ตำหนักเจ้าแม่กวนอิม มหัศจรรย์แห่งศรัทธา พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าหมื่นองค์

0

วันนี้เราได้มีโอกาสเข้าไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่พระตำหนักในซอยโชคชัย 4 ซึ่งตั้งอยู่ ณ อาคารเลขที่ 4/37 ซอยสุขสันต์ 7 ถนนลาดพร้าว 53 (โชคชัย 4) อ.ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึงเมื่อก่อนสถานที่บริเวณนี้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า จนกระทั่งเมื่อ 20กว่าปีที่แล้ว ด้วยแรงศรัทธาของผู้ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม ทำให้ที่รกร้างแห่งนี้กลายเป็นธรรมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป และเทพเจ้าต่างๆ นับหมื่นๆองค์ ลองตามเรามาดูซิ ว่าจะมีเยอะมากมายขนาดใหนครับ แต่ก่อนอื่น..เหมือเดิมครับ ไปใหนมาใหนเราควรจะศึกษาประวัติที่ๆแห่งนั้นมาบ้างสักหน่อยก็ยังดี ถึงจะเที่ยวสนุกครับตำนานเจ้าแม่กวนอิม

พระโพธิสัตว์กวนอิม หรือที่คนไทยเราเรียกกันทั่วไปว่า เจ้าแม่กวนอิม เข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับการเผยแพร่พระพุทธศาสนานิกายมหายาน นิยมเรียกชื่อหลายชื่อ เช่น กวนอิมผู่สัก เดิมเรียกว่า กวนซีอิมผู่สัก แต่เนื่องจากมีเสียงไปพร้องกับ หลี่ซีหมิงจักรพรรดิจีนสมัยราชวงศ์ถัง จึงตัดคำว่า ซี ออกเหลือเพียง กวนอิมผู่สัก (ผู่สัก แปลว่า พระโพธิสัตว์)ไต่ซื้อ ไต่ปุยผู่สัก หมายถึงพระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้ทรงเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ ด้วยทรงมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์แห่งขั้น “หากยังมีสัตว์โลกตกทุกข์ได้ยาก แม้เพียงคนเดียว จะไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ” พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวรประกอบด้วย อวโลกิตะ หมายถึง ผู้มองมายังเบื้องล่าง และ อิศวรแปลว่า ผู้เป็นใหญ่ มักแปลรวมว่า ผู้เพ่งมองปริเวทนาของมวลสรรพสัตว์ ในสายตาของชาวพุทธท่านจะเป็น “กวนอิมโพธิสัตว์พระผู้เมตตามหาการุณย์ช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์” เรื่องราวของพระอวโลกิเตศวรเมื่อแรกเข้าสู่ประเทศจีนรวม พ.ศ.610 ในสมัยพระเจ้าฮั่นเม่งตี้ จักรพรรดิองศ์ที่ 17 แห่งราชวงศ์ฮั่น ยังเป็นมหาบุรุษ จนถึงปลายราชวงศ์ใต้-เหนือ(หนานเป่ยเฉา)ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองวุ่นวายถึงขั้นมิคสัญญี พระพุทธศาสนากลับได้รับการนับถืออย่างมากโดยเริ่มจากภาคเหนือแผ่ลงใต้ ในช่วงปีพ.ศ.990 คนจีนในภาคเหนือ 9 ใน 10 คน นับถือพุทธศาสนา และในสมัยราชวงศ์เป่ยเว่ยนี่เองที่มีการเจาะภูเขา สลักและประดับ พระพุทธรูปด้วยของมีค่ามากมาย ที่หยุนกัง และหลงเหมิน ช่วงนี้เองที่พระอวโลกิเตศวรได้เปลี่ยนเป็นสตรีเพศ ซึ่งสอดรับกับความต้องการความเมตตากรุณาที่ได้รับความทุกข์ยากจากการกดขี่ทารุณและการทำสงคราม การเปลี่ยนจากมหาบุรุษมาเป็นสตรีเพศของอวโลกิเตศวรพระโพธิสัตว์ ตามคัมภีร์ได้กล่าวว่าท่านสามารถแปลงจากธรรมกายเดิมไปได้อีก 32 ธรรมกาย แต่ตามประวัติศาสตร์เชื่อว่าเกิดจากความพยายามที่จะรอดพ้นจากการกลืนกลายของลัทธิเต๋าจึงทำให้เกิดพระโพธิสัตว์ที่เป็นหญิง ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ในหนึ่งปีมีวันสำคัญของท่าน 3 วัน คือ วันประสูติ วันที่ 19 เดือน 2 วันตรัสรู้ วันที่ 19 เดือน 6 และวันออกบวช วันที่ 