยังมีรูปลวดลายสานขัดแตะเลียนแบบลายสานในการทำเครื่องจักรสาน และยังมีรูปนางเงือก อยู่ในลักษณะท่าว่ายน้ำเล่นอย่างมีความสุข นางเงือกจะสวมมงกุฎ กรองคอ กำไล

ส่วนตัวเรือนธรรมมาสนั้นยังมีรูป หน้ากาล ซึ่งคติความเชื่อที่นิยมนำมาประดับตกแต่งซุ้มประตูหน้าต่างในงานศาสนสถาน และยังมีลายพันธ์พฤกษาต่างๆ ที่มีต้นกำเนิดจากหัวมังกร และยังมีรูปคนจีนผมแกระทั้งสองข้าง ยืนอยู่บนหลังช้าง มือซ้ายถือดอกโบตั๋น และบุคคลอีกด้านยังชายที่สวมหมวกมียอดแหลม ซึ่งบุคคลทั้ง 2 ถือดอกไม้วิ่งเข้าหาหน้าต่าง แสดงออกถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน และยังมีรูปนก รูปม้า บริเวณตัวเรือนทางด้านทิศนี้ยังมีหน้าต่างฉลุไม้แกะสลักเป็นลวดลายพันธ์พฤกษา ส่วนตัวสิงห์ นั้น ซึ่งทางดานทิศนี้จะเป็นทิศของหางสิงห์ รายละเอียดได้กล่าวไปแล้วนั้น ซึ่งส่วนหางนี้จะมีลักษณะคล้ายกับหางนกในนิยายของจีนอีกด้วย

ได้ข้อมูลมากมายขนาดนี้แล้ว เพื่อนๆ ก็คงอยากจะลองเข้าไปชม ธรรมมาสสิงห์เทินบุษบก งานศิลปกรรมที่เกิดจากการผสมผสานความคิดแบบไทยกับฝีมือของช่างญวน ที่มีเพียงหลังเดียวในประเทศไทย ถ้าได้ผ่านไปผ่านมาที่จังหวัดอุบลราชธานี ก็อย่าลืมแวะมาชม ธรรมมาสสิงห์เทินบุษบก ที่วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ ที่จังหวัดอุบลราชธานีกันนะคะ

การเดินทาง

จากตัวเมืองอุบลฯ ใช้ทางหลวงหมาย 23 ไปทางอ.เขื่องใน ประมาณ 23 กม.ผ่านศูนย์วิจัยข้าวอุบลฯ ข้ามสะพานลำเซบาย เมื่อถึงประมาณกม.268 ให้เลี้ยวซ้าย ผ่านไปทางบ้านหัวดูน จนถึงบ้านชีทวน วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์

เชิญแสดงความคิดเห็น