นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกศิลาวารีพันธุ์ไม้หายาก ลุ่มน้ำชมภูทุ่งแสลงหลวง

0

ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นายทักษิณ มงคลคมรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปเที่ยวชมและตรวจพื้นที่แก่งคันนา และแก่งป่ากะซาว หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาตทุ่งแสลวงหลวง ที่ 5 (สล.5) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หมู่ 3 บ้านชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบริเวณลุ่มน้ำชมภู มีดอกไม้หินหรือดอกศิลาวารี ซึ่งเป็นดอกไม้พันธุ์หายาก มีลักษณะเป็นดอกตูมเล็กๆ ขนาดประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร มีส้มอมเหลืองแดง สวยงาม หากอยู่ใต้น้ำดอกศิลาวารีจะมีสีสันสวยงาม มีทั้งสีเขียว เหลือง แดง สลับกันไป และถ้าน้ำลดก็จะยืนเป็นกิ่งดอกออกเหนือก้อนหิน มีอายุประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะแห้งเหี่ยวติดกับโขดหินไป

14182155641418215833l14182155641418215808l

นายทักษิณ กล่าวว่า ดอกศิลาวารีถือว่าเป็นดอกไม้หายาก ซึ่งจะพบในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ไม่มีสารพิษ ซึ่งแต่ละปีก็จะออกดอกในช่วงเดือนพ.ย.-ม.ค. โดยพบมากที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และพบอีกแห่งหนึ่งคือที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงจะมีจำนวนมากกว่า โดยดอกศิลาวารีที่พบมากมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่ศึกษาพบมากคือสาย Podostemaceae (เพอดอส เทอมาซี่) นอกจากนี้ ยังพบว่ามีดอกไม้หินที่แปลกแตกต่างจากดอกศิลาวารีทั่วไปคือ เป็นสีน้ำน้ำตาลดำติดกับก้อนหิน สวยงาม

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นทางอุทยานฯ ก็จะจัดงบประมาณส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเตรียมจัดทำป้ายบอกทาง ป้ายขั้นตอนการดูดอกศิลาวารี ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาชมไม่ควรเหยียบย้ำ หรือนำไปปลูกที่อื่น ควรถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็พอ โดยจุดที่ชมดอกศิลาวารีนั้นจะอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ (สล.5) เพียง 3 กม. เท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าหรือขี่รถจักรยานไปเที่ยวชมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในวันนี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างจังหวัดมาเที่ยวชมดอกศิลาวารีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพอทราบข่าวว่า มีดอกไม้หายาก ต่างก็เดินทางมาชมและถ่ายภาพกัน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด จะมีนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะคอยดูแลความเรียบร้อยให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

เชิญแสดงความคิดเห็น