รัฐฉาน

MyanmarShanตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศ มีพรมแดนติดกับประเทศจีน ลาว และไทย รวมถึงรัฐกะฉิ่นและรัฐกะยา เขตสกาย เขตมัณฑเลย์ มีประชากรราว 4.7 ล้านคน รัฐฉานเป็นรัฐที่มีความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์มากที่สุด มีชนเผ่าอยู่รวมกันมากมายกว่า 80 ชาติพันธุ์  ทำให้มีภาษาถิ่นมากมายตามไปด้วย ลสาบกลางหุบเขา มีระดับความสูงกว่า ห้าพันฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การดำรงชีวิตของชาวบ้านในทะเลสาบอาศัยน้ำเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือสวนมะเขือเทศ ที่ทำกินต่างก็ลอยอยู่เหนือน้ำทั้งสิ้น นอกจากนี้การพายเรือในทะเลสาบก็พายด้วยขา ไม่ใช้มือพายเช่นที่อื่นๆ นับเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวอินตา ชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งของทะเลสาบอินเลแห่งนี้ วัดที่สำคัญในทะเลสาบอินเล ได้แก่ วัดพองดอว์อู ซึ่งประดิษฐาน พระบัวเข็มห้าองค์ ซึ่งมีประวัติและตำนานของความศักดิ์สิทธิ์มากว่าเก้าร้อยปี ตั้งแต่สมัยพุกาม  วัดงาแพชอง วัดที่เจ้าฟ้าไทยใหญ่สร้างถวาย ภายในเป็นที่รวบรวมบัลลังก์พระพุทธรูปทำด้วยไม้สักแกะสลัก ฝีมือละเอียดงดงามมาก  นอกจากนี้มีโรงงานทอผ้าไหมอินเล  ซึ่งมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

อาณาเขตของเมืองไตประกอบด้วยเมืองรวมทั้งหมด 33 เมืองแต่ละเมือง ปกครองด้วยระบบเจ้าฟ้าสืบต่อเนื่องกันมาตั้งแต่อดีต และถึงแม้จะมีเจ้าฟ้าปกครองหลายเมือง แต่ทุกเมืองก็รวมกันเป็นแผ่นดินชนชาติไต เนื่องมาจากที่ตั้งของเมืองไตอยู่ใกล้กับประเทศพม่าเมืองไตกับประเทศพม่ามี การติดต่อค้าขายช่วยเหลือ และให้ความเคารพซึ่งกันและกันมาโดยตลอด เห็นได้จากในช่วงที่เจ้าฟ้าเมืองไตปกครองประเทศพม่าประมาณเกือบ 300 ปีไม่เคยมีการสู้รบกันเกิดขึ้น และยังมีการติดต่อค้าขายยังดำเนินไปอย่างสันติสุขเช่นกัน จนกระทั่งมาถึงสมัยบุเรงนอง ได้มีการสู้รบกันกับเจ้าฟ้าเมืองไตกับกษัตริย์พม่าเกิดขึ้น โดยฝ่ายเจ้าฟ้าเมืองไตเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงทำให้ราชวงศ์เจ้าฟ้าบางเมือง ต้องจบสิ้นไปดังเช่นราชวงศ์เจ้าฟ้าเมืองนายซึ่งเป็นราชวงศ์ของกษัตริย์มัง ราย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายราชวงศ์ที่ต้องสูญสิ้น ไปเพราะการสู้รบกับบุเรงนองจนมาถึงในสมัยพระเจ้าอลองพญา (พ.ศ. 2305 2428) ซึ่งเป็นสมัยที่อยุธยาตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า กษัตริย์พม่าได้ทำการปราบปรามราชวงศ์ หรือผู้สืบเชื้อสายของเจ้าฟ้าไทใหญ่จนหมดสิ้นไปเป็นจำนวนมาก อาจกล่าวได้ว่าไตได้เป็นเมืองขึ้นของพม่าไปแล้ว และในช่วงเวลานี้ทหารพม่าได้เริ่มการกดขี่ข่มเหงทำร้ายคนไต ทำให้คนไตรู้สึกเกลียดชังคนพม่านับตั้งแต่นั้น
ปัจจุบันสถานการณ์ภายในรัฐฉานก็ยังไม่มี เสถียรภาพทางความมั่นคงเท่าใดนัก และก็ยังมีกองกำลังกู้ชาติของตนเองอยู่ หากในช่วงที่ไม่มีการปะทะกับฝ่ายรัฐบาลทหารพม่า รัฐฉานก็จะมีความเงียบสงบซึ่ง เป็นพื้นฐานความต้องการที่แท้จริงของ ชาวไตหรือไทใหญ่ และพวกเขายังหวังลึกๆว่าสักวันหนึ่งรัฐฉานจะได้เป็นเอกราชของตนเอง ไม่ขึ้นกับทางพม่าอีกต่อไป

ลักษณะภูมิประเทศ
ของรัฐฉานเต็มไปด้วยภูเขาสูงและผืนป่า พื้นที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สินค้าส่งออกที่สำคัญของรัฐฉานจึงเป็นจำพวกแร่ธาตุและไม้ชนิดต่างๆ
รัฐฉานมีตำแหน่งที่ตั้ง
ทิศเหนือ ติดกับ รัฐกะฉิ่น และมณฑลยูนนาน (เขตเต๋อหง เขตเป่าซาน เขตหลินซาง เขตซือเหมา และเขตสิบสองปันนา) ประเทศจีน
ทิศใต้ ติดกับ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประเทศไทย รัฐกะยา และรัฐกะเหรี่ยง
ทิศตะวันออก ติดกับ แขวงหลวงน้ำทา และ แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว
ทิศตะวันตก ติดกับ มณฑลสะกาย และ มณฑลมัณฑะเลย์
การปกครอง
พื้นที่ 60,155 ตารางไมล์ แบ่งการปกครองเป็น 11 แขวง 54 เมือง 193 ตำบล
1. แขวงตองยี
2. แขวงลอยแหลม
3. แขวงจ๊อกแม
4. แขวงหมู่แจ้
5. แขวงเล่าก์ก่าย
6. แขวงกุนโหลง
7. แขวงล่าเสี้ยว
8. แขวงเชียงตุง
9. แขวงเมืองสาด
10. แขวงเมืองพยาค
11. แขวงท่าขี้เหล็ก

ประชากร
ประชากร 4.7 ล้านคน
ความหนาแน่น 75 คน/ตารางไมล์

เชื้อชาติ
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของไทใหญ่นอกจากนั้นก็จะมีชาวพม่า ชาวจีน ชาวกะฉิน ชาวดนู ชาวอินทา ชาวปะหล่อง ชาวปะโอ ชาวพม่าเชื้อสายอินเดีย ชาวกะหรี่ยง ชาวไทลื้อ ชาวคำตี่ ชาวไทดอย เป็นต้น

ศาสนา
ประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาพุทธ รองลงมาจะเป็นศาสนาคริสต์ซึ่งมีอิทธิพลมากในหมู่ชาวเขา ศาสนาอิสลามในหมู่ชาวอินเดีย และฮ่อ ศาสนาฮินดูในหมู่ชาวอินเดีย และศาสนาพื้นเมืองเดิมดั้งเดิมในหมู่ชาวเขาที่ล้าหลัง

แหล่งท่องเที่ยวรัฐฉานประเทศพม่า

ทะเลสาบอิน เล ตั้งอยู่ในหุบเขาแห่งรัฐฉาน เป็น ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของพม่า มีพื้นที่ 44.9 ตารางไมล์ (116 ตร.กม.) ฤดูแล้ง ความลึกโดยเฉลี่ยของน้ำอยู่ที่ 7 ฟุต แต่ฤดูฝนน้ำจะลึกเพิ่มขึ้นอีก 5 ฟุต หรือ 1.5 เมตร พื้นที่สันปันน้ำ จะขยายจากทางเหนือไปยังตะวันตกของทะเลสาบ น้ำในทะเลสาบจะไหลลงสู่ทางตอนใต้ ซึ่งบริเวณดังกล่าว มีน้ำพุร้อน ทางชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือแม้ทะเลสาบจะไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ปลาอยู่หลากหลายพันธุ์ และ มีปลา 9 สายพันธุ์ ซึ่งพบได้ที่นี่เพียงแห่งเดียวในโลก

 

วิถีชีวิตชาวอิน ตา
การเที่ยวทะเลสาบอินเล นอกจากการชื่นชมกับภูมิประเทศ และ ธรรมชาติที่บริสุทธิ์แล้ว การสัมผัส วิถีชีวิตของชาวเมือง อย่าง ชาวอินตา ก็เป็นอีกเสน่ห์หนึ่งที่ นักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยือนจะประทับใจไปนานแสนนาน กล่าวถึงขาวอินตา ชาวอินตา กว่า 70000 คน ได้อพยพมาจากตาแวและตะนิ่นตายี แต่สงครามอันยืดเยื้อระหว่างพม่ากับไทยในศตวรรษที่ 18 ทำให้พวกเขาต้องทิ้งถิ่นฐาน หนีมาตั้งรกรากอยู่ที่ทะเลสาบอินเลแทน พวกเขา ดำรงชีวิต กระจายเป็น 4 หมู่บ้านหลักๆ ซึ่งปลูกบ้าน สร้างเรือน บริเวนขอบๆ ของทะเลสาบ นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่ง และ ในทะเลสาบ บ้านแต่ละหลัง จะสร้างโดยใช้ไม้และ แฝกที่ใช้มุงเป็นหลังคา การเดินทางภายในทะเลสาบจะใช้เรือเล็ก หรือ เรือยนต์ชาวประมงจะพายเรือด้วยวิธีการที่น่าทึ่งอย่าง พายเรือด้วยขาเพียงข้างเดียวการทำสวนผักลอยน้ำและการหาปลา นอกจากนี้ พวกเขายังชำนาญงานด้านช่างโลหะ ช่างไม้ และช่างทอผ้า จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่ร่ำรวยที่สุดในพม่า ย่ามกับ โลงจี อันมีชื่อของรัฐฉานที่วางขายกันอยู่ทั่วประเทศก็ทอขึ้นจากหูกทอผ้าของชาวอินตานี่เอง

 

เจดีย์ป่าวต่ออู ( Phaungdaw Oo Pagoda)

เจดีย์ป่าวต่ออู เป็นเจดีย์ที่มีพระพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่ 5 องค์ แต่ช่วงงานบุญประเพณีในเดือนตุลาคม จะแห่เพียงสี่องค์ พระพุทธรูป ทั้ง5 นี้ พระเจ้าอลองสิทธู ทรงนำกลับมาจากแหลมมลายู ในศตวรรษที่ 12 และโปรดให้นำไปไว้ยังถ้ำใกล้ทะเลสาบ จนอีกร้อยปี ให้หลังจึงมีคนไปพบเข้า และได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในเจดีย์ป่าต่ออู มีผู้เลื่อมใสศรัทธา หลั่งไหลมาปิดทององค์พระกันไม่ขาดสาย ยิ่งทองหนาขึ้น องค์พระยิ่งดูเหมือนลูกบอลทองคำลูกกลมๆเข้าไปทุกที ช่วงงานบุญประเพณีป่าวต่ออู จะมีการอัญเชิญ พระพุทธรูปขึ้นเรือหลวงแห่ไปตามชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในละแวกทะเลสาบ 10 แห่ง เป็นเวลาสองสัปดาห์เต็ม หัวเรือทำเป็นรูปนกการเวกปิดทองอย่างสวยงาม ดูคล้ายงานพระราชพิธีในสมัยโบราณมาก การที่อัญเชิญพระพุทธรูปออกมาเพียง 4 องค์ มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า แต่เดิมนั้น ชาวบ้านอัญเชิญ พระพุทธรูปออกมาแห่ทั้ง 5 องค์ แต่ในปี พ.ศ.1965 เกิดพายุใหญ่ ทำให้เรือพลิกคว่ำ จมลงก้นทะเลสาบชาวบ้านช่วยกันงมพระพุทธรูปขึ้นมา แต่ก็พบเพียงสี่องค์เท่านั้น

ครั้นเมื่อนำพระพุทธรูปทั้งสี่กลับมาที่วัด กลับพบพระพุทธรูปองค์ที่ 5 ซึ่ึ่งงมเท่าไหร่ก็ไม่พบ ตั้งรออยู่ในสภาพที่ยังมีเศษวัชพืชติดอยู่เต็มองค์ เป็นที่น่าอัศจรรย์ นับแต่นั้นมาจึงไม่มีการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ออกไปไหนเลย ส่วนตำแหน่งที่เรือพลิกคว่ำ ปัจจุบันได้สร้างเสาปักเอาไว้เป็นที่หมาย หัวเสา ทำเป็นรูป ฮิ่นตา (หงส์) งานบุญประเพณีนี้ดึงดูดชาวพม่าได้จากทั่วสารทิศ นอกจากขบวนแห่พระพุทธรูปแล้วยังมีการแข่งขันพายเรือขาเดียวของชาวอินตาให้ได้ชมกันอีกด้วย

 

ถ้ำปิ่นตะยา(Pindaya cave)

เป็นถ้ำโบราณอยู่ห่างตัวเมือง 45 กม. เป็น สถานที่ สำหรับ นักแสวงบุญ บริเวณสันเขา มีถ้ำอยู่ 3 แห่ง วางตามแนวเขาจากเหนือจรดใต้ ซึ่งมีเพียงถ้ำทางใต้เท่านั้นที่สามารถเข้าไป และชมได้ ถ้ำปิ่นตะยาเป็นถ้ำหินปูน เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูป กว่า 8000 องค์ ในระแวกใกล้เคียงนั้นยังมี อีก 2 ถ้ำ คือ ชเวอูมิน และ ปะดะห์ ลิน บางส่วนของถ้ำตกแต่งด้วย จิตรกรรมฝาผนัง นับเป็น อีกหนึ่ง Unseen ของพม่าที่้ไม่ควรพลาดชม

Restaurant in Heho  รัฐฉาน

No. RESTAURANT NAME ADDRESS
1. MR TOE Tel: 09 512 4861
Near Phaung Daw Oo Pagoda, Inle Lake
2. SEVEN SISTERS RESTAURAN Tel : 081-50216
KALAW
3. MEMENTO RESTAURANT Tel : 081-24436/24234
PINDAYA
4. KYAN LITE RESTAURANT PINDAYA
5. PINDAYA SCENE RESTAURANT Tel : 081-209477/209478
PINDAYA
6. SHWE DANU RESTAURANT PINDAYA
7. ANN’S RESTAURANT Tel : 09 519 2952
Myayni Gone Village,NgaPhayeChaung P.O,Inle.
8. INN THA LAY RESTAURANT Tel : 081-209451
Near Phaung Daw Oo Pagoda, Inle Lake.
9. SHWE HINN THA RESTAURANT Inle Lake
10. NAN PAN RESTAURANT Tel : 081-209255/ 095212836
Nga Phe Chaung Village,Inle Lake,Myanmar

อ้างอิง:วิกีพีเดียสารานุกรมเสรีี์,หนังสือหน้าต่างสู่โลกกว้าง รัฐฉาน

เชิญแสดงความคิดเห็น