ตะลอนไปปาย

0

เมืองปาย เมืองน่าเที่ยวในหน้าหนาว หรือหากจะเปรียบเปรย เมืองปายก็เป็นเหมือนเมืองในฝันแหละครับ หลายๆคนอาจจะไปเที่ยวที่ปายบ่อยแทบจะทุกปี หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยไป แต่วางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวในช่วงสิ้นปีนี้ วันนี้ดูเอเซียเลยจะขออาสาพาไปที่เมืองปายก่อนที่ท่านๆจะลงสนามจริงละกันจุดเริ่มต้นการเดินทางของดูเอเซียอยู่ที่จ.เชียงใหม่ ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่-แม่ริม-แม่มาลัย-อ.ปาย รวมระยะทางก็ประมาณ 160 กิโลเมตร สภาพถนนที่คดเคี้ยวไปตามสันเขาที่ใช้ในการเดินทางเข้าสู่เมืองปาย ณ วันนี้ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไร ใครที่เคยขับมาแล้วเส้นทางก็ยังคงเหมือนเดิมรถเก๋งวิ่งได้แบบชิวๆครับ หากเป็นมือใหม่ที่เพิ่งจะเคยมา หรือเป็นสิงห์ทางเรียบในเมืองก็ให้ระวังบางโค้งที่เป็นโค้งหักศอก และให้ระวังรถที่จะวิ่งสวนมาระหว่างโค้งด้วยนะครับ ในโค้งบางโค้งก็ให้ระวังผิวถนนที่ไม่เรียบด้วย หากมาเร็วเข้าโค้งหนักๆก็อาจจะทำให้รถเสียหลักได้นะครับ

การขับขี่ของดูเอเซียในครั้งนี้ก็สบายๆครับ เพราะมาบ่อยมาทุกปี เส้นทางก็พอจะคุ้ยเคยแล้ว ทำให้การเดินทางสู่ปายในวันนี้ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงกว่าๆ ก่อนที่จะเข้าสู่ในตัวเมืองปาย ผมแวะที่สะพานประวัติศาสตร์ หรือสะพานท่าปายก่อน ซึ่งสะพานก็มีการปรับปรุงให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้นครับถ่ายรูปได้นิดๆหน่อยๆก็เกิดอาการหิวแล้วล่ะครับ มือเย็นยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ต้องรีบเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อหาอะไรใส่ท้อง ร้านที่แวะมากินร้านแรกเลยก็ไม่พ้นร้านหมูกระทะตรงหัวสะพาน เหตุผลที่ดูเอเซียเลือกที่จะแวะร้านนี้ก่อนรสชาติก็โอเค ราคาก็สบายกระเป๋า แถมยังพุงกางอีกด้วยถึงพุงกางแต่ยังพอมีท้องให้ใส่แอลกอล์ฮอล์ได้อีก คืนนี้ในเมืองปายดูเอเซียเลยร่ำสุราจนดึกดื่น แหมม…ก็มาปายทั้งทีจะเอาแต่เสพบรรยากาศก็ใช่ที่ ต้องเสพมันให้ครบไม่งั้นมันเหมือนมาไม่ถึง ถ้าใครเป็นคนที่มาปายในยุคแรกๆก่อนที่ปายจะดังเป็นพลุอย่างทุกวันนี้ จะรู้ว่าเสน่ห์เมืองปายอยู่ที่ใหน.. แต่ไม่ว่าจะร่ำจะเสพยังไง ดูเอเซียก็ยังมีสติพอจะกลับที่พักได้อย่างไม่มีอันตรายทุกๆปีผู้คนจะหลั่งใหลมาที่ปายกัน และจะมาเยอะมากๆในช่วงหน้าหนาว แต่จริงๆแล้วไม่ว่าจะฤดูใหนๆ เมืองปายก็ยังคงน่าเที่ยวไปตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ชาวต่างชาติบางกลุ่มบางคนถึงกับมาอยู่เป็นเดือนๆ หรือเป็นปีๆเลยก็มี

ตื่นเช้าวันใหม่ที่แรกที่ดูเอเซียไปก็คือหมู่บ้านสันติชน หรือบ้านรักไทย เมื่อครั้งที่แล้วมาจิบชาที่นี่แล้วติดอกติดใจมาครั้งนี้ก็ไม่พลาดที่จะต้องจิบชาที่บ้านรักไทยอีก ที่หมู่บ้านรักไทยนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม มีขาหมู หมั่นโถวที่อร่อยถูกใจ ใครมาแล้วต้องทานให้ได้นะครับ แต่ที่เห็นเปลี่ยนไปในบ้านรักไทยก็เห็นจะเป็นด้านหลังที่เมื่อก่อนเป็นที่ว่างเปล่า ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นรีสอร์ท ที่มีห้องพักเป็นสิบๆห้อง ดูสวยงามกว่าเมื่อก่อนมาก หากใครสนใจมาพักที่นี่ผมว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยล่ะครับ บรรยากาศโล่งโปร่งดีมากๆเหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆเลย.. และจุดเด่นอีกอย่างที่บ้านรักไทยก็คือชิงช้า ซึ่งก็ยังคงอยู่ในจุดเดิม และยังมีความแข็งแรงอยู่อย่างเดิมเลยครับ มาแล้วถ้าใจถึงผมว่าน่าจะลองเล่นดูนะ..เสียวๆวูบๆดี.. เล่นที่ใหนก็ไม่มันส์เท่าที่นี่หรอกครับ

จากบ้านรักไทยดูเอเซียแวะมาไหว้พระที่วัดน้ำฮู ซึ่งวัดนี้เมื่อครั้งที่แล้วที่มาปายดูเอเซียได้นำเสนอข้อมูลให้ได้ชมกันแล้ว มาครั้งนี้ก็แวะมาไหว้พระ และปิดทองพระธาตุเพื่อเป็นศิริมงคลครับ อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดในวัดน้ำฮูคือการไปไหว้รูปปั้นพระนเรศวรและพระนาง… ที่ศาลากลางน้ำด้วยนะครับจากวัดน้ำฮูดูเอเซียเข้ามาสำรวจในตัวเมืองปายในช่วงกลางวัน ในเวลากลางวันหลายๆคนอาจจะยังนอนอยู่ แต่หลายๆคนก็อาจจะท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆรอบๆนอกเมืองปาย ทำให้ในเมืองไม่คึกคักนัก เท่าที่สังเกตุดู เห็นความเปลี่ยนแปลงไปหลายๆจุดเหมือนกัน อย่างเช่น บริเวณสี่แยกไฟแดง ถนนคนเดิน มีร้านเกิดใหม่คือร้านแมวชมภู ที่เพิ่งจะเปิดตัวได้หมาดๆ ประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่ดูเอเซียจะมานี่เอง ในช่วงกลางวันมีของแนะนำคือติ่มซำ ที่ผู้จักการร้านเค้าการันตีว่าอร่อยสุดยอดดด… และช่วงเย็นๆไปก็เป็นร้านนั่งดื่มได้ครับ

ตรงมุมถนนตรงข้ามร้านแมวชมภูก็มีร้านอีกร้านที่ตกแต่งได้อย่างสะดุดตา ใช้สีเหลืองครีมเป็นสีหลักตัดด้วยสีฟ้าสดใส วาดลวดลายเป็นดอกไม้ตรงบานประตู มีโต๊ะและม้านั่งทรงคลาสสิคอยู่ด้านหน้าร้าน ดูๆแล้วชวนอยากให้เข้าไปนั่งที่สุด ร้านที่ว่านี้ชื่อ “ปายหนาว” จริงๆแล้วเป็นร้านกาแฟของ Black canyon เค้า แต่ตกแต่งร้านให้เข้าบรรยากาศกับที่ปาย เลยออกมาแบบนี้ สวยเด่นสะดุดตามากๆเลยครับตรงสี่แยกนี้ งานนี้ดูเอเซียก็ไม่พลาดที่จะไปหย่อนตูดซดกาแฟ พักกายพักใจในร้านปายหนาว ดูเอเซียถามผู้จัดการเค้า เค้าบอกว่าเพิ่งย้ายจากด้านในถนนคนเดินมาอยู่ตรงนี้ได้ 3 เดือนนี่เองพักเหนื่อยในร้านปายหนาวได้พักใหญ่ ดูเอเซียเดินทางต่อรอบๆในเมืองปาย ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อปีก่อนนัก ด้านฝั่งริมน้ำท้ายสุดถนนคนเดินก็ยังคงเหมือนเดิม หลายๆคนนิยมไปถ่ายรูปบนสะพานไม้ใผ่ที่นั่น ด้านซ้ายขาวของถนนก็มีร้านอาหารและขายของที่ระลึกต่างๆ แต่อาจจะมีการตกแต่งร้านให้ดูสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยด้านรอบๆนอกตัวเมืองก็น่าเที่ยวไม่น้อย หากใครมีแรงมากก็ปั่นจักรยานเที่ยวได้ อากาศดีมากๆ วิวทิวทัศน์ก็สวยงามไม่มีเปลี่ยน หากใครแรงน้อยๆก็หาเช่ามอร์ไซด์ขี่เที่ยวเล่นก็เป็นอีกกิจกรรมที่น่าทำในช่วงกลางวัน สถานที่รอบนอกที่อยากจะแนะนำ ก็มีวัดพระธาตุแม่เย็นที่อยูบนเขาสูง สามารถมองเห็นตัวเมืองปายได้อีกจุดหนึ่ง หากไปไม่สายมากนัก หมอกจะสวยงามมาก และยังมีน้ำตกแม่เย็น วัดตาลเจ็ดต้น น้ำตกหัวช้าง วัดพระบาท น้ำตกหมอแปง น้ำตกม่วงสร้อย และอีกเยอะแยะครับ..ต้องลองๆขับขี่เล่นๆกันดูครับ แล้วจะรู้ว่าปายมีอะไรมากมายกว่าที่คุณเห็นครับจบทริปในวันนี้ก็ขอให้เที่ยวปายกันด้วยความสุขและสนุกสนานนะครับ หากใครขับขี่รถมาก็ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ด้วยนะครับ ส่วนดูเอเซียเองก็นอนที่ปายเพียงแค่คืนเดียว หลังจากที่ทัวร์เก็บภาพรอบๆปายแล้วก็เดินทางกลับ แต่กว่าจะได้กลับก็เกือบดึกแล้วเหมือนกัน การเดินทางก็ค่อนข้างจะสบายมากว่าตอนมาเพราะรถที่วิ่งบนถนนมีน้อย และระหว่างโค้งเราสามารถสังเกตุว่ามีรถสวนมาหรือไม่จากแสงไฟหน้ารถได้ และการเดินทางกลับของดูเอเซียย่นเวลาได้ดีทีเดียว จากปายมาเชียงใหม่ก็ 2ชั่วโมงนิดๆเท่านั้นเอง ยังไงก็ขอให้ใช้รถใช้ถนนกันอย่างระมัดระวังนะครับ

ขอบคุณภาพ  บ้านรักไทย ( แม่ฮ่องสอน )

เชิญแสดงความคิดเห็น