108 เส้นทางออมบุญ

ออมบุญกับพระพุทธรูปล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ (ภาคเหนือ)

หลวงพ่อโต วัดโพธิ์ประทับช้าง พิจิตร

โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

หลวงพ่อโต วัดโพธิ์ประทับช้าง พิจิตร

                หลวงพ่อโตแห่งวัดโพธิ์ประทับช้างนั้นเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ที่ได้รับความเคารพนับถือเป็นอันมากของชาวจังหวัดพิจิตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา ประดิษฐานเป็นพระประธานประจำอุโบสถแห่งวัดโพธิ์ประทับช้างที่ปรักหักพังผ่านกาลเวลามานานกว่า 3 ศตวรรษแล้ว ถึงอย่างไรความเคารพศรัทธาของชาวพิจิตรที่มีต่อองค์หลวงพ่อโตก็ไม่เคยเสื่อมคลาย หลวงพ่อโตมีชื่อที่ชาวพิจิตรเรียกอีกชื่อว่าหลวงพ่อยิ้ม เนื่องจากพระพักตร์ของท่านนั้นดูยิ้มแย้มเป็นที่อิ่มเอมใจแก่ผู้ที่มาสักการะ หลังจากที่องค์ท่านได้รับความเสียหายจากต้นไม้ที่โค่นทับ ชาวบ้านจึงได้ร่วมใจกันบูรณะให้องค์ท่านมีความสมบูรณ์และเป็นที่สักการะของผู้ที่เดินทางมายังวัดโพธิ์ประทับช้างสืบไป

                ความสำคัญของวัดโพธิ์ประทับช้างแห่งนี้ มีตำนานที่ผูกพันกับพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยเรื่องเล่าว่าในขณะที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จไปนมัสการพระพุทธชินราชนั้น นางสนมได้เกิดเจ็บครรภ์และคลอดทารกเป็นเพศชายระหว่างต้นมะเดื่อกับต้นโพธิ์ใหญ่ พระองค์จึงทรงให้นำรกของพระกุมารไปฝังไว้ใต้ต้นมะเดื่อนั้น และทรงตั้งพระนามให้พระโอรสองค์นี้ว่า “เดื่อ” ตามชื่อของต้นไม้ เมื่อพระโอรสได้ทรงเจริญพระชันษาและขึ้นครองแผ่นดินอยุธยา ทรงมีพระนามว่าสมเด็จพระสุริเยนทราบดี หรือที่รู้จักกันดีว่าพระเจ้าเสือ

                ในปี พ.ศ. 2242 พระเจ้าเสือทรงรับสั่งให้สร้างวัดขึ้นข้างต้นโพธิ์ใหญ่ และพระราชทานนามวัดนี้ว่า “วัดโพธิ์ประทับช้าง” เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งพระประสูติกาลของพระองค์เป็นวัดที่มีพระวิหารขนาดใหญ่ มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้นเป็นศิลปะแบบอยุธยาปัจจุบันได้รับการบูรณะซ่อมแซมจากกรมศิลปกรและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของเมืองไทย

สถานที่ตั้ง

                อ.โพธิ์ประทับช้าง  จ.พิจิตร  ห่างจากตัวเมืองประมาณ 27 กม.

ความเชื่อ และวิธีการบูชา

                ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต วัดโพธิ์ประทับช้างนั้น เป็นที่เลื่องลือในเรื่องของการขอพรในเรื่องความเป็นสิริมงคล

เทศกาล งานประเพณี

                งานสักการะหลวงพ่อโต วัดโพธิ์ประทับช้าง จัดขึ้นทุกปีในวันเพ็ญเดือน 5 (เมษายน)  โดยชาวบ้านจะพากันเอาดอกไม้ ธูปเทียน น้ำอบน้ำหอม มาสักการะ ขอศีลขอพร  และขอขมาลาโทษกับหลวงพ่อโต และในวันที่14 เมษายน  หรือช่วงสงกรานต์ของทุกปีจะมีงานสรงน้ำหลวงพ่อโตด้วย