ตามกลิ่น”ณเดชน์-ญาญ่า”กับเหล่าดารา…แอ่วเหนือม่วนใจ๋ ไปตามรอยหนัง-ละครดัง

0

จุดเริ่มต้นของการไปเที่ยวของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป บ้างก็มีเพื่อนชวนไป บ้างก็ไปกับครอบครัว หรือบางคนเปิดเว็บไซต์ดูภาพสวยๆ แล้วก็แพ็คกระเป๋าออกเดินทางตามที่ใจอยาก แต่สำหรับการขึ้นไปแอ่วเมืองเหนือในครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ และละครไทยหลายๆ เรื่อง ที่ใช้สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของเมืองไทยเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือ     

ณเดชน์-ญาญ่า กับไร่กะหล่ำปลีที่ภูทับเบิก

       เห็นภาพจากจอที่ดูสวยสดงดงาม ก็เลยเกิดอาการอยากไปตามรอยกับเขาดูบ้าง จะได้เห็นธรรมชาติของจริงแบบ 360 องศา แถมไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆ ก็ยิ่งช่วยให้มีอารมณ์ร่วมในการดูหนังดูละครมากขึ้น มาลองดูกันว่า มีโลเคชั่นไหน จากเรื่องอะไรบ้าง ที่ติดตาถูกใจจนต้องแพ็คกระเป๋าเดินทางตามรอยหนัง-ละคร

แปลงสตรอเบอร์รี่บนดอยอ่างขาง

       ธรณีนี่นี้คือ…ภูทับเบิก

เริ่มต้นที่ละครกระแสแรงแห่งยุค “ธรณีนี่นี้ใครครอง” ที่มี ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบท “อาทิจ” และ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์ปันด์ รับบท “ดรุณี” ซึ่งนอกจากจะมีแฟนๆ ตั้งจารอดูคู่พระ-นางแล้ว โลเคชั่นต่างๆ ในเรื่องก็น่าดูชมมิใช่น้อย อย่างเช่นฉากไร่กะหล่ำปลี ที่ไปถ่ายทำกันที่ ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ในฉากที่เห็นจากละคร จะเห็นไร่กะหล่ำปลีปลูกเรียงรายไปตามไหล่เขา โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีอากาศพอเหมาะ และด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งนับเป็นจุดที่สูงสุดของเพชรบูรณ์ จึงทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นเป็นทะเลภูเขาไปสุดลูกหูลูกตา มีอากาศเย็นสบายบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในตอนเช้า หากว่าตื่นมารับอากาศเย็นๆ แล้ว ก็อาจจะชักภาพทะเลหมอกตัดกับขุนเขา ดูคล้ายยืนอยู่ในความฝัน

บ้านวงศ์บุรีในรอยไหม

       นอกจากวิวสวยๆ ที่ภูทับเบิกแล้ว ละครเรื่องนี้ก็ยังไปถ่ายทำกันที่แปลงปลูกสตรอเบอร์รี่ที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของสถานที่อยู่แล้ว นอกจากจะไปดูดอกไม้นานาสายพันธุ์ที่ชูช่อเบ่งบานในช่วงฤดูที่ต่างกันไป ก็ยังมีผักผลไม้ที่สลับสับเปลี่ยนกันออกผลผลิตให้ได้ชิมได้ชมกัน

ความสำคัญของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง นอกจากจะเป็นที่เที่ยวยอดฮิตในปัจจุบันแล้ว ก็ยังเป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ที่เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นให้กลายมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว ให้ชาวเขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้

ขบวนส่งตัวเจ้านางมณีริน หน้าวัดพระธาตุลำปางหลวง

       ตามรอยไหม ไปบ้านวงศ์บุรี

ถ้าบอกชื่อ “ผีอีเม้ย” หลายคนอาจจะรู้จักมากกว่า “เรริน” หรือ “เจ้านางมณีริน” จากละครเรื่อง “รอยไหม” ที่ส่วนหนึ่งของละครจะย้อนไปในยุคล้านนา โลเคชั่นที่ถ่ายทำจึงใช้พื้นที่ภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่ ดังเช่นเรือนของเจ้านางมณีริน ในเมืองเชียงใหม่ ก็ใช้ บ้านวงศ์บุรี จ.แพร่ เป็นสถานที่ถ่ายทำ

บ้านวงศ์บุรีสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2440 เป็นอาคารเรือนปั้นหยา สองชั้นแบบยุโรปประยุกต์ ตกแต่งด้วยลวดลายแบบเรือนขนมปังขิง ได้ก่อสร้างโดยช่างชาวจีนกวางตุ้ง ให้มีลวดลายไม้แกะสลักประดับทั่วตัวบ้านจุดเด่นของบ้านวงศ์บุรีคือลวดลายไม้แกะสลักที่หน้าจั่ว ชายคา ระเบียง ช่องลม ชายน้ำ หน้าต่าง และประตู ลักษณะการตกแต่งภายในบ้านตกแต่งด้วยเครื่องใช้เก่าแก่ของตระกูล ได้แก่ เครื่องเรือน เครื่องเงิน เครื่องปั้นดินเผา และเอกสารที่สำคัญต่างๆ

ส่วนฉากขบวนส่งตัวของเจ้าหญิงมณีริน ก็ถ่ายทำที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีฉลู ตามความเชื่อของชาวล้านนา โดยตัววัดมีการจัดวางผังและองค์ประกอบของวัดได้สมบูรณ์ที่สุดตามจักรวาลคติ มีองค์พระธาตุเป็นศูนย์กลาง อีกจุดสนสนใจก็คือ มหัศจรรย์ภาพพระธาตุหัวกลับที่ไม่ควรพลาดจะเข้าชม

และหากดูในยุคปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ที่นางเอกแอบเข้าไปทอผ้าจนสำเร็จก็คือพิพิธภัณฑ์เก็ตถวา ซึ่งถ่ายทำที่ คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ ความงดงามอยู่ที่ลวดลายฉลุของไม้บนปั้นลมและชายคาน้ำ ส่วนเครื่องแต่งกายที่เห็นว่าสวยงามหนักหนานั้น หากอยากไปชมความงดงามของลวดลายในผ้าแบบต่างๆ ก็สามารถไปชมได้ที่ พิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณ

น้ำตกรักจัง

       รักจัง…สวนสนบ่อแก้ว

มาต่อกันกับภาพยนตร์เรื่อง “รักจัง” เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทำ ณ สวนสนบ่อแก้ว จ.เชียงใหม่ นำแสดงโดย ฟิล์ม รัฐภูมิ และ พอลล่า เทเลอร์ สวนสนบ่อแก้วเป็นแปลงเพาะพันธุ์สน ที่มีแนวต้นสนปลูกเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษและเป็นแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสนสามใบ และยูคาลิปตัส บนเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ อากาศที่นี่ชื้นและเย็นตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวนิยมมาชมบรรยากาศกันในตอนเช้า เพราะนอกจากอากาศที่บริสุทธิ์แล้วยังได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าอีกด้วย และด้วยความสวยงามของทิวสนที่เป็นระเบียบงามตา จึงทำให้บริเวณสถานีปลูกต้นสนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม

ส่วน น้ำตกผาดอกเสี้ยว ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายทำ ที่ภายหลังจากภาพยนตร์ฉายแล้วมีชื่อเล่นว่า “น้ำตกรักจัง” โดยอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีทั้งหมด 10 ชั้น แต่ชั้นที่ควรเข้าไปชมอย่างยิ่งก็คือชั้นที่ 7 เพราะสายน้ำจากชั้นบนจะตกลงมากระทบน้ำตกชั้นล่าง เป็นสายน้ำสีขาวลอยล่อง และยังมีสะพานไม้สำหรับเดินข้ามลำธาร เพิ่มความน่ามองยิ่งขึ้น

และนอกจากน้ำตกรักจังที่มีคนเข้าไปเที่ยวมากขึ้นแล้ว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ก็มีนักท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าไปเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ อ.ปาย ภายหลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2548 กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

       ม่อนแจ่มในอุโมงค์ผาเมือง

จากภาพยนตร์เรื่อง “อุโมงค์ผาเมือง” นำแสดงโดยมาริโอ้ เมาเร่อ, อนันดา เอเวอริงแฮม, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ในฉากตัดสินคดีโดย ”เจ้าหลวงแห่งนครผาเมือง” ได้ไปถ่ายทำที่ ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ ม่อนแจ่มจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักแห่งใหม่ของเชียงใหม่ เป็นพื้นที่บนสันเขา ในระดับความสูงประมาณ 1,350 เมตร จากระดับน้ำทะเล และเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อ.แม่ริม บนม่อนแจ่มมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ไม่เพียงเท่านั้นม่อนแจ่มยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก หากมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์ของ อ.แม่แตง และอ.แม่ริม หากวันไหนโชคดีสภาพฟ้าอากาศเป็นใจก็สามารถมองเห็นระยะไกลได้ถึงดอยหลวงเชียงดาวเลยทีเดียว

ไร่ชาฉุยฟง จากรักออกอากาศ (ภาพ : http://61.19.247.136/~chouifong/index.shtml)

       ลุยไร่ชากับรักออกอากาศ

ส่วนละครดังอย่างเรื่อง “รักออกอากาศ” ที่ได้ “เชอร์รี่” เข็มอัปสร สิริสุขะ รับบท “สมใจ” และ อรรคพันธ์ นะมาตร์ รับบท “คุณากร” หรือ “เจ้าคุณ” ละครเรื่องนี้ถ่ายทำกันที่ ไร่ชาฉุยฟง จ.เชียงราย บรรยากาศของไร่ชาโดยรอบปกคลุมด้วยหมอกตลอดปี มีการปลุกชาในลักษณะปลูกโค้งวน ตามสันเขาและลดหลั่นเป็นขั้นบันได จึงดูสวยงามแปลกตากว่าไร่ชาที่อื่น และทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเชียงราย ที่เมื่อดูภาพที่ถ่ายทอดผ่านละครนั้นช่างสวยงาม น่าไปเยี่ยมเยือนเสียจริงๆ

ทุ่งบัวตองสีทองอร่าม

       ลอยล่องบนทุ่งบัวตองกับ The Melody

ขึ้นดอยมาตามภาพยนตร์เรื่อง “The Melody” กันที่ วนอุทยานทุ่งบัวตอง(ดอยแม่อูคอ) จ.แม่ฮ่องสอน ที่ได้ แดน วรเวช ดานุวงศ์ มาเป็นนักแสดงนำในเรื่อง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กำหนดให้ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ เป็นหนึ่งในสิบสองเดือน ตามโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน โดยมีจุดเด่นคือ “ขุนเขาแห่งทะเลดอกไม้สีทอง” ทุ่งดอกบัวตองมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี อากาศที่นี่ในฤดูหนาวจะมีอากาศค่อนข้างหนาวมาก และตอนเช้าจะมีหมอกทึบ ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ดอกบัวตองจะบานสะพรั่งกลายเป็นทะเลดอกไม้สีทองอร่ามไปทั่วทั้งดอย

นอกจากสถานที่ต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ในภาพยนตร์และละครอีกหลายๆ เรื่องก็ใช้แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ ซึ่งก็สวยงามไม่น้อยหน้ากันเลย นอกจากจะได้ภาพออกมาสวยงาม ชวนให้ติดตามชมกันแล้ว ก็ยังช่วยส่งเสริมสถานที่นั้นๆ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และมีคนจำนวนมากมายที่อยากไปเดินตามรอยหนังละครที่ชื่นชอบ นับว่าภาพยนตร์-ละครไทยก็เป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในยุคนี้

ขอขอบคุณข้อมูล http://www.manager.co.th

ร่วมแสดงความคิดเห็น