กรุงมะนิลา

0

กรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการร้องรำทำเพลง ประชาชนรักเสียงเพลงและความสนุกสนาน มะนิลาคือศูนย์กลางของเขตมหานครที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของอ่าวมะนิลา (Manila Bay) บนเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่ทางเหนือสุดของฟิลิปปินส์ เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา และอุตสาหกรรมรมของประเทศหลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BAYVIEW PARK HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า

มะนิลา (Manila หรือ Maynila ไมนิลา ในภาษาตากาล็อก) ตั้งอยุ่บนชายฝั่งตะวันออกของอ่าวมะนิลา (Manila Bay) บนเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่ทางเหนือสุดของฟิลิปปินส์ บางส่วนของเมืองมีความยากจน อย่างไรก็ดี มะนิลาเป็นเมืองที่มีชนชาติรวมกันอยู่มากมาย และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา และอุตสหากรรมของประเทศ มะนิลาคือศูนย์กลางของเขตมหานครที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน เขต เมโทรมะนิลา (Metro Manila) เป็นมหานครที่ใหญ่กว่า ประกอบด้วยเมืองและเทศบาล 17 แห่ง เฉพาะเมืองมะนิลาเองเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 มีประชากรประมาณ 1.5 ล้านคน เมืองเดียวที่มีประชากรมากกว่าคือเมืองเกซอนซิตี (Quezon City) ชานเมืองและอดีตเมืองหลวง

ศูนย์บริการข้อมูลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในมะนิลา

มีสำนักงานการท่องเที่ยวส่วนกลาง ตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์มะนิลา ในเมืองมะนิลา เช่นเดียวกับโต๊ะบริการข้อมูลนักท่องเที่ยวที่สนามบิน

สำนักงานการท่องเที่ยวของกรุงมะนิลา 
อาคารพิพิธภัณฑ์มะนิลาและห้องสมุดประจำจังหวัดเมืองมะนิลา 4200 โทรศัพท์ : +63 2 723 0130

การท่องเที่ยวแห่งฟิลิปปินส์ 
อาคาร DOT ชั้น 5 ถนน TM Kalaw  วงเวียน ทีโอโดโร วาเลนเซีย กรุงมะนิลา
โทรศัพท์ : +63 2 524 2502
เว็บไซต์ : www.tourism.gov.ph

ระเบียบการเข้าเมืองมะนิลา

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาฟิลิปปินส์สามารถนำเข้าบุหรี่ 400 มวน ซิการ์ 50 มวนหรือยาสูบ 250 กรัม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 ลิตร โดยไม่ต้องจ่ายภาษีอากร ผู้ที่นำเงินติดตัวมากกว่า 3,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต้องแจ้งสำแดงรายการต่อศุลกากรเมื่อเดินทางมาถึง และอนุญาตให้นำเงินสกุลท้องถิ่นออกนอกประเทศได้เพียงเพียง 1,000 เปโซฟิลิปปินส์เท่านั้น สื่อลามก ยาเสพติด และการพนันทุกชนิดเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศและจะถูกลงโทษถูกจับกุมหากฝ่าฝืนนำเข้ามาในประเทศ

แหล่งท่องเที่ยวในกรุงมะนิลา

มะนิลา งามดั่งไข่มุกแห่งบูรพา (Lisa)

  มะนิลา (Manila) ถือว่าเป็นเมืองใหญ่ ที่สำคัญที่สุดของฟิลิปปินส์ ตั้งอยู่ ณ ปากแม่น้ำปาชิก (Pasig) ก่อนจะไหลเรื่อยสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อครั้งเก่าก่อนในสมัยที่ตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของประเทศสเปน มะนิลา งามจนได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งบูรพา” (Pearl of The Orient) 

หากแต่ในปัจจุบันนี้ มะนิลา ก็ยังคงความงามอยู่เสมอในห้วงคำนึงของนักเดินทาง ที่สำคัญยิ่งกว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองหลวงที่เป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรม รวมไปถึงการท่องเที่ยวที่สำคัญของฟิลิปปินส์ที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมเยือน

800px-Intramuros_002

อวลไอกลิ่นความหลังที่ “อินทรามูรอส”

การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประจำเมือง ถือเป็นการโหมโรงการเดินทางที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะกิจกรรมนี้จะทำให้เราซาบซึ้งกับความเป็นมาของแต่ละสถานที่ ที่เรากำลังจะพัดผ่านไปเยี่ยมเยือน ดังนั้น ก่อนจะเรื่อยเลาะไปยังสถานที่อื่น ๆ ภายในมะนิลา การมาย้อนอดีตกันที่ อินทรามูรอส จึงถือเป็นโปรแกรมที่พลาดไม่ได้จริง ๆ

อินทรามูรอส (Intramuros) ตั้งอยู่ ณ ริมแม่น้ำฟาร์ซิกไรซัล (Rizal Park) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1571 โดยกลุ่มชาวสเปนที่มีผู้นำในการก่อสร้างคือ Miguel Lopez de Legazpi เพื่อป้องกันการรุกรานจากกลุ่มโจรสลัด อินทรามูรอส เคยถูกเปลี่ยนมือไปสู่การดูแลของอังกฤษในช่วงปีค.ศ.1762 ก่อนที่สเปนจะตีคืนมาได้ใน 2 ปีถัดมา และ อินทรามูรอส ก็ถูกเปลี่ยนมืออีกครั้งไปสู่สหรัฐอเมริกาในปีค.ศ.1898 ก่อนที่จะถูกญี่ปุ่นเข้าทำลายและยืดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

หลังจากที่ผ่านทั้งพายุ แผ่นดินไหว ไฟไหม้ และภัยสงคราม อินทรามูรอส ก็แทบจะไม่เหลืออะไรให้เห็น กระทั่งกลายเป็นเมืองร้างในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่ทางการจะยื่นมือเข้ามาบูรณปฏิสังขรณ์ จนมีสภาพดีขึ้นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเมื่อมาเยือนมะนิลา ภายใน ป้อมอินทรามูรอส ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองการศึกษา วัฒนธรรม ศาสนา และการค้า ฯลฯ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเหมือนเมืองในสมัยยุโรปยุคกลาง ที่มีกำแพงล้อมรอบและค่ายป้อมยามมิดชิด ภายในพื้นที่เกือบ 400 ไร่ ถูกล้อมด้วยกำแพงหินสูงที่มีโบสถ์ โรงเรียน และสถานที่ราชการตั้งอยู่ภายใน

1.1252122766.church-of-san-agustin-2

สืบศรัทธาจาก “โบสถ์ซานอะกุสติน” ถึง “โบสถ์มะนิลา”

นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่หลายคนต่างก็เคยพูดไว้ในบทบันทึกการเดินทางของเขาอยู่เสมอว่า “หากอยากสัมผัสถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงของผู้คนในพื้นที่ที่เราไปเยือนต้องไม่พลาดการไปชมศาสนสถาน” ดังนั้น เมื่อมาเยือนมะนิลาทั้งที การไม่ได้ไปชมศาสนสถานประจำเมืองจึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย เริ่มต้นการสัมผัสจิตวิญญาณของชาวมะนิลากันก่อนที่ โบสถ์ซานอะกุสติน (San Agustin Church) ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1599 ตามแบบสถาปัตยกรรมของสเปน สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังมีความสง่างาม ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างหนึ่งเดียว ภายในอินทรามูรอสที่ไม่ถูกระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2

เสน่ห์ของ โบสถ์ซานอะกุสติน ก็คือผนังโบสถ์ด้านหน้าที่ชวนมองในสไตล์ดอริกเกลี้ยง ๆ รวมถึงบานประตูใหญ่ที่แกะสลักหินเป็นรูปนักบุญอะกุสติน กับนักบุญโมนีกาที่งดงามน่าเจริญศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ใกล้ ๆ กับโบสถ์ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่เก็บสมบัติล้ำค่าไว้ให้ได้ชื่นชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานศาสนศิลป์ งานประณีตศิลป์รวมถึงงานเครื่องถ้วยแบบสเปนและเม็กซิกัน

1.1252122766.cathedral-de-manila-3

ถัดจากโบสถ์ซานอะกุสตินก็ควรพาตัวเองไปเยี่ยมโบสถ์เก่าแก่ที่สำคัญของมะนิลานั่นคือ โบสถ์มะนิลา (Manila Cathedral) ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่มะนิลาเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมสเปน โดยพระประสงค์ของพระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 13 ดังนั้น โบสถ์แห่งนี้จึงมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่โบสถ์แห่งนี้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ที่สำคัญยังคงยืนหยัดอยู่คู่ศรัทธาของชาวกรุงมะนิลามาจวบจนปัจจุบัน

