หอศิลป์ริมน่าน

0

สายๆของเมืองน่านที่สงบสุข ดูเอเซียขับรถเล่นไปทางถนนสาย อ.เมืองน่าน-ทุ่งช้าง ระหว่างทางบนเนินดอยเล็กๆหลายๆลูก สองข้างทางเต็มไปด้วยสีเขียวขจีของเหล่าต้นไม้ใบหญ้า แม้จะสายมากแล้ว แต่บางจุดก็ยังมีหมอกบางๆให้เราได้ขับรถผ่าไปอยู่เป็นระยะๆ เส้นทางสายนี้บอกได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มีสถานที่ให้เราได้แวะเที่ยวกันเพียบ แต่ว่าตอนนี้ดูเอเซียจะพาแวะทีหอศิลป์ริมน่าน ซึ่งหอศิลป์นี้เป็นสถานที่ๆจัดแสดงภาพศิลปะที่บรรดาศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมายได้สร้างสรรค์ขึ้นมา จะเป็นของศิลปินท่านใดก็แล้วแต่ล่ะครับว่าเราไปชมช่วงใหน เพราะหอศิลป์เค้าจะจัดนิทรรศการแสดงงานศิลปะของศิลปินหลายๆท่าน หมุนเวียนกันไป แต่หลักๆก็จะมีของ อ.วินัย ปราบริปู เจ้าของหอศิลป์แห่งนี้แสดงไว้ครับ

หอศิลป์ริมน่าน อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองน่านไปประมาณ 20 กิโลเมตร ริมฝั่งถนนด้านขาวมือจะสังเกตุเห็นป้ายหอศิลป์อย่างชัดเจน ขับรถไปไม่ต้องกลัวหลงหรอกครับ ตรงไปตามทางอย่างเดียวไม่ต้องเลี้ยวแยกไหน ช่วงที่ดูเอเซียไปพอดีเป็นวันที่กำลังเตรียมการจัดนิทรรศการของ “ศิลปินกลุ่ม 8 ” และ นิทรรศการ “จิตรกรรมภาพชีวิต” โดย ภัทรุตม์ สายะเสวี ภายในบริเวณก็ถูกตกแต่งด้วยโคมไฟกระดาษว่าว เพราะในค่ำคืนนี้จะมีงานเปิดนิทรรศการ ซึ่งดูเอเซียได้รับเชิญจากผู้จัดการหอศิลป์ด้วย แต่น่าเสียดายที่มีงานคั่งค้างอยู่ที่กรุงเทพฯเลยไปร่วมงานกับเค้าไม่ได้

ภายในบริเวณจะมีอยู่หลายอาคาร ด้านนอกจะเป็นแกลลอรี่หลังเล็กๆอยู่ด้านหน้าสุด ถัดมาเป็นเรือนรับรอง ซึ่งเรือนนี้ถ้าวันปกติที่ไม่มีศิลปินคนใหนมา หากใครอยากอิงแอบแนบชิดบรรยากาศยามค่ำคืนและยามเช้าตรู่ของที่นี่ก็สามารถเข้าพักได้ในเรือนนี้ซึ่งเสียค่าที่พักก็คืนละ 1,500บาท ในเรือนมีห้องโถงนอนได้เป็นสิบคน และมีห้องนอนใหญ่ด้านบนอีก 1ห้อง มาหน้าหนาวไม่ต้องกลัวจะอาบน้ำไม่ได้ครับเพราะเค้าเครื่องทำน้ำอุ่นครบครันเลย แต่เค้ามีให้พักแค่เรือนเดียวนะ ใครอยากพักจริงๆล่ะก็ต้องโทรศัพท์จองล่วงหน้าก่อน ไม่งั้นอาจมาเก้อก็ได้…

ถัดจากเรือนรับรองเข้ามาอีก อาคารหลังใหม่จะเป็นที่จัดแสดงภาพวาดของอ.วินัย ส่วนอาคารจัดแสดงเป็นอาคารหลังใหญ่ที่สุดในบริเวณ อาคารนี้ตั้งเด่นอยู่กลางพื้นที่ ด้านข้างมีสนามหญ้าไว้จัดงานเล็กๆของที่นี่ ดูเอเซียเข้ามาด้านในอาคารพบภาพวาดสีพื้นสีแดงฉาน ลายเส้นตะหวัดด้วยสีดำ ดูๆผ่านเหมือนเป็นภาษาจีนแปลกๆ แต่ดูอีกทีเหมือนเป็นภาพพญาอินทรีย์ หรือเหยี่ยวยังไงอย่างงั้น มารู้อีกทีว่าเป็นภาพวาดของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ก็เลยถึงบางอ้อ.. ภาพวาดระดับเทพมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ดูเผินๆเหมือนไม่มีอะไร..แต่ตั้งใจดูจะเห็นถึงความแปลกมากๆ

จากรูปของ อ.ถวัลย์ เราต้องซื้อตั๋วเข้าชมครับ ไม่แพงเลยคนละ 20บาทเอง เป็นการสนับสนุนให้หอศิลป์แห่งนี้ด้วยครับ เพราะที่นี่ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากใคร หรือองค์กรใดๆ เงินทุนการสร้างทุกบาททุกสตางค์เป็นของอ.วินัย ทั้งนั้น หากใครมีกำลังมากพอก็ซื้อไปเลยครับ  ถือว่าเป็นการสนับสนุนให้มีสถานที่ดีๆอย่างนี้นานๆขั่วลูกชั่วหลาน ผ่านประตูทางเข้ามามีภาพวาดมากมาย และหลากหลายสไตล์ ซึ่งดูเอเซียไม่รู้หรอกว่าแต่และชิ้น รูปแบบเค้าเป็นยังไง วาดด้วยเทคนิคอะไร สีเป็นสีแบบไหน ได้แต่เพียงชื่นชมความสวยงามแบบรวมๆ แต่สิ่งที่ได้มาเต็มๆคือความสุขตาและอิ่มใจ ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาเองแม้ว่าเราจะไม่เข้าใจในรูปที่เค้าได้วาดออกมาว่าเค้าสื่อถึงอะไร เยี่ยมเลยครับ..

ในชั้นแรกนี้ก็จะเป็นการแสดงนิทรรศการ ผลงานต่างๆของศิลปินท่านอื่นๆ ส่วนชั้นที่2 จะเป็นการแสดงผลงานของตัว อ.วินัย เอง แต่พอเราขึ้นบันไดมาจะพบกับภาพวาดที่พิเศษอยู่ภาพหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพที่สมเด็จพระเทพฯได้ทรงวาดด้วยฝีพระหัตถ์ ในครั้งที่ทรงเสด็จมายังหอศิลป์แห่งนี้ นอกจากมีภาพวาดแล้ว ด้านบนยังมีงานประติมากรรมจากฝีมืออ.วินัย อีกด้วย

นอกจากจะได้ชื่นชมผลงานทางศิลปะต่างๆแล้ว ด้านนอกอาคารจัดแสดง บริเวณติดแม่น้ำน่านยังมีอีกอาคารที่ขายของที่ระลึก อ.วินัย ตั้งชื่ออาคารนี้ไว้ว่า “เฮือนศรีนวล” ในบริเวณอาคารศรีนวลนี้มีที่ให้นั่งพักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำน่าน เราสามารถนั้งจิปกาแฟ หรือเลือกซื้อ เลือกชมสินค้าพื้นเมืองหรือของที่ระลึกได้ตรงนี้ครับ

แม้ผมจะไม่ใช่ศิลปินที่มองภาพศิลปะได้อย่างเข้าใจ แต่ก็อยากจะเป็นคนหนึ่งที่ได้ชื่นชมผลงานที่ศิลปินชั้นครูได้ปรุงแต่ง หรือสร้างสรรค์ขึ้นมา แต่ไม่ว่าศิลปินแต่ละท่านจะเป็นถึงขั้นเทพ ขั้นครู หรือเป็นเพียงแค่มือสมัครเล่น ผลงานทางศิลปะในแต่ละชิ้นย่อมมีคุณค่าในความรู้สึกของผู้บรรจงสร้างขึ้นมา เพียงแต่ว่าผู้เสพงานศิลป์จะมองเห็นและเข้าใจอย่างลึกซึ้งแค่ใหนเท่านั้นเอง…

    

หอศิลป์ริมน่าน

เป็นแหล่งเผยแพร่งานศิลปะร่วมสมัยและแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะแห่งหนึ่งที่สำคัญของประเทศไทยแม้จะเป็น หอศิลป์ของเอกชน ตั้งอยู่ ณ จังหวัดเล็กๆ ซึ่งห่างไกลจากกรุงเทพฯอันเป็นศูนย์กลางของประเทศในทุกด้านก็ตาม

สถานที่จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยแรงบันดาลใจและวิสัยทัศน์ของ  ศิลปินผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศไทย ชื่อ วินัย ปราบริปู ผู้ศึกษาด้านจิตรกรรมจากมหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันชั้นเยี่ยมทางศิลปเมื่อสำเร็จการศึกษาเขาได้ทุ่มเททำงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง ใช้ชีวิตคลุกคลีกับวงการศิลปะอยู่ในเมืองหลวงของประเทศกว่า 25 ปี รวมทั้งได้มีโอกาสศึกษาดูงานศิลปะของหอศิลป์สำคัญๆหลายแห่งทั้งในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา

หอศิลป์ริมน่านจึงก่อตั้งขึ้นด้วยทรรศนะและวัตถุประสงค์ที่ว่า

  1. เด็ก เยาวชน และประชาชนในจังหวัดเล็กๆ ควรได้โอกาสสัมผัสศึกษาเรียนรู้งานศิลปะอย่างกว้างขวางทั้งผลงานของศิลปินระดับชาติศิลปินชั้นเยี่ยม ศิลปินของภูมิภาค เช่นเดียวกับเด็ก เยาวชนและประชาชนในกรุงเทพฯ และมหานครในต่างประเทศ
  1. เด็ก เยาวชน และประชาชนในถิ่นล้านนาหรือภูมิภาคอื่นของประเทศได้มีโอกาสชื่นชมงานศิลปะร่วมสมัย เมื่อมาเยือนจังหวัดน่านดินแดนที่บริบูรณ์ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เชื่อมโยงกับการทัศนศึกษาศิลปวัฒนธรรมที่โดดเด่นมาแต่อดีตและเป็นที่ภูมิใจของชาวน่านมาช้านาน
  1. มีแหล่งเผยแพร่ผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินที่ตั้ง ณ สถานที่ที่กว้างขวาง มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม รื่นรมย์ อันจะเสริมสร้างกำลังใจแก่คนในวงการศิลปะทั่วประเทศ
  1. คนไทย หน่วยงาน องค์กรทุกภาคส่วนของประเทศตระหนักในคุณค่าแห่งศิลปะที่มีต่อชีวิตและสังคม ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้และเผยแพร่งานศิลปะ

การเปิดหอศิลป์ริมน่านอย่างเป็นทางการได้รับความกรุณาจาก ฯพณฯ ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรีเป็นประธานในพิธี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2547 หลังจากที่วินัย ปราบริปู

ได้ใช้เวลาประมาณ5ปี(พ.ศ.2541-2545)ทุ่มเทแรงกายแรงใจปรับปรุงพื้นที่ที่ซื้อจากญาติและออกแบบดูแลการก่อสร้างอาคารและตกแต่งสถานที่ในทุกมุมมองด้วยตนเองอีกเกือบ 1 ปี

ปัจจุบันบริเวณหอศิลป์ริมน่านมีอาคารแสดงนิทรรศการเป็นอาคารใหญ่ 1 หลัง และอาคารขนาดกลาง 1 หลัง ซึ่งเรียกว่าสตูดิโอ แกลลอรี่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน แวดล้อมร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานา มี

เรือนรับรอง 1 หลัง สำหรับรองรับกิจกรรมของหอศิลป์ริมน่าน เช่น ค่ายศิลปะเยาวชน และสำหรับญาติมิตรที่ต้องการพักค้างคืนเพื่อดื่มด่ำธรรมชาติและเสวนาเรื่องราวทางศิลปะให้เต็มอิ่ม

การจัดแสดงนิทรรศการที่ผ่านมาของหอศิลป์ริมน่าน

  • นิทรรศการ “ศิลปะนามธรรม กึ่งนามธรรม” โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงจำนวน 29 คน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 พฤศจิกายน 2547
  • นิทรรศการ “กลุ่ม 4 ทัศนะ” ศิลปินของกลุ่มได้แก่ สมภพ บุตราช ณัฐเลิศ สุภัทร์อกนิษฐ์ สิทธิโชค ก้อนนาค เสนีย์ แช่มเดช และมนต์ชัย ขาวสำอางค์ ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2547 – 30 มกราคม 2548
  • นิทรรศการ “แผ่นดิน ภูเขา แม่น้ำ ทะเล และท้องฟ้า” เพื่อร่วมเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ โดยมหาวิทยาลัยศิลปากร
  • นำศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินจำนวน 80 คน มาจัดแสดง ระหว่างวันที่ 4 – 25 กุมภาพันธ์ 2548
  • นิทรรศการ “ความประทับใจกับภาพเหมือนจริง” ศิลปินผู้มีชื่อเสียงร่วมแสดงจำนวน ๓๓ คน ระหว่างวันที่ ๒ มีนาคม 2548 – 29 มกราคม 2549
  • นิทรรศการ “ครูศิลป์แผ่นดินล้านนา ครั้งที่ 5” ศิลปินล้านนาร่วมแสดงจำนวน 100 คน ระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 – 30 เมษายน 2549

การดำเนินงานและกิจกรรมของหอศิลป์ริมน่านจะยั่งยืนสืบเนื่องสมกับที่ชาวจังหวัดน่านภูมิใจ และศิลปินไทยทั่วประเทศปลื้มใจตราบนานเท่านานหรือไม่อย่างไร

คำตอบย่อมอยู่ที่ความร่วมมือร่วมใจของชาวจังหวัดน่าน และสนับสนุนจากคนไทยทั่วประเทศที่รักงานศิลปะ รวมทั้งการส่งเสริมจากองค์กร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างแท้จริง

mapnan

การเดินทาง

จากตัวอำเภอเมืองน่าน ก็ขับรถขึ้นไปทางตอนเหนือของจังหวัด และเดินทางไปตามเส้นทางที่จะไป อ.ท่าวังผา  อ.ปัว  อ.ทุ่งช้าง  อ.เฉลิมพระเกียรติและในเส้นทางนี้ มีทางออกไปอีกหน่อย ก็ข้ามไปยัง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เลยครับ 

ขับรถไปเรื่อย ๆ จะพบเส้นทางที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติ 2 ข้างทาง…ถึง กม.ที่ 20  ก็จะถึง หอศิลป์ริมน่านแล้วครับ อยู่ทางด้านขวามือ (ตามแผนที่ข้างบนครับ)

เวลาเปิด – ปิด 09.00 – 17.00 น.

122 หมู่ 2 ต. บ่อ อ.เมือง จ. น่าน 55000

โทรศัพท์ 0-5479-8046 หรือ 08-1322-2912

หยุดทำการทุกวันพุธ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

 ค่าเข้าชม 20 บาท

ขอบคุณภาพ หอศิลป์ริมน่าน

เชิญแสดงความคิดเห็น