19 เดือน 9เนื่องจากพระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นพระโพธิสัตว์ที่เมตตากรุณา จึงเป็นที่เคารพบูชาของมหาชนในหลายประเทศทั่วเอเชียนับแต่โบราณ ทำให้ตำนานของพระโพธิสัตว์กวนอิม มีความเป็นมาหลากหลายตำนานพื้นบ้านที่นิยมกล่าวขานถึงก็คือ ตำนาน “เมี่ยวชันบรรลุธรรม” และในการสร้างรูปเคารพท่านมักจะมีเด็กหญิงชายคู่หนึ่งอยู่ข้างกาย เรียก “กิมท้งเง็กนึ่ง” เด็กหญิงคือ หลงหนี่ เป็นธิดาพญามังกรมีสติปัญญามาแต่เล็ก อายุ 8 ขวบก็สำเร็จเป็นพุทธะ (มีดวงตาเห็นธรรม-ผู้เรียบเรียง)และช่วยพระโพธิสัตว์กวนอิมโปรดเวไนยสัตว์ ปรากฏกาย เป็นกุมารีอยู่ทางด้านขวา เด็กชายคือ ชั่งไฉถงจื่อ(สุธนกุมาร) เป็นบุตรเศรษฐีคนหนึ่งในบุญนคร เกิดมามีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่ก็เห็นเป็นสิ่งไร้ค่า ปฏิญาณตนว่าจะบำเพ็ญให้สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ สุธนกุมารได้รับคำแนะนำจากมัญชูศรีโพธิสัตว์ให้ไปคารวะศึกษาจากอาจารย์ 53 ท่าน(กัลยาณมิตร 53) สุดท้ายได้รับกราบพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นอาจารย์ที่โปตะละกะคีรี จนสำเร็จเป็นโพธิสัตว์และเพื่อช่วยเหลืออาจารย์โปรดเวไนยสัตว์จึงแสดงธรรมกายเป็นกุมาร อยู่ทางด้านซ้าย ตำนานพื้นบ้านของพระโพธิสัตว์กวนอิมที่เล่าสืบกันมามีดังนี้เล่าขานกันมาว่า เจ้าแม่กวนอิม เดิมกำเนิดเป็นเจ้าหญิงชื่อว่าเจ้าหญิงเมี่ยวชัน ราชธิดาองค์เล็กของกษัตริย์เมี่ยวจวง แห่งอาณาจักรซิงหลิง เจ้าหญิงเมี่ยวซันมีนิสัยเมตตากรุณาต่อสัตว์ทั้งหลายตั้งแต่เด็ก มีพระทัยใฝ่ใจที่จะออกบวช เพื่อพ้นจากทุกข์ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา แต่พระบิดาคือ กษัตริย์เมี่ยวจวง ผู้มีจิตใจโหดร้ายชอบการเข่นฆ่าและทำสงครามไม่ยินยอม กลับบังคับให้เจ้าหญิงเมี่ยวชันเลือกคู่ครอง เจ้าหญิงเมี่ยวชันก็ยืนกรานที่จะออกบวช ไม่ว่าพระบิดาจะใช้อุบายต่างๆนานามาหลอกล่อเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่สำเร็จจึงเกิดพิโรธที่มีผู้ขัดต่ออำนาจของตนจึงได้ประหารเจ้าหญิงเมี่ยวชันด้วยการรัดคอ ทันทีที่เจ้าหญิงเมี่ยวชันสิ้นลม พระภูมิเจ้าที่ได้แปลงร่างเป็นเสือมารับร่างเจ้าหญิงเป็นอยู่ที่เกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งทะเลตะวันออกที่นั้นเจ้าหญิงเมี่ยวชันได้บำเพ็ญภาวนาจนบรรลุโพธิญาณรู้แจ้งในสัจธรรม ต่อมากษัตริย์เมี่ยวจวงได้เกิดเป็นโรคผิวหนังเกิดแผลเน่าทั้งกายรักษาอย่างไรก็ไม่หาย เจ้าหญิงเมี่ยวชันได้ทราบด้วยญาณว่าพระบิดาป่วยด้วยผลแห่งกรรมที่ทำมาและเห็นหนทางที่จะนำพระบิดาได้ก้าวพ้นทุกข์ได้จึงได้ให้หลวงจีนชันไฉ่ไปอาสารักษาโรคโดยสละดวงตาและแขนทั้งสองข้างของตนเพื่อปรุงยา เมื่อกษัตริย์เมี่ยวจวงได้หายจากโรคจึงได้สำนึกในบาปกรรมที่ตนได้ทำไว้ เลิกทำบาปหันมาสร้างกุศล ต่อมาได้สละราชสมบัติดั้นด้นเดินทางมาหาเซียนผู้เสียสละดวงตาและแขนเพื่อปรุงยาโดยไม่รู้ว่าเซียนผู้นั้นคือใคร เมื่อรู้ว่าเซียนผู้อุทิศแขนและดวงตามารักษาตนนั้นคือเจ้าหญิงเมี่ยวชัน ธิดาผู้ที่ตนสั่งประหารชีวิตก็สะเทือนใจสำนึกในบาปบุญคุณโทษ เกิดดวงตาเห็นธรรม ด้วยบุญกุศลที่เจ้าหญิงเมี่ยวชันได้บำเพ็ญเพียร บันดาลให้ดวงตาและแขนที่สละไปแล้วกลับงอกขึ้นมาดังเดิม และนับจากนั้นมาเจ้าหญิงเมี่ยวชันก็ได้เป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม พระผู้ช่วยให้สัตว์รอดพ้นความทุกข์เดือดร้อน เป็นผู้ได้ปริเวทนาแห่งสัตว์โลก(อวโลกิเตศวร) และเป็นที่เคารพ กราบไหว้ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ซอยโชคชัย 4 หลายๆท่านคงจะพอรู้จักบ้างแล้วนะครับสำหรับผู้ที่คุ้นเคยในย่านลาดพร้าว หรือท่านผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ (หากท่านใดไม่รู้จักไม่เป็นไรครับ เรามี แผนที่การเดินทางมาให้ดูด้วยครับ) เมื่อใกล้ถึงตำหนัก เราได้มองได้เห็นเจดีย์ที่มีความสูง 21 ชั้น ตั้งตระหง่านอยู่ ซึ่งภายในอุทธยานต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ที่มีทั้งความน่าทึ่งในแรงศรัทธา และสิ่งของต่างๆ รูปปั้นต่างในบริเวณล้วนมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง  เมื่อเราได้เข้าไปสัมผัสด้านในฝั่งด้านพระมหาเจดีย์ พบว่ามีเนื้อที่กว้างขวางและมี รูปปั้น รูปแกะสลัก ขององค์เทพต่างๆ ที่เป็นสีขาวทั้งหมด ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม  ผมพยายามกะด้วยสายตา คาดว่าจะมีเป็นพันองค์น่าจะได้ เยอะมากจริงๆครับ กลางแดดร้อนๆ ลองเอามือไปแตะดูแต่ละองค์ ไม่รู้สึกร้อนเลยครับ แค่อุ่นๆแต่ไม่มาก ปกติของที่อยู่กลางแดนานๆขนาดนี้ต้องร้อนมากกว่านี้เยอะเลยครับจากบันไดด้านหน้าขึ้นสู่พระมหาเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระแม่กวนอิมพันเนตร พันกร ซึ่งพระแม่กวนอิมพันเนตรพันกรองค์นี้มีความสูง 8.30 เมตร แกะสลักด้วยไม้จันทน์หอมจากประเทศจีน ปิดด้วยทองคำแท้ มีพระพักตร์ 20 หน้า ประดิษฐานรายรอบ 4 ทิศ ของพระมหาเจดีย์ เข้าไปด้านในมหาเจดีย์ นักบวช ได้อธิบายให้เราเข้าใจ ถึงประวัติความเป็นมาว่า เริ่มแรกเราได้ย้ายตำหนักเจ้าแม่กวนอิมจาก “ห้วยขวาง” เข้ามาอยู่ที่ตำหนักโชคชัย 4 ตั้งแต่ปี 2527 และพระมหาเจดีย์ พระพุทธเจ้าหมื่นพระองค์ได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2531 โดยใช้ระยะเวลากว่า 12 ปี ภายในองค์พระมหาเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์ พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ เทพเซียนต่างๆ ซึ่งทำมาจากหินอ่อน หินแกรนิต พระมหาเจดีย์นี้สร้างมาจากอิฐ ทราย ดินและหินทุกก้อน ซึ่งภายในพระมหาเจดีย์ จะมีถังโอมมานีแปะหมี่ฮง 108 ใบ รายรอบองค์พระมหาเจดีย์ และพระพุทธรูป และเทวรูปต่างๆ รายรอบอยู่อีกชั้นหนึ่ง และด้านบนเพดานก็มีปูนปั้นติดอยู่ ในชั้นล่าง หากลงไปแล้วจะพบกับรพระพุทธรูป และสิ่งของมากมายที่เป็นของเก่า ของสะสมอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนตรงกันข้าม (อีกฝากถนน) คือตำหนักเจ้าแม่กวนอิม ได้ก่อสร้างจากแรงใจ-แรงศรัทธาของคณะศิษย์ทั้งหลาย ส่วนประกอบทุกส่วนล้วนหล่อหลอมมาจากความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของพระอาจารย์ใหญ่กวงเชง (พระแม่วราภรณ์ เลิศรังษี) พร้อมนักบวชทุกรูป และบรรดาศิษย์จากทั่วทุกสารทิศ ทั้งในประเทศและนอกประเทศได้ตั้งใจสร้างถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและองค์พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ เพื่อเป็นสมบัติอันประเสริฐ ในพระพุทธศาสนาและเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพของบรรดามวลมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย บริเวณภายในชั้นในตำหนักเจ้าแม่กวนอิมนี้ชั้น 3 จะเป็นห้องสวดมนต์ที่ผู้คนมักจะมาหาความสุขสงบใจที่นี่ครับ

การเดินทางขอบคุณภาพจาก blogspot.com

เชิญแสดงความคิดเห็น