��ͧ�����ลำพูน

เที่ยวชมวัดพระธาตุหริภุญชัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองลำพูน

1 ใน 7 ขององค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ในแถบภาคเหนือตอนบน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งอดีตนับเวลามากกว่าพันปี ตั้งแต่การสร้างอาณาจักรนครหริภุญชัยในยุคแรก ๆ ภายในวัดพระธาตุหริภุญชัยมีสิ่งสำคัญเป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำประดิษฐานในพระเจดีย์ ซึ่งเป็นองค์พระเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่งดงามองค์หนึ่งของเมืองไทย  และถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง นอกจากนั้นยังเป็นองค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปี ระกา อีกด้วย

                วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแก่อยู่คู่เมิงลำพูนมานานนับพันปี  สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 ในรัชสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมภายในบริเวณวัดมาหลายยุคหลายสมัย เป็นวัดที่มีองค์พระบรมธาตุหริภุญชัย ที่มีอายุเกินกว่าหนึ่งพันปี ภายในวัดมีศาสนสถานที่สำคัญก็คือองค์พระเจดีย์ที่ประดิษฐาน พระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ,เจดีย์เก่าแก่ชื่อเจดีย์ปทุมวดี, หอกังสดาลที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ,พระอุโบสถแบบล้านนาไทยแท้ บริเวณวัดยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะแบบล้านนาไทยแท้ ๆอีกหลายอย่างครับ

วัดพระธาตุหริภุญชัยเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์องค์เก่าแก่องค์หนึ่งในล้านนาไทย ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในอาณาจักรล้านนาได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1440 นับถึงเวลาปัจจุบันก็มีอายุมากกว่าพันปี เป็นเจดีย์องค์หนึ่งในจำนวน 8 องค์ ที่มีอายุเกิน 1,000 ปี ของประเทศไทย และในสมัยก่อนนั้นวัดพระธาตุหริภุญชัยเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ในราชวงศ์จามเทวีและเป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหริภุญชัยในสมัยโบราณ

                       บริเวณด้านหน้าทางเข้าเป็นซุ้มประตูซุ้มซึ่งเป็นซุ้มประตูที่สวยงามด้วยศิลปะแบบล้านนา ก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือช่างโบราณสมัยศรีวิชัยเป็นสุดยอดฝีมือช่างแห่งล้านนาจริง ๆครับ  ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ   เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ตัวใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่าแผ่บารมีอยู่บนแท่นรับสูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้มีความเก่แก่มากสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าอาทิตยราช

   เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปด้านในวัดเราก็จะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า วิหารหลวงเป็นวิหารหลัง ขนาดใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3 องค์หรือที่ชาวลำพูนนิยมเรียกว่าพระศรีหริภุญชัย  และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์ ตัววิหารสวยงามตามแบบฉบับของวัฒนธรรมล้านนาลงรักปิดทองประดับประจกลวดลายละเอียดสวยงาม ผนังภายในเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาไว้อย่างสวยงาม เสารับด้านในวิหารเขียนลวดลายสวยงามวิจิตร และตัววิหารมีขนาดใหญ่มาก ๆ เป็นพระวิหารที่สวยงามอีกแห่งของภาคเหนือตอนบนครับ

ทางด้านหลังตัววิหารเป็น พระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์  เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะ ใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบเป็น  มีสำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือ และทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม มีหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป  มีประชาชนเข้ามาไหว้องค์พระธาตุจำนวนมากในทุก ๆวัน โดยจะเดินวนสามรอบเพื่อการบูชาองค์พระธาตุ

จุดเด่นขององค์พระเจดีย์ก็คือเป็นองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่หุ้มด้วยทองจังโก๋ หรือทองแดงปิดด้วยทองคำเปลวอีกชั้นหนึ่งทั้งองค์สวยงามมาก มีลายประจำยาม 8 ดอกประดับ คั่นด้วยซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปนูนต่ำ 8 องค์ มีฉัตรทองคำ 7 ชั้นประดับอยู่บนยอดสุดขององค์พระเจดีย์ พระธาตุหริภุญชัยถือเป็นสัตตมหาสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของไทยประจำภาคเหนือตอนบน ที่โดดเด่นด้วยคุณลักษณะที่งดงามเป็นองค์เจดีย์อันคุณค่าทางขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมล้านนาไทย

                เนื่องจาก พระบรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ และในทุก ๆปี จังหวัดลำพูนจะจัดงานงานนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุ เพื่อสืบทอดและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี อันดีงามของวัฒนธรรมล้านนาไทยให้คงอยู่ต่อไปงานจะจัดในช่วง วันเพ็ญ เดือน 6  ของทุกปี หรือประมาณเดือน เมษายน-พฤษภาคม  งานเขาจัดอย่างยิ่งใหญ่ใครที่อยากร่วมในพิธีก็เชิญได้เลย ตรวจสอบวันเวลาที่แน่นอนก่อนการเดินทางครับ

ทางด้านขวาพระบรมธาตุเจดีย์ก็เป็นพระสุวรรณเจดีย์ ซึ่งมีความเก่าแก่มาก สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17  สร้างขึ้น โดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช ภายหลังเมื่อสร้างพระธาตุฯ เสร็จแล้วได้ 4 ปี พระสุวรรณเจดีย์องค์นี้เป็นรูปแบบพระปรางค์ 4 เหลี่ยม ฝีมือช่างละโว้มีพระพุทธรูปประจำซุ้มทั้งสี่ด้าน และมีลักษณะแบบขอมโบราณปนอยู่ด้วย ยอดพระเจดีย์มีทองเหลืองหุ้มอยู่ เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นยังมีคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมล้านนาไทยอีกด้วย เป็นอีกสถานที่หนึ่งภายในวัดที่ต้องเข้าไปเยี่ยมชมและสักการบูชาครับ

ทางด้านซ้ายองค์พระเจดีย์เป็นหอไตรทรงสูงสวยงามเป็นศิลปะขอมปนศรีวิชัย สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยของเจ้าน้อยอินทยงยศ ประมาณปี พ.ศ.2445 หรือเมื่อประมาณ 100 ปีก่อนตัววิหาร ตั้งเด่นอยู่บนแท่นรับก่ออิฐถือปูนขนาดสูงสวยงาม นับเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าทางด้าน ศิลปวัฒนธรรมอีกที่หนึ่ง

นอกจากโบราณสถานที่กล่าวมาแล้วภายในวัดยังมีโบราณสถานที่สำคัญอีกหลายอย่าง ไห้เราได้กราบไหว้บูชา อาที วิหารพระเจ้าทันใจ,วิหารพระเจ้าองค์แดง,รอยพระพุทธบาทสี่ดวง,วิหารพระนอน  นอกจากนั้นภายในวัดยังจัดแสดงวัตถุโบราณที่อาคารพิพิธภัณฑ์ 50 ปี ทางด้านในจัดแสดงวัตถุโบราณและสิ่งของต่าง ๆ มากมาย นอจากเป็นสถานที่พักผ่อนแล้วเรายังสามารถใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย

บริเวณด้านหน้าวัดเป็นตลาดขายของฝากและของที่ระลึกของจังหวัดลำพูนมีสินค้ามากมายหลายชนิดให้เลือกชมเลือกชิมเลือกซื้อกลับบ้าน มีเหล่าแม่ค้าใจดีชาวลำพูน ที่คอยแนะนำด้วยรอยยิ้มอันสดใสตามแบบฉบับของชาวล้านนาส่งเสียงสำเนียงไพเราะแบบชาวเหนือเป็นมนต์เสน่ห์ของตลาดในแถบจังหวัดทางภาคเหนือของเราที่สุดจะประทับใจสำหรับคนที่เข้าไปสัมผัสแม่ค้าชาวลำพูนใจดีมาก ๆ ครับ

หลังจากที่เรากราบไหว้บูชาองค์พระธาตุหริภุญชัยแล้วยังก็ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ชาวลำพูนและประชาชนทั่วไปให้ความเรารพศรัทธาเป็นจำนวนมาก ที่ต้องเข้าไปสักการบูชาเพื่อกราบไหว้ขอพรก็คืออนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนอีกแห่งหนึ่ง อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน ห่างจากวัดพระธาตุหริภุญชัยประมาณ 1 กิโลเมตร

พระนางจามเทวีเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย (ลำพูน) พระนางทรงเป็นปราชญ์ผู้มีความกล้าหาญทรงคุณธรรม และยังมีสิริโฉมงดงาม พระนางได้นำพระ พุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนล้านาไทยเป็นเบื้องแรก ซึ่งทำให้ล้านนาไทยเจริญรุ่ง เรือง ทั้งด้านการศาสนา และศิลปวัฒนธรรม มาจนถึงปัจจุบัน อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างเสร็จ และทำ พิธีเปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2525  ด้าน หลังอนุสาวรีย์ทำเป็นแผ่นปูนปั้นแสดงถึงการสร้างเมืองหริภุญชัยและวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีความเป็นมาต่าง ๆ สวยงาม ใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้เป็นอย่างดีและถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูนที่ต้องเข้าไปกราบไหว้บูชาครับ

ภายในจังหวัดลำพูนนอกจากวัดพระธาตุหริภุญชัยที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งให้เราได้เดินทางไปเที่ยวชม อาทีเช่น อุโมงค์ขุนตาลประตูสู่ภาคเหนือตอนบน,วัดพระพุทธบาทตากผ้า ,วัดหาวัน,เจดีย์ห้าดวง,พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหริภุญชัย,อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย,หมู่บ้านแกะสลัก เชิญแอ่วเมืองลำพูนกันให้ถั่วถึงไปเลยครับ

วัดพระธาตุหริภุญชัยตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก และถนนอินทยงยศทางทิศตะวันตก ประตูเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. โทร 053-511104,053-561148 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  053-248604,053-248607

การเดินทางมายังวัดพระธาตุหริภุญชัยโดยทางรถยนต์ เดินทางมาบนถนนสายเอเชียมุ่งตรงมายังตัวจังหวัดลำพูนพอถึงตัวเมืองก็ใช้เส้นทาง ถนนเจริญราษฎร์ วัดตั้งอยู่ติดริมถนนหาง่ายหลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาไหว้พระนางจามเทวีโดยใช้ถนนเส้นเดียวกัน เดินทางโดยรถประจำทางมีรถประจำทางวิ่งจากกรุงเทพเข้าตัวเมืองลำพูนทุกวัน จากนั้นก็ใช้บริการรถท้องถิ่นเข้าไปยังตัววัด

วัดพระธาตุหริภุญชัยและอนุสาวรีย์พระนางจามเทวีนับเป็นสถานที่ที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามความเชื่อที่สร้างสมกันมาหลายยุคหลายสมัยนับเป็นพันปี และอยู่คู่เมืองหริภุญชัยหรือจังหวัดลำพูนมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยความงดงามและกลิ่นอายของความเป็นล้านนาไทย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องเข้าไปสักการบูชาและทำนุบำรุงให้คงอยู่สืบไปครับ  หากท่านใดมีโอกาสเดินทางมาจังหวัดลำพูนสถานที่แรกที่ต้องเข้าไปก็คือ การเข้าไปกราบไหว้บูชาองค์พระธาตุหริภุญชัยเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและกราบไหว้ขอพรพระนางจามเทวีที่อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี สถานที่ตั้งอยู่ใกล้กันเดินทางได้สะดวกครับ