นั่งเรือไหว้พระ 3 วัด

0

วันนี้ดูเอเซียดอทคอมพาเพื่อนๆมาอิ่มบุญกันแบบไม่มีอั้น โดยการพาไปตระเวนไหว้พระ 3 วัด แบบชิวๆภายใน 1 วัน การเดินทางวันนี้จะมาแบบไม่ต้องทนรถติด เริ่มจากลงเรือข้ามฟากที่ท่าปากคลองตลาดขึ้นท่าวัดกัลยาณมิตร และแล้วก็มาถึงจุดหมายปลายทาง

วัดแรกจะพาไปไหว้พระ ที่วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ที่แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างขึ้นเมื่อสมัยราชกาลที่ 3 เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า “หมู่บ้านกุฎีจีน” สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2368 และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระราชทานนามว่า “วัดกัลยาณมิตร” และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง ที่อยุธยาหลวง พ่อโตเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอกคืบ สูง 7 วา 2 ศอกคืบ 10 นิ้วพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชทานช่วยเจ้า พระยานิกรบดินทร์ เสด็จก่อพระฤกษ์เมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2380 อยู่ภายในพระวิหารขนาดใหญ่อยู่กลางวัด ตรงกลางระหว่างวิหารเล็กและพระอุโบสถ

พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (ป่าเลไลย์) ซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงสร้างพระราชทาน เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ 3 และยังมีหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 4 หน้าวิหารหลวงเป็นหอระฆังที่เพิ่งสร้างใหม่ เก็บระฆังยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

วัดแรกก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับดูเอเซียดอทคอมเป็นอย่างมากแล้ว เพราะไหนจะความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างแล้วยังได้มานมัสการหลวงพ่อโต ที่เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกด้วย แต่อย่าได้รอช้า ดูเอเซียดอทคอมขอพาเพื่อนๆเดินทางไปยังวัดต่อไปนั่นก็คือวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารหรือวัดแจ้งโดยการเดินทางสามารถนั่งเรือที่อยู่บริเวณหน้าวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ซึ่งจะมีเรือที่รับจ้างไปส่งวัดต่างๆ รวมไปถึงวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร โดยราคาโดยสารจะตกที่ท่านละประมาณ 20 30 บาท แต่จากที่ดูเอเซียดอทคอมได้สังเกตตามป้ายจะมีบริการไหว้พระ 3 วัด ค่าบริการอยู่ที่ 100 บาท

 

เมื่อมาถึงยังวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารหรือวัดแจ้ง ดูเอเซียดอทคอมก็ได้มาเห็นความยิ่งใหญ่ของพระมหาเจดีย์ที่ตั้งตระง่า แสดงความยิ่งใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นอยู่บริเวณด้านหน้าวัด และสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งก็คือยักษ์วัดแจ้งที่ใครหลายๆคนอาจจะคุ้นหูกันดี ลักษณะจะเป็นรูปยักษ์ยืน หน้าประตูซุ้มยอดมงกุฎมี 2 ตัว มือทั้งสองกุมกระบองยืนอยู่บนแท่น สูงประมาณ 3 วา ยักษ์ที่ยืนด้านเหนือ (ตัวขาว) คือ สหัสเดชะ ด้านใต้ (ตัวเขียว) คือ ทศกัณฐ์ ปั้นด้วยปูน ประดับกระเบื้องเคลือบสีเป็นลวดลายรูปลักษณะและเครื่องแต่ตัว รูปยักษ์คู่นี้เป็นของทำขึ้นใหม่ ที่ทำไว้เก่าสมัยรัชกาลที่ 3 ข้างยักษ์ตัวด้านเหนือ มีสิงโตหิน 3 ตัว และข้างตัวด้านใต้มีสิงโตหินอีก 3 ตัวเช่นเดียวกัน. ตัวยักษ์สวยงามลักษณะเดียวกันกับที่วัดพระแก้ว ตามตำนานบอกว่าเป็นฝีมือช่างคนเดียวกัน

เมื่อทำการสำรวจวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารหรือวัดแจ้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดูเอเซียดอทคอมก็เดินทางต่อไปยังวัดระฆัง โดยนั่งเรือที่อยู่บริเวณหน้าวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารหรือวัดแจ้ง

วัดสุดท้ายที่ดูเอเซียดอทคอมพาเพื่อนๆ มาปิดท้ายก็คือวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารหรือเรียกสั้นๆว่าวัดระฆัง เป็นวัดที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีหอพระไตรปิฎกซึ่ง เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก ซึ่งความสวยงามของหอพระไตรปิฎกของวัดระฆังเป็นสถานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้นักท่องเที่ยวจากหลายๆที่ต้องการที่จะเข้ามาดูความงดงามด้วยตาของตนเอง

มาถึงวัดระฆัง ดูเอเซียดอทคอมก็ขอตีระฆังให้ครบทุกใบ เพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง การมาทริบนี้เป็นการมาที่ได้ความอิ่มเอมใจเป็นอย่างมาก ทั้งการได้กราบไหว้เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในหลายๆที่ แถมยังได้เพลินตากับสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ไม่ซ้ำกัน แถมเป็นการทำบุญแบบสบายๆ ไม่ต้องรีบเพราะทั้ง 3 วัดที่ดูเอเซียดอทคอมพาเพื่อนๆมา อยู่ใกล้ๆกันทำให้ไม่เสียเวลาในการเดินทางเรือที่ให้บริการก็มีอยู่ตลอดทำให้ไม่ต้องเร่งในการเดินเที่ยวชมในบริเวณวัดของแต่ละวัด

 

การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถประจำทาง สาย 40, 57, 149, ปอ. 177 หากเดินทางโดยเรือใช้บริการข้ามเรือข้ามฟากที่ท่าเรือปากคลองตลาด มาท่าเรือวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร และ เมื่อจะไปไหว้พระอีก 2 วัดที่อยู่ทางฝั่งธนฯ คือวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารหรือวัดแจ้ง และ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือโดยสาร เพื่อนั่งไปมาระหว่างวัด 3 วัดนี้ได้ ราคาประมาณ 20-30 บาท ต่อคน  หรือจะมีให้บริการพาไหว้พระ 3 วัด ค่าบริการอยู่ที่ 100 บาท

จบทริปบุญกันแล้ว วันนี้เพื่อนๆ คงได้โปรแกรมเที่ยวใหม่ๆ ที่เดินทางได้สะดวก ไม่ไกล แถบยังประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมใดๆ ค่าเรือก็แสนจะถูกทำให้เดินทางได้คล่องตัว มากกว่าเดิมอีกทั้งได้ชมบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย มีเวลาก็ลองไปเที่ยวกันดูนะคะ

เชิญแสดงความคิดเห็น