ผู้เขียน : dooasia เมื่อ : 20 พ.ค 54. เปิดอ่าน : 7674 ครั้ง
|
ตะลอนเที่ยวเที่ยว อ.สวนผึ้ง ราชบุรี
ถ้าจะให้ขับรถออกไปนอกกรุงเทพฯ ในระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร แล้วได้เจอกับธรรมชาติที่ยังสวยสดงดงาม มีความอุดมสมบูรณ์ และบรรยากาศที่สดชื่นเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี จะมีใครอยากไปบ้าง
“ตะลอนเที่ยว” ขอยกมือขึ้นสูงๆ เป็นคนแรกเลยแล้วกัน แหม…ใครบ้างจะไม่อยากใช้เวลาวันหยุดให้ผ่อนคลายแบบนี้บ้าง และเพื่อมาตามหาบรรยากาศดีๆ แบบที่ว่า “ตะลอนเที่ยว” ก็เลยจะพามาที่นี่ “สวนผึ้ง” อำเภอหนึ่งใน จ.ราชบุรี ที่มีชายแดนติดกับประเทศพม่า และกำลังขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของรีสอร์ทใหม่ๆ มากมาย
หินงอกที่มีลักษณะคล้าย ฮก ลก ซิ่ว ในถ้ำเขาบิน
แต่ก่อนที่จะเข้าไปสวนผึ้งนั้น ขอแวะเที่ยวที่ อ.เมืองก่อนก็แล้วกัน เลี้ยวรถเข้ามาจอดกันที่ ถ้ำเขาบิน ที่โด่งดังในเรื่องหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ ลักษณะเป็นถ้ำใต้ดิน ตั้งอยู่ในเทือกเขาบิน บริเวณรอบๆ ทางเข้าไปก็จะมีการตกแต่งสถานที่ด้วยพรรณไม้ต่างๆ นานา มีที่นั่งพักขา รับลมเย็นๆ
โป่งยุบ
ภายในถ้ำเขาบินนั้นมีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ระยะทางในการเดินชมประมาณ 500 เมตร อ้อ…ก่อนที่จะเข้าไปชมกันนั้น ขอแนะนำก่อนว่า ไม่ควรเอามือไปสัมผัสกับหินงอกหินย้อยที่ยังมีชีวิตอยู่ สังเกตง่ายๆ ก็คือ หินที่ยังมีน้ำไหลลงมา หรือหยดลงมา เพราะความเค็มจากมือเราจะไปทำปฏิกิริยาให้หินงอกหินย้อยเหล่านั้นหยุดการเจริญเติบโตทันที ทีนี้ก็อาจจะไม่มีหินรูปทรงแปลกๆ ไว้ให้ดูกันอีกแล้ว
อีกมุมหนึ่งของโป่งยุบ
ออกจากถ้ำเขาบิน มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองสวนผึ้งกันเลยดีกว่า นั่งฟังเพลงในรถเพลินๆ สักพักก็มาถึงสถานที่น่าสนใจอีกแห่ง คือ โป่งยุบ ซึ่งมีลักษณะเป็นหลุมยุบ กระจายอยู่เป็นช่วงๆ ถ้าลงไปถ่ายรูปจากด้านล่าง อาจจะดูคล้ายๆ กับที่แพเมืองผี จ.แพร่ หรือที่ ละลุ จ.สระแก้ว แต่สำหรับที่นี่เรียกได้ว่าเป็นหลุมยุบน้องใหม่ เพราะเพิ่งเกิดได้ไม่กี่ปี ต่างจากที่แพะเมืองผี และละลุ ที่เกิดการยุบตัวมานานแล้ว
เด็ก ๆ สนุกสนาน ในธารน้ำร้อนบ่อคลึง
เดินเข้าไปด้านในแล้วก็ยังมองไม่เห็นชัดเจนเสียทีเดียวว่าเป็นหลุมยุบ ต้องเดินตามเส้นทางที่ทำลาดลงไปก่อน ถึงจะเห็นว่าเกิดการยุบตัวมากจริงๆ จากพื้นดินที่ยุบลงไปแล้ว ต้องมองขึ้นไปจนคอตั้งถึงจะเห็นพื้นดินที่อยู่ด้านบน บริเวณรอบๆ ก็เป็นเหมือนเสาดิน สูงๆ ต่ำๆ มีลักษณะแตกต่างกันไป หลุมยุบที่นี่เกิดจากการที่ดินเลนที่อยู่ชั้นล่างสะสมน้ำเอาไว้จนขาดความแข็งแรง เมื่อน้ำใต้ดินไหลผ่านไปก็เลยพาเอาดินเหล่านั้นไปด้วย เกิดเป็นโพรงโล่งๆ อยู่ใต้ดิน เมื่อฝนตก พื้นดินด้านบนก็อุ้มน้ำเอาไว้จนเมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็จะยุบตัวลงไป
ต้นกำเนิดลำธารบ่อคลึง
รอดพ้นจากการเดินหลบหลุมกันได้แล้ว “ตะลอนเที่ยว” จะพาไปแช่น้ำร้อนกันให้สบายอุรา ที่ ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ที่มีให้เลือกทั้งแช่ตัว แช่เท้า หรือจะอาบกันให้สะใจเลยก็ได้ เมียงๆ มองๆ ดูแล้ว ยังตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะเลือกแบบไหน เลยขอเดินไปดูต้นกำเนิดของน้ำร้อนแห่งนี้ก่อนดีกว่า
รีสอร์ทมนุษย์หินฟริ้นท์สโตน
ธารน้ำร้อนแห่งนี้ ค้นพบโดย นายประยูร โมนยะกุล เมื่อปี พ.ศ.2468 จกนั้นก็ได้มีการปรับปรุงสถานที่โดยรอบ และเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาพักผ่อนได้
ฝ่าดงหมอกขึ้นเขากระโจม
ร้อนๆ กันมาแบบนี้ ก็คงต้องกลับเข้าที่พัก อาบน้ำอาบท่ากันให้สบายตัว แต่รีสอร์ทในวันนี้ที่จะพาไป ไม่ใช่รีสอร์ทธรรมดาๆ เพราะว่าเป็นรีสอร์ทมนุษย์หินฟริ้นท์สโตน หรือ สวนผึ้งรีสอร์ท ที่นี่เขาทำบ้านพักให้เป็นตัวการ์ตูนจากเรื่องฟริ้นท์สโตน มีทั้งเฟรด บาร์นี่ ดีโน่ วิลม่า และเบ็ตตี้ ถ้าพาเด็กๆ มาที่นี่ ก็คงจะต้องอยากเข้าไปนอนในตัวการ์ตูนกันแน่ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น “ตะลอนเที่ยว” ตื่นตั้งแต่พระจันทร์ยังไม่ลับขอบฟ้า ยังเห็นดาวระยิบระยับอยู่รำไร ถึงจะเมาขี้ตาอยู่แต่ก็ยังมีสติคว้าเอาเสื้อตัวหนามาเตรียมสู้กับความหนาวบนยอดเขา อย่าเพิ่งแปลกใจ ว่าทำไมตอนนี้หนาวได้ ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าฤดูหนาวเลยสักนิด ต้องบอกก่อนว่าเราจะพากันไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขากระโจม ที่มีอุณหภูมิหนาวเย็นทั้งปี
ยอดเขากระโจม สุดเขตประเทศไทย
เขากระโจมเป็นแนวสุดเขตประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า มีเทือกเขาตะนาวศรีกั้นพรมแดนอยู่ แต่เดิมเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เนื่องจากมีชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มอาศัยอยู่แถบบริเวณนี้ แต่ในปัจจุบันนี้ก็เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ยอดเขากระโจม เราเดินทางขึ้นเขากระโจมกันด้วยรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ เนื่องด้วยเส้นทางที่จะผ่านนั้นทั้งสูงชัน และสมบุกสมบัน บุกป่าฝ่าดง ลงน้ำ และฝ่าดงหมอก เพื่อขึ้นไปพบกับความสวยงามที่บนยอดเขาที่มีความถึงถึง 1,040 เมตร จากระดับน้ำทะเล นั่งกระบะหลังที่รถกำลังไต่ระดับความสูงขึ้นมาเรื่อยๆ อากาศรอบๆ ตัวก็เริ่มเย็นลง ทิวทัศน์รอบๆ ข้างก็เริ่มซ่อนตัวเข้าไปอยู่ในเมฆหมอกเช่นกัน ทะเลหมอกจาง ๆ บนยอดเขากระโจม
จากที่ระดับ 800 เมตร 900 เมตร มาจนถึงที่ระดับ 1,040 เมตร ก็มาถึงบนยอดเสียที น่าเสียดายที่วันนี้ทั้งเมฆทั้งหมอกพร้อมใจกันมาบดบัง ทำให้เราไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่แสนสวยงาม แต่เราก็ได้มายืนหนาวสั่นกันอยู่บนยอดเขา จิบชากาแฟ ที่คุณพี่ ตชด. ชวนให้ชิม จากร้าน coffee แอนด์อากาศดีดี มีให้เลือกทั้ง ชา กาแฟ และโจ๊ก (คัพ) คร้าบบบบ…
ร้านกาแฟบนยอดเขากระโจม
พอสายๆ ได้ที่ ลงจากเขากระโจมแล้ว เราก็จะไปแช่น้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจกันบ้าง หลังจากที่เมื่อวานแช่น้ำร้อนแก้เมื่อยกันไปแล้ว เดินทางไปที่ น้ำตกเก้าโจน หรือ น้ำตกเก้าชั้น ที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรีเป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปี แต่จะมีมากหน่อยก็ในช่วงของฤดูฝน
แกะน้อยในบ้านหอมเทียน
รับความสดชื่นกันมาแล้ว ก่อนจะกลับเข้ากรุงเทพฯ ขอมาแวะซื้อของฝากน่ารักๆ ที่ บ้านหอมเทียน ร้านขายเทียนหอมหน้าตาน่ารัก ที่ตกแต่งมุมต่างๆ ของร้านไว้อย่างน่ามอง เข้าไปในร้านแล้วจะได้กลิ่นหอมของเทียนหลากหลายชนิดตลบอบอวลอยู่ในอากาศ นอกจากจะซื้อหาเทียนมาเป้นของฝากแล้ว ก็ยังสามารถทำเทียนหอมได้ด้วยตัวเอง แล้วยังแวะเวียนไปถ่ายรูปในมุมต่างๆ ได้อีกด้วย
ขอขอบคุณภาพและเรื่องราวดีๆ จาก http://www.konderntang.com/ |
|
โปรโมชั่นจองโรงแรม |
|||||
921 โรงแรม |
510 โรงแรม |
963 โรงแรม |
447 โรงแรม |
296 โรงแรม |