1.1252122766.casa-manila-3

เยือนถิ่นเก่าผู้ดีสเปนที่ “คาซา มะนิลา”

คาซา มะนิลา (Casa Manila) ถือเป็นหย่อมย่านที่พักอาศัยของชนชั้นสูงชาวสเปนในอดีต ซึ่งถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ สำหรับคนที่โหยหาเรื่องราวในอดีต หากเดินย่ำต๊อกไปตามถนนสายเล็ก ๆ ภายในย่านแห่งนี้ก็จะได้สัมผัสกับตึกทรงโบราณแบบสเปน ที่สวยงามแปลกตาและหาชมไม่ได้ง่าย ๆ แม้ในประเทศเจ้าอาณานิคมอย่างสเปน ที่สำคัญยิ่งกว่าภายในอาคารต่าง ๆ เหล่านั้น ยังมีการจัดแสดงจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่จริง ๆ ในสมัยนั้นให้ได้ชมกันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

หลังจากได้เดินชมความสวยงามของย่านคาซา มะนิลากันแล้ว ก็ควรอย่างยิ่งกับการมาเดินกันต่อที่ สวนไรซาล (Rizal Park) หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าื ลูเนตา (Luneta) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางกรุงมะนิลาทั้งยังเป็นทั้งตั้งของ อนุสาวรีย์โฮเซ่ ไรซาล (Jose Rizal) ผู้นำในการปลดแอกฟิลิปปินส์จากสเปนในช่วงค.ศ.1896-1898 และในบริเวณเดียวกัน ก็เป็นจุดที่ฟิลิปปินส์ประกาศอิสรภาพเหนือสหรัฐอเมริกาในปีค.ศ.1941 อนุสาวรีย์นี้จึงทวีความสำคัญในฐานะเป็นหลักกิโลเมตรแรก สำหรับนับระยะถนนทุก ๆ สายในเกาะลูซอน

manila1

Extra Tips

 สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of The Philippines) น่าเดินทางไปเยี่ยมเยือนโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวเชิงศึกษาประวัติสาสตร์และวัฒนธรรม เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรมที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากสเปนและสหรัฐอเมริกาในยุคอาณานิคม ดังนั้น สีสันทางวัฒนธรรมของฟิลิปปินส์ในวันนี้จึงเป็นการผสมผสานทั้งความเป็นตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว

ชื่อเดิมของเมือง มะนิลา (Manila) นั้นคือ “ไมนีลัด” เหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะดินแดนแถบนั้นคลาคล่ำไปด้วย “ต้นนีลัด” ซึ่งเป็นไม้พื้นถิ่นที่มีพวงดอกเป็นสีขาว สะอาดตา ก่อนที่จะกร่อนเสียงและเพี้ยนเป็นมะนิลาในวันนี้

 ตลาดกลางมากาติ (Makati) ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของมะนิลา เพราะตั้งอยู่ ณ จุดกึ่งกลางของย่านธุรกิจชั้นนำ ทั้งยังรายรอบด้วยโรงแรมหลายระดับมากมาย รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ หลายแห่ง ภายในตลาดกลางมากาติมิให้เลือกช้อปทั้งสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก รวมถึงสินค้าแบรนด์เนมสุดหรู

ประเพณีปฏิบัติของชาวฟิลิปปินส์ในวันอาทิตย์จะเป็นวันไปโบสถ์ตามศาสนกิจของชาวคริสต์ และหลังจากเสร็จสิ้นศาสนกิจชาวฟิลิปปินส์ส่วนมากนิยม ไปชุมนุมกันที่ร้านอาหารเพื่อร่วมรับประทานอาหารในหมู่เครือญาติ ดังนั้น ในวันนี้ร้านอาหารจึงเนืองแน่นไปด้วยผู้ใช้บริการ

 

ขอขอบคุณ lisa, travel.kapook.com , th.aectourismthai.com

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก travelpod.com   

[mappress mapid=”2″]

เชิญแสดงความคิดเห็น