พระยาพิชัยดาบหัก ผู้กล้าแห่งเมืองอุตรดิตถ์

0

อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ประดิษฐานอยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ อำเภอเมือง อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อระลึกถึงเกียรติของพระยาพิชัยดาบหัก ในเรื่องความองอาจ กล้าหาญ รักชาติ และความเสียสละ อนุสาวรีย์แห่งนี้ สร้างขึ้นและทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2512 และหลังจากนั้นระหว่างวันที่ 7 – 13 มกราคมของทุกปี จะมีการจัดงานเพื่อระลึกถึงวีรกรรมของท่าน ซึ่งถือว่าเป็นงานประจำปีของจังหวัดเลยก็ว่าได้

the-phrayaphichaidaphak-memorial_4

phayapachai
ภาพนี้นำมาจาก wikipedia.org

พระยาพิชัยดาบหัก เดิมชื่อ จ้อย เกิดปี พ.ศ. 2284 ที่บ้านห้วยคา เมืองพิชัย จ.อุตรดิตถ์  เด็กชายจ้อยมีนิสัยชอบชกมวย  เมื่ออายุได้ 14 ปี บิดาได้นำไปฝากกับท่านพระครูวัดมหาธาตุ เมืองพิชัย  จ้อยสามารถอ่านออกเขียนได้จนแตกฉานเพราะเป็นคนขยันและเอาใจใส่ในตำราเรียน คอยรับใช้อาจารย์ และซ้อมมวยไปด้วย ทั้งหมัด เข่า ศอก และสามารถเตะได้สูงถึง 4 ศอก ในขณะที่เป็นเด็กวัดนั้นเขามักจะถูกกลั่นแกล้งจากเด็กที่โตกว่าเสมอ แต่ในระยะหลังจ้อยก็สามารถปราบเด็กวัดได้ทุกคนด้วยชั้นเชิงมวย

ต่อมาเจ้าเมืองพิชัยได้นำบุตร (ชื่อเฉิด) มาฝากที่วัดเพื่อร่ำเรียนวิชา เฉิดกับพวก มักหาเรื่องทะเลาะวิวาทกับจ้อยเสมอ จ้อยจึงตัดสินใจหนีออกจากวัดขึ้นไปทางเหนือ  จากนั้นจ้อยได้พบกับครูฝึกมวยคนหนึ่งชื่อ เที่ยง จึงฝากตัวเป็นศิษย์แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นทองดี ครูเที่ยงรักนายทองดีมากและมักเรียกนายทองดีว่านายทองดี ฟันขาว ด้วยความสุภาพเรียบร้อย และขยันขันแข็งเอาใจใส่การฝึกมวยช่วยการงานบ้านครูเที่ยงด้วยดีเสมอมา ทำให้ลูกหลานครูเที่ยงอิจฉานายทองดี เลยหาทางกลั่นแกล้งต่างๆ นานา นายทองดี ฟันขาว เห็นว่าอยู่บ้านแก่งต่อไปคงลำบาก ประกอบกับครูเที่ยงก็ถ่ายทอดวิชามวยให้หมดสิ้นแล้วจึงกราบลาครูขึ้นเหนือต่อไป

ทหารเอกแห่งพระเจ้าตาก เมื่อท่านเดินทางถึงเมืองตาก ขณะนั้นได้มีพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาที่วัดใหญ่ เจ้าเมืองตาก (พระเจ้าตากสินมหาราช) จัดให้มีมวยฉลอง นายทองดี ฟันขาว ดีใจมากเข้าไปเปรียบมวยกับครูห้าว ซึ่งเป็นครูมวยมือดีของเจ้าเมืองตาก และมีอิทธิพลมาก นายทองดี ฟันขาว ใช้ความว่องไวใช้หมัดศอก และเตะขากรรไกรจนครูห้าวสลบไป เจ้าเมืองตากจึงถามว่าสามารถชกนักมวยอื่นอีกได้หรือไม่ นายทองดี ฟันขาว บอกว่าสามารถชกได้อีก เจ้าเมืองตากจึงให้ชกกับครูหมึก ครูมวยร่างสูงใหญ่ ผิวดำ นายทองดี เตะซ้ายเตะขวา บริเวณขากรรไกร จนครูหมึกล้มลงสลบไป

 the-phrayaphichaidaphak-memorial_3 the-phrayaphichaidaphak-memorial_12 the-phrayaphichaidaphak-memorial_10

รูปปั่นไก่เยอะมากthe-phrayaphichaidaphak-memorial_50

เจ้าเมืองตากพอใจเป็นอย่างมาก และชักชวนให้ไปอยู่ด้วย นายทองดี ฟันขาว จึงได้ถวายตัวเป็นทหารของเจ้าเมืองตาก ตั้งแต่บัดนั้น รับใช้เป็นที่โปรดปราน ได้รับยศเป็น “หลวงพิชัยอาสา”  เมื่อเจ้าเมืองตากได้รับพระราชทานโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นพระยาวชิรปราการ ครองเมืองกำแพงเพชร หลวงพิชัยก็อาสาติดตามไปรับใช้อย่างใกล้ชิด และเป็นเวลาเดียวที่พม่ายกทัพล้อมกรุงศรีอยุธยา พระยาวชิรปราการพร้อมด้วยหลวงพิชัยอาสาและทหารหาญ ได้เข้าปะทะต่อสู้จนชนะ  พระเจ้าตากสินได้รับการต้อนรับจากประชาชนและยกย่องขึ้นเป็นผู้นำ เมื่อกอบกู้เอกราชได้แล้ว พระเจ้าตากสินขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองกรุงธนบุรีและได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้หลวงพิชัยอาสา เป็นเจ้าหมื่นไวยวรนาถ เป็นทหารเอกราชองครักษ์ในพระองค์

ภายหลังจากปราบศึกพม่าได้เมื่อปี พ.ศ. 2311 พระเจ้าตากสิน โปรดตั้งเจ้าหมื่นไวยวรนาถเป็น “พระยาสีหราชเดโช”  มีตำแหน่งเป็นายทหารเอกราชองครักษ์ตามเดิม จากนั้นเมื่อปราบก๊กพระเจ้าฝางได้ สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงโปรดเกล้าฯ บำเหน็จความชอบให้เป็นพระยาพิชัยปกครองเมืองพิชัยอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนแต่เยาว์วัย  พอสิ้นฤดูฝนปีมะเส็ง พ.ศ. 2316 โปสุพลายกกองทัพมาหมายตีเมืองพิชัยอีก “การศึกครั้งนี้พระยาพิชัยจับดาบสองมือคาดด้าย ออกไล่ฟันแทงพม่าอย่างชุลมุน จนเมื่อพระยาพิชัยเสียการทรงตัว ก็ได้ใช้ดาบข้างขวาพยุงตัวไว้ จนดาบข้างขวาหักเป็นสองท่อน”  จึงเป็นที่มาของชื่อพระยาพิชัยดาบหัก

หลังจากกราบนมัสการอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักแล้ว ในบริเวณอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ยังมี “พิพิธภัณฑ์ดาบเหล็กน้ำพี้ใหญ่ ที่สุดในโลก” เป็นที่เก็บรักษาดาบเหล็กน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนัก 557.8 กิโลกรัม ฝักดาบทำด้วยไม้ประดู่ ฝังลวดลายมุกหุ้มปลอกเงินสลักสลาย  ความเชื่อเรื่องอำนาจศักดิ์สิทธิ์เหล็กจากบ่อเหล็กน้ำพี้เป็นเหล็กที่มีความแกร่ง มีความเหนียวและเกิดสนิมยาก จากตำราพิชัยสงครามได้กล่าวไว้ว่า เหล็กน้ำพี้เป็นโลหะมหัศจรรย์อานุภาพ มีพลังในตัว มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ทุก ๆ อณู สามารถป้องกันคุณไสยและสิ่งเลวร้ายที่มองไม่เห็นด้วยตาดำได้ ปัจจุบันแร่เหล็กน้ำพี้ ถือว่าเป็นวัตถุมงคล โดยเชื่อกันมาแต่โบราณว่าเหล็กน้ำพี้อยู่ในตระกูลเดียวกันกับเหล็กไหล เมื่อจะนำไปใช้งานต้องตั้งศาลบวงสรวงขออนุญาตจากเจ้าพ่อที่ดูแลปกปักษ์รักษาเสียก่อน จึงจะทำการขุดหรือตัดเหล็กไปใช้งานได้

the-phrayaphichaidaphak-memorial_19the-phrayaphichaidaphak-memorial_40 the-phrayaphichaidaphak-memorial_21the-phrayaphichaidaphak-memorial_39

ดาบเหล็กน้ำพี้ใหญ่ที่สุดในโลก
the-phrayaphichaidaphak-memorial_24 the-phrayaphichaidaphak-memorial_25 the-phrayaphichaidaphak-memorial_27

คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์แร่เหล็กที่ได้จากบ่อเหล็กน้ำพี้นั้น เป็นแร่เหล็กกล้าที่มีโครงสร้างระดับโมเลกุลที่ประกอบด้วยธาตุคาร์บอนหลากหลาย ทำให้เมื่อนำมาเผาและตีทำมีดจะได้มีดที่แข็งแกร่งทนทานกว่าที่ทำจากแร่เหล็กทั่ว ๆ ไป จากการพิสูจน์ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ของภาควิชาวิศวกรรมโลหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก พบว่าแร่เหล็กน้ำพี้มีองค์ประกอบของแร่ธาตุที่หาได้ยาก เป็นแร่เหล็กที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว มีความแข็งและเหนียวเป็นพิเศษ มีคุณลักษณะอ่อนในแข็งนอก และยืนยันว่าแหล่งแร่เหล็กที่ตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นแหล่งแร่เหล็กที่มีคุณภาพดีที่สุดของประเทศไทย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติดีเยี่ยมไม่แพ้เหล็กกล้าชั้นดีของต่างประเทศ

จากที่ดูเอเซียไปเที่ยวมาครั้งนี้ความรู้สึกที่ได้รับคือ ความเสียสละ ความกล้าหาญ และสิ่งสำคัญคือ ความรักชาติมากกว่าชีวิตของตัวเอง อยากให้คนไทยปัจจุบันนี้รู้สึกอย่างนี้จัง กว่าจะมาเป็นไทยได้มันลำบากจริงๆ แล้วเราแค่สามัคคีกันแค่นี้เพื่อชาติไม่ได้หรือ การเที่ยวเมืองอุตรดิตถ์ครั้งนี้ได้ทั้งความสนุก ได้ทั้งความรู้ ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสก็อย่าพลาดที่จะมาเที่ยวนะครับ

เชิญแสดงความคิดเห็น