การเดินทางอันแสนไกลสู่น้ำตกวังเหว

0

เรื่องราวของฝนที่ตกลงมาอย่างเต็มที่จะเปิดให้โลกการท่องเที่ยวได้ดำเนินไปตามช่วงเวลา การล่องแก่งในแม่น้ำธรรมชาติก็เกิดขึ้น การเที่ยวชมน้ำตกก็มีขึ้น ความสวยความสดชื่นของป่าจะดีกว่าช่วงเวลาอื่นๆ เช่นเดียวกับที่เราได้เลือกช่วงเวลาฤดูฝนได้เข้าไปสำรวจน้ำตกกลางป่าลึกในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็คือ “น้ำตกวังเหว” ซึ่งเป็นน้ำตกที่ซ่อนเร้นอยู่ในป่าลึกมาก

big

ถึงปีนี้เราได้ค้นหาข้อมูล และได้เลือกหาน้ำตกวังเหว เป็นเส้นทางเดินป่าที่ต้องไปชมกันสักครั้ง  โดยมีข้อมูลการเดินทางที่ชัดเจน และมีข้อมูลติดต่อท่องเที่ยวที่เป็นรูปแบบ โดยกลุ่มชาวบ้านร่วมมือกับทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นตัวหลักในการพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวน้ำตกวังเหว พร้อมกับมีมาตรการที่ชัดเจนมากขึ้น

นี่คือ ที่เราทราบมาจากผู้พันศักดิ์ศิลป์ เทพกลาง ผู้ประสานเกี่ยวกับท่องเที่ยวในพื้นที่ทางด้านนี้ ซึ่งมีหน่วยฯ คลองปลากั้ง  อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่าสู่น้ำตกวังเหว แต่ถ้าเป็นเส้นทางเดินจากแก่งหินเพิง ก็จะดูโหดหินไปสักหน่อย เป็นเส้นทางที่ยากกว่าทางหน่วยฯ คลองปลากั้งเสียอีก

wanghuew_01 wanghuew_02

สำหรับการเดินทางสู่หน่วยฯ คลองปลากั้ง นั้นก็ไม่ยาก ใช้เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ ด้านปากช่อง ก่อนถึงด่านเก็บเงิน จะมีทางแยกซ้าย  ไปอำเภอวังน้ำเขียว มีป้ายบอกทางไปชมฝูงกระทิงที่คลองปลากั้งอย่างชัดเจน

เราได้เดินทางสู่หน่วยฯ คลองปลากั้งตั้งแต่ตอนกลางคืน เพื่อใช้เวลาที่เหลือพักผ่อน ก่อนออกเดินป่าในเช้าวันรุ่งขึ้น ซึ่งทาง ผู้พันศักดิ์ศิลป์ เทพกลาง ได้ติดต่อคนนำทางและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากทุกอย่างพร้อมสรรพ ก็ต้องใช้รถไปส่งที่เชิงเขา เพื่อร่นระยะทางเข้าไปอีก

wanghuew_06 wanghuew_07 wanghuew_08

แนวเทือกเขากำแพงที่ทอดตัวยาวประดุจดังกำแพงที่ปิดกั้นแนวป่ากับเขตชุมชนไว้อย่างชัดเจน เราต้องเดินขึ้นไปยังสันเขาด้านบนซึ่งเป็นทางราบ แต่ก่อนถึงจุดนั้น ก็ต้องผ่านเส้นทางที่สูงชันไม่น้อยเช่นกัน

เม็ดเหงื่อเริ่มไหลรินจนเสื้อเปียกชุ่ม สองเท้าก็ย่างก้าวเดินอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายแรกก็คือ ต้องผ่านเส้นทางชันไปให้จนถึงลานที่ราบบนยอดเขา ซึ่ง พี่เหม็ง มัคคุเทศก์รูปหล่อผิวเข้มที่จะพาเราไปชมทุ่งดอกเอื้องม้าวิ่ง ที่เขาบอกว่าช่วงนี้กำลังผลิบานเต็มที่ ซึ่งอยู่บนลานหินบนหลังเขา ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญนำทางไปหา

เอาเป็นว่าเราต้องตามรอยลูกพี่เหม็งไปยังลานดอกไม้ ก็เป็นจังหวะเดียวที่ถึงเวลาประมาณเที่ยง จึงได้หยุดที่ลานหินเพื่อทานข้าวเที่ยง และถ่ายภาพดอกเอื้องม้าวิ่งที่ผลิบานชูช่อเต็มกอ อวดสีสันจัดจ้านกระจายอยู่ตามลานหิน  แต่ถ้าเป็นสมัยก่อน ถูกเก็บไปขายจนเหลือบางตา แต่เดี๋ยวนี้กระแสความนิยมการเก็บกล้วยไม้ป่าได้ลดน้อยลงไป ผู้คนในท้องถิ่นได้ตระหนักเห็นถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่คู่กับป่า เก็บไปขายก็ได้หนเดียว แต่ถ้าไม่เก็บไป แล้วมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากๆ ผลประโยชน์ทั้งหลายทั้งปวงก็ตกอยู่ที่ชุมชนหรือท้องถิ่นนั้นๆ ไปเอง

wanghuew_12 wanghuew_14

ต่อจากนั้นก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป ระยะทางที่ยาวไกล  น่าจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง แม้จะเป็นเส้นทางราบ แต่มันไกลมากๆ พวกก็เร่งฝีเฝ้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ผ่านป่าใหญ่แล้วผ่านลำห้วยน้อยๆ ก็พอแวะพักเหนื่อยได้บ้าง

ขนาดว่ามาถึงลำห้วยใหญ่กลางป่าทึบ ได้ยินเสียงน้ำไหลดังครืนโครม แต่ก็หาใช่น้ำตกวังเหวไม่ ทำให้เราต้องเดินกันต่อไปอีกเป็นชั่วโมง แล้วเดินปาต้นเสียงน้ำตกที่ดังลั่นอยู่อีกไกลตา

กว่าจะถึงเป้าหมายที่พักในบริเวณน้ำตก ก็ประมาณ 5 โมงเย็น เราจึงเลือกทำเลที่พักในบริเวณริมน้ำเหนือน้ำตกวังเหวมาเล็กน้อย

ช่วงเย็นเราขอเก็บภาพฝูงผีเสื้อหางติ่งปารีส ที่รวมฝูงใหญ่ ดูดกินแร่ธาตุอยู่บนหาดทราย พวกเราค่อยๆ ย่องไปใกล้ๆ แล้วบันทึกทั้งฝูงใหญ่ ฝูงเล็ก รวมไปถึงการถ่ายมาโครเฉพาะตัว  แต่ละคนต่างไม่ให้โอกาสที่ดีหลุดลอยหรือบินไป ผีเสื้อบางตัวใจดี ปล่อยให้เรากดชัตเตอร์อย่างไม่ยั้ง

สายน้ำจากห้วยไสใหญ่ที่เกิดจากใจกลางป่าเขาใหญ่ได้ไหลผ่านชั้นหน้าผาหินสูงใหญ่ จนเกิดเป็นภาพน้ำตกที่เรียกนามว่า “น้ำตกวังเหว” ถึงวันนี้เราก็ได้เดินทางบนเส้นทางย้อนอดีตที่ยาวไกล และได้มาสัมผัสด้วยตนเอง วันรุ่งขึ้นเราจะเก็บบันทึกภาพสายน้ำที่สวยงามแห่งนี้

wanghuew_17

น้ำตกวังเหวwanghuew_18wanghuew_20wanghuew_11

ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย เราได้เลือกหามุมถ่ายภาพน้ำตกวังเหว ด้วยการเดินเลาะมาทางด้านข้าง ก็จะเห็นเหลี่ยมชั้นน้ำตกวังเหวที่ไหลแผ่กว้างไปตามแนวความกว้างของลำน้ำ พร้อมกับมีชั้นเหลี่ยมน้ำตกเล็กๆ ทำให้สายน้ำไหลแยกลดหลั่นลงมาสวยงาม โดยเฉพาะโขดหินใหญ่ตรงกลางน้ำตกจะเป็นเหลี่ยมมุมที่สวยงาม

การเดินเลาะตามโขดหินหน้าน้ำตก ค่อนข้างจะลื่น แม้ทางมีอุปสรรคแค่ไหน เราพยายามข้ามลำน้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อเก็บเกี่ยวภาพสายน้ำ ทำให้เราได้เห็นภาพความกว้างของน้ำตกวังเหวที่ไหลหลากล้นผาออกมา เกิดเป็นน้ำตกที่มีความงดงาม คุ้มค่าการเดินป่าที่ยาวไกล

ข้อมูลที่น่าสนใจของน้ำตกวังเหวก็ยังมีจุดเด่นที่ควรติดตาม คือ รอยเท้าไดโนเสาร์บนลานหินที่อยู่ทางตอนล่างน้ำตกวังเหวไปอีกประมาณ  1 กิโลเมตร แต่ด้วยเงื่อนไขของเวลาเราจึงไม่มีโอกาสไปสำรวจ อีกทั้งแท่งหินรอยเท้าไดโนเสาร์บางก้อนถูกน้ำป่าพัดหลุดไปจากที่เดิม

ช่วงเวลาตอนสายๆ เราก็เก็บข้าวของเดินทางกลับมายังหน่วย ขญ..4 คลองปลากั้ง และยังพอไปแอบชมกระทิงที่ทางหน่วยเขาจัดหอคอยเฝ้าชมกระทิง ที่มีระยะห่างจากทุ่งหญ้าที่กระทิงลงมากินหญ้าไม่มากนัก 

เห็ดถ้วยพบตามป่าชื้นwanghuew_23

wanghuew_24 wanghuew_25

ไกด์ท้องถิ่นwanghuew_03

ไกด์ท้องถิ่นบอกว่าบางวันจะรวมกันเป็นฝูงใหญ่ 10 กว่าตัว บางวันก็ไม่ถึง แต่โอกาสที่จะได้เห็นกระทิงนั้นค่อนข้างสูง ออกมากินหญ้าทุกวัน แต่หากเป็นช่วงต้นฝนที่หน่อไม้แทงหน่ออกมา  บรรดาเหล่ากระทิงจะขึ้นเขาเข้าป่ากินหน่อไม้ อันเป็นอาหารที่เกิดตามห่วงโซ่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่มีความสมบูรณ์

ท้ายที่สุดของทริปการเดินทางไกลสู่น้ำตกวังเหวที่เราได้พิสูจน์ถึงความงามบริสุทธิ์กลางพงไพรของป่าเขาใหญ่ ซึ่งฤดูฝนปีนี้จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของสายน้ำตก แม้ว่าระยะทางจะแสนไกล แต่เราก็ไปถึง

ข้อมูลการเดินทาง

กรุงเทพฯ-สระบุรี-ปากช่อง เลี้ยวขวาตามถนนขึ้นเขาใหญ่ เมื่อถึงสามแยกบ้านท่ามะปราง ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนน น.ม.3052 โป่งตาลอง วังหมี บุเจ้าคุณ เป็นเส้นทางเดียวกับไป อ.วังน้ำเขียว  เมื่อถึงบ้านบุเจ้าคุณ ก็จะมีป้ายบอกทางเข้าไปยัง หน่วยฯ ขญ.4  คลองปลากั้ง

การติดต่อ

ไม่ว่าจะติดต่อชมกระทิง หรือเส้นทางเดินป่าน้ำตกวังเหว  สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ พ.ต.ท.ศักดิ์ศิลป์ เทพกลาง ประธานชมรมอาสาสมัครพิทักษ์กระทิงมัคคุเทศก์ ต.วังหมี โทร. 089-838-6022 

การเตรียมตัว

เนื่องจากเส้นทางเดินป่าสายน้ำตกวังเหว ต้องเป็นช่วงฤดูฝนเท่านั้น  ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมอุปกรณ์เที่ยวป่าหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นเปล เต็นท์ ฟลายชีท เสื้อกันฝน อุปกรณ์กันฝนประเภทต่างๆ และควรมียาทากันยุงติดไปด้วย

ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม

เส้นทางเดินป่าน้ำตกวังเหว ควรเลือกช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จนถึงเดือนตุลาคม จะมีสายน้ำที่สวยงาม และมีดอกไม้ให้ชมด้วย ช่วงเวลาเดินป่า ควรเป็น 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน จะไม่เร่งรีบมาก

เชิญแสดงความคิดเห็น