ถ้ำเขาหลวง เขาหลวง

0

ถ้ำเขาหลวง เที่ยวถ้ำเขาหลวง ขึ้นไปชมวิวบนยอดมอ มุมมองใหม่เมืองเพชรบุรี

เมื่อครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 3 สุนทรภู่ได้เดินทางมาเที่ยวเมืองเพชร และเคยแวะเที่ยวถ้ำเขาหลวง ได้กล่าวชมถ้ำเขาหลวง ว่ามีหินงอก หินย้อยที่สวยงามตระการตา ในนิราศเมืองเพชร

ครับ….ทริปนี้ ดูเอเซีย.คอม จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่ เขาหลวง แหล่งท่องเที่ยวที่มีประวัติมายาวนานและถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกที่หนึ่งของเพชรบุรี ซึ่งภายในจะมีถ้ำเรียกกันว่าถ้ำ   เขาหลวงซึ่งงดงามด้วยหินงอกหินย้อยและโบราณสถานต่างๆ ถ้ำเขาหลวงนี้มีชาวไทย ชาวต่างประเทศ นิยมมาเที่ยวกันนานนับร้อยปีแล้ว ซึ่งมีบันทึกของชาวยุโรปและภาพปรากฏในงานพิมพ์ของอังรี มูโอ นักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมายังไทย ลาว กัมพูชา แล้วกลับไปตีพิมพ์ไว้เมื่อ พ.ศ.2407 ถ้ำเขาหลวงนี้สุนทรภู่ได้เคยมาเที่ยวและเล่าไว้ในนิราศเมืองเพชรด้วย

เขาหลวง เป็นภูเขาขนาดเล็ก มียอดสูงสุดเพียง 92 เมตร แต่สามารถขึ้นไปบนยอดเขาที่เรียกกันว่า ยอดมอ จะมองเห็นวิวเมืองเพชรได้ชัดเจน ภายในมีถ้ำเขาหลวงมีหินงอกหินย้อย สีสันสวยงาม มีอากาศเย็นสบาย ไม่อับชื้น มีปล่องที่แสงอาทิตย์สามารถส่องเข้ามาภายในถ้ำได้ ทำให้สวยงามยิ่งขึ้น สำหรับถ้ำเขาหลวง ถือเป็นถ้ำใหญ่และสำคัญที่สุดในเมืองเพชร ในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปฉลองพระองค์อันสำคัญยิ่ง ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างถวาย พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ถ้ำเขาหลวง ตั้งอยู่ที่อยู่บนเขาหลวง ห่างจากเขาวังประมาณ 5 กิโลเมตร อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเพชรบุรีมากนัก จากเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองเพชรบุรี เลี้ยวซ้ายหน้าศาลหลักเมือง ตามทางหลวงหมายเลข 3173 ขับรถเข้าไปสัก 2-3 กิโลเมตรเห็นจะได้ ก็จะเห็นทางขึ้นถ้ำเขาหลวง ทางขึ้นชันนิดหน่อย แต่ก็ช่วงระยะสั้นๆ เท่านั้น ข้างบนจะมีลานจอดรถกว้างขวาง มีร้านค้าขายของ 3-4 ร้าน ใครจะให้อาหารลิง(ลิงที่นี่มีเยอะ) ก็หาซื้อได้ที่ร้านค้า

จากลานจอดรถทางเดินขึ้นไปเที่ยวถ้ำเขาหลวงจะเป็นบันไดปูน ทำเป็นขั้นเดินขึ้นไปชมได้สะดวก เดินไม่ไกล ช่วงระหว่างเราเดินขึ้นไป ก็ได้ยินเสียงชาวบ้านคนหนึ่งว่า อยากได้มัคคุเทศก์ไหมครับเป็นเด็กนักเรียนมาหาเงินในช่วงปิดเทอมหรือเสาร์-อาทิตย์ โดยบอกว่ามาหาเงินช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว พอเราฟังแล้วอยากจะช่วย เพราะรู้จักช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ซึ่งก็พูดเก่งใช้ได้ทีเดียวจะคอยเล่ารายละเอียดภายในถ้ำให้ฟัง ค่าบริการก็แล้วแต่จะให้ครับ บรรยากาศรอบๆ จะมีต้นลั่นทมปลูกเรียงรายดูแล้วร่มรื่นดี และช่วงระหว่างเดินมีลิงหลายตัวห้อยโหนกระโดดเล่นไปมา มองแล้วก็ทำให้เพลิดเพลินตาเพลินใจไม่น้อย

พอเดินมาถึงปากถ้ำ ต้องเดินลงบันไดที่ค่อนข้างชันนิดหน่อย ลักษณะเป็นบันไดปูนมีขั้นบันไดทั้งหมด 99 ขั้น(มัคคุเทศก์เขาบอก) เดินลงไปก็ไม่บากมากเท่าไหร่นัก แต่ก็เหนื่อยพอสมควรเหมือนกัน ลงไปถึงด้านล่าง ก็จะเห็นห้องโถงแรก เห็นแล้วรู้สึกหายเหนื่อยครับ เพราะเห็นหินงอก หินย้อย ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ดูแล้วงดงามตระการตาจริงๆ

ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปและสถูปเจดีย์น้อยใหญ่เรียงรายอยู่เต็มไปหมด ประวัติเล่าไว้ว่า รัชกาลที่ 4 เสด็จมาพร้อมโอรส 2 พระองค์ และโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ ร่วมกันสร้างพระ และทรงบูรณะ เช่น สร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง จากนั้นรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาบูรณะต่อ แล้วพระราชทานนามว่า วิมานจักรี ปัจจุบันมีพระพุทธรูปในถ้ำรวม 170 องค์ มีเจดีย์ในถ้ำ 6 องค์

ภายในถ้ำ มีพระพุทธบาทจำลอง มีหินที่เกิดจากน้ำหยดลงมาเป็นรูปเหมือนหัวช้างซึ่งมีลักษณะที่เหมือนหัวช้างมากๆ ถูกแต่งเดิมแค่ตากับหูเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจแก่ผู้ที่พบเห็นอยู่เหมือนกัน บริเวณนี้หินงอกหินย้อยสวยงามมาก อากาศในถ้ำไม่อึดอัดอย่างที่คิดกลับเย็นสบายอีกต่างหาก มัคคุเทศก์น้อยบอกว่าหินย้อยบางก้อนถูกคนลักตัดเอาไปซึ่งก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีเลย

เดินต่อไปอีกหน่อยจะมีพระพุทธรูปเรียงรายรอบห้อง ด้านบนเพดานถ้ำจะมีปล่องช่องแสงที่ให้แสงสว่างที่ลอดส่องลงมาถ้าสังเกตดีๆจะเป็นรูปหัวใจ ซึ่งก็สวยงามมากเลยทีเดียว มีพระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ลงมาเที่ยวถ้ำ จะมากราบไหว้บูชา มีธูปเทียนจำหน่ายให้นำไปบูชา มีพระนาคปรก และที่ฐานองค์พระประธานพระพุทธรูปปางมารวิชัยยังมีตราประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 1-5 จารึกไว้ด้วย

หลังจากเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ แล้ว เราก็เข้าไปมนัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในถ้ำรู้สึกว่าอิ่มเอิบใจมากหลังจากนั้นก็เดินเที่ยวชมความงามภายในถ้ำเขาหลวงได้สักพักมัคคุเทศก์น้อยบอกว่านอกจาก ถ้ำเขาหลวงแล้วที่นี่ยังมีที่เที่ยวอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปเที่ยวเพราะทางขึ้นค่อนข้างลำบากพอสมควร ดูเอเซีย เราได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็อดสงสัยที่จะถามไม่ได้ว่าที่ไหนเหรอ มัคคุเทศก์น้อยบอกว่า เขาเรียกกันว่า ยอดมอ มันเป็นยอดเขาที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ ของจังหวัดเพชรบุรีได้ชัดเจนเลยทีเดียว ด้วยความที่อยากเห็นบวกกับความเป็น ดูเอเซีย ของเราก็อดใจไม่ได้ที่จะขึ้นไปดูให้เห็นกับตา  เราเลยบอกกับน้อง มัคคุเทศก์ ว่าพาพี่ขึ้นไปดูหน่อย

ด้วยความที่อยากจะเห็น ยอดมอ ว่าเป็นยังไง ช่วงขาขึ้นออกไปจากปากถ้ำ ก็เลยรีบไปหน่อยเล่นเอาหอบแฮกๆ ไปสองสามหอบเลยครับ พอเดินออกมาจากถ้ำลงมาเกือบถึงลานจอดรถ มัคคุเทศก์น้อยก็เดินเลี้ยวซ้ายนำทางขึ้นไป ยอดมอทันที ลักษณะทางเดินขึ้นไปยอดมอเป็นทางเดินเท้าที่ค่อนข้างลำบากพอสมควร เพระต้องผ่านป่าแต่ก็พอมีร่องรอยเป็นทางเท้าขึ้นไปข้างบน ส่วนมากจะมีแต่พระหรือแม่ชีที่ต้องการความสงบ ขึ้นไปนั่งกรรมฐานกัน เราใช้เวลาในการเดินทางประมาณสัก ครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้เล่นเอาเหนื่อยพอสมควรแต่ก็ยังดีที่เชื่อคำของมัคคุเทศก์น้อยให้พกน้ำดื่มขึ้นมาด้วยไม่งั้นงานนี้แย่แน่ๆครับ

พอขึ้นมาถึง บริเวณข้างบนยอดมอ ก็รู้สึกหายเหนื่อยครับเพราะข้างบนนี้บรรยากาศดีมากๆมีลมผัดเย็นสบาย มองเห็นวิวทัศน์ของเมืองเพชรบุรีได้ชัดเจนเลยทีเดียว โดยเฉพาะเขาวัง จุดนี้มองเห็นได้ชัดเจนมาก ซึ่งก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่เราหรือแม้แต่คนเพชรบุรีเองก็ยังไม่ค่อยมีโอกาสที่จะขึ้นมาเห็น ถือว่าเป็นอีก ทริปหนึ่ง ที่ ดูเอเซีย.คอม มาเที่ยวแล้วรู้สึกประทับใจนอกจากจะมาเห็นมุมมองแปลกใหม่แล้วยังจะมาเจอผู้คนที่มีน้ำใจและมิตรไมตรีที่ดีอย่างน้องๆมัคคุเทศก์น้อยเหล่านี้ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจในความเก่งและความรักที่จะเผยแพร่สิ่งดีๆในจังหวัดของตัวเองให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึกประทับใจและอยากจะพาเพื่อนๆและครอบครัวมาเที่ยวอีกในครั้งต่อไป

การเดินทางมาถ้ำเขาหลวง ใช้เส้นทางจากถนนเพชรเกษมเก่า(ทางเข้าตัวเมืองเพชรบุรี) แล้วเลี้ยวซ้ายหน้าศาลหลักเมือง ตามทางหลวงหมายเลข 3173 ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงทางขึ้นถ้ำเขาหลวง มีสถานที่จอดรถสะดวกสบาย เพชรบุรีอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯ มีสถานที่เที่ยวในตัวเมืองหลายแห่ง แถมยังมีของกิน อร่อย ๆ หากินได้เยอะแยะ รวมทั้งของฝากมากมายที่จะหิ้วกลับไปฝากเพื่อนๆหรือ คนที่รัก เช่นขนมอร่อยที่ลือชื่อ อย่างขนมหม้อแกง ที่นี่ก็มีมากมายหลายเจ้าให้เลือกล้วนแล้วแต่อร่อยๆกันทั้งนั้น ดูเอเซียขอแนะนำแนะครับ มาเพชรบุรีไม่ผิดหวังแน่นอนครับ เจอกันใหม่ในทริปหน้าคอยดูนะครับว่าดูเอเซีย.คอมจะพาไปเที่ยวกันที่ไหนติดตามกันได้นะครับ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีคร๊าบ

ขอบคุณภาพ เขาหลวงมรดกล้ำค่าคู่เมืองเพชร

เชิญแสดงความคิดเห